นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวภายหลัง การประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนครั้งที่ 51 (AEM) ว่า การประชุมครั้งนี้มีความคืบหน้ามากโดยเฉพาะได้เห็นชอบเอกสารรวม 4ฉบับ คือ ฉบับที่ 1 ก็คือเรื่องแผนการดำเนินงานด้านดิจิทัล ของอาเซียนในปี 2019 – 2025 ฉบับที่ 2 ก็คือเรื่องการเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมไปสู่อุตสาหกรรม 4.0 ฉบับที่ 3 ก็คือในเรื่องของแนวทางการพัฒนาคน เพื่อรองรับ 4IR และฉบับที่ 4 คือ แนวทางการส่งเสริมการใช้ดิจิทัลของ MSMEs โดยที่ประชุมให้ความเห็นชอบให้ปฏิบัติ
อย่างไรก็ตาม การประชุมครั้งนี้ ถือว่ามีความคืบหน้าเป็นอย่างยิ่ง ที่ทั้ง 10 ประเทศอาเซียน จะได้รับประโยชน์ร่วมกัน อย่างน้อยที่สุดก็ในประเด็นที่หนึ่ง ในเรื่องของการที่จะได้ผนึกกำลังกันในการเตรียมการรับมือกับอนาคต ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการเปลี่ยนแปลงกระบวนการการผลิตสินค้าและบริการ ที่จะมีเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามา หรือว่าในเรื่องของการเตรียมรับมือเรื่องของคนที่จะต้องสามารถสอดรับกับความเปลี่ยนแปลงของโลก
- ทำฟันประกันสังคม ไม่ต้องสำรองจ่าย เดือน มี.ค. 67 ยอด 169 ล้านบาท
- รู้ไหม ? 31 มณฑลจีน ชอบสินค้าอะไรของไทย
- “ทางรัฐ” ซูเปอร์แอปแห่งชาติ รองรับแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท
รวมถึงการผลักดันเทคโนโลยีทางด้านการผลิตสินค้าและบริการที่เปลี่ยนแปลงไป นอกจากนั้น ก็จะเป็นประโยชน์ในเรื่องของการส่งเสริมการค้าระหว่างกัน ในการเพิ่มตัวเลขการส่งออก การลดปัญหาอุปสรรคทางการค้าซึ่งกันและกัน รวมไปถึงการร่วมกันลดอุปสรรคทางการค้ากับประเทศคู่ค้านอกอาเซียนด้วย อย่างไรก็ดี ยังเป็นการเปิดโอกาสให้เอสเอ็มอี มีโอกาสที่จะพัฒนาตัวเองเข้าไปสู่ยุคเศรษฐกิจยุคใหม่ ที่จะต้องใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาช่วยในการพัฒนาตนเอง เพื่อที่จะมีส่วนสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศต่อไป และก็เป็นการเพิ่มศักยภาพและความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจฐานราก และสร้างรายรายได้ให้กับเศรษฐกิจต่อไปด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากนี้จะมีการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน เพื่อหารือในการเตรียมการสำหรับการที่จะเจรจากับคู่เจรจาทั้งหมด 12 คู่ด้วยกัน ในวันที่ 8 – 10 กันยายนนี้ 2562 ประกอบด้วย อาเซียน-จีน อาเซียน-เกาหลีใต้ อาเซียน-ญี่ปุ่น อาเซียน-อินเดีย อาเซียน-ออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์ อาเซียน-รัสเซีย และอาเซียน-สหรัฐ และอาเซียน-แคนาดา และอาเซียน-สภาที่ปรึกษาธุรกิจอาเซียน ต่อไปด้วยเป็นต้น
