
รัฐทุ่ม 12 ล้านบาท ให้กระทรวงศึกษาธิการจัดงานวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2567 เสาร์ที่ 13 ม.ค. ทั่วประเทศ ไฮไลต์แจกของขวัญกว่าแสนชิ้น พร้อมพาเด็กเก่งสร้างชื่อเสียงให้ประเทศ 1,220 คน เข้าพบเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีที่ทำเนียบรัฐบาล
วันที่ 5 มกราคม 2567 พลตำรวจเอกเพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า ศธ.จัดงานฉลองวันเด็กแห่งชาติมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2498 โดยจัดขึ้นเป็นครั้งแรกของประเทศไทย เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2498 และในปี พ.ศ. 2499 สมัยจอมพล ป.พิบูลสงคราม ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี คำขวัญวันเด็กมีขึ้นครั้งแรกว่า “จงบำเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นและส่วนรวม” และถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติมาจนถึงปัจจุบัน
อย่างไรก็ตาม เด็กและเยาวชนนับเป็นทรัพยากรที่มีคุณค่าของประเทศ และเป็นกำลังสำคัญของสังคมในการพัฒนาชาติบ้านเมืองให้เจริญก้าวหน้า ศธ.เป็นหน่วยงานหลักที่มีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรงต่อเด็กและเยาวชนไทยทั้งประเทศ ในการเสริมองค์ความรู้ และการพัฒนาให้เป็นทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณค่า มีความสำคัญของประเทศ โดยยึดแนวปฏิบัติตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ ด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์
โดยเฉพาะแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ (พ.ศ. 2561-2580) ในประเด็นที่ให้ความสำคัญต่อการพัฒนาศักยภาพคนตลอดช่วงชีวิต การสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพมนุษย์และการพัฒนาเด็ก
การจัดงานวันเด็กแห่งชาติ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้เด็กและเยาวชนมีความยึดมั่น ในสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เพื่อให้ประชาชนตระหนักถึงความสำคัญของเด็กและเยาวชน สนใจในการเลี้ยงดูอบรมสั่งสอนเด็กและเยาวชน ตลอดจนให้เด็กได้รู้จักหน้าที่ของตน และอยู่ในระเบียบวินัยอันดี พร้อมทั้งเป็นการเผยแพร่ปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิของเด็ก นอกจากนี้ยังเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนให้เด็กและเยาวชนมีสุขภาพที่ดี ทั้งร่างกายและจิตใจ

พลตำรวจเอกเพิ่มพูนกล่าวต่อว่า วันเด็กปีนี้ตรงกับวันเสาร์ที่ 13 มกราคม 2567 โดยนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้ให้คำขวัญวันเด็กปีนี้ว่า “มองโลกกว้าง คิดสร้างสรรค์ เคารพความแตกต่าง ร่วมกันสร้างประชาธิปไตย” ซึ่งจัดขึ้นภายใต้แนวคิด “เรียนดี มีความสุข” “จับมือไว้แล้วไปด้วยกัน”
“การจัดงานวันเด็กในปีนี้จะมีกิจกรรมมากมาย พร้อมมีศิลปิน ดารา อาทิ นักแสดงจากละครเรื่องพรหมลิขิต มาร่วมให้ความบันเทิงจำนวนมาก ทั้งนี้ ศธ.และหน่วยงานราชการต่าง ๆ ยังเปิดรับผู้ใหญ่ใจดีที่จะมาร่วมจัดกิจกรรม โดยหวังว่าการจัดงานวันเด็กปีนี้จะมีความแปลกใหม่มากขึ้น และคาดหวังว่าการจัดงานวันเด็กปี 2568 จะยิ่งใหญ่ขึ้นกว่าปีนี้ รวมถึงจะเปิดห้องทำงานให้เด็ก ๆ ได้มีโอกาสนั่งเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการ ศธ.ด้วย
นอกจากนี้ผมยังคาดหวังว่า ต่อไปเด็ก ๆ จะได้มีโอกาสไปเรียนในภาคอุตสาหกรรม ดูเรื่องเทคโนโลยีต่าง ๆ เพื่อให้มีความฝันในการทำงาน ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องไฟฟ้า ระบบการทำงานต่าง ๆ ตามสังคมโลกที่เปลี่ยนแปลงไปคือ โลกดิจิทัล เพื่อเติมเต็มทรัพยากรมนุษย์ให้ครบทุก ๆ ด้าน”
ด้านนายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการ ศธ.กล่าวต่อว่า สำหรับมีกิจกรรมสำคัญ 2 กิจกรรม ได้แก่ กิจกรรมที่ 1 การคัดเลือกเด็กและเยาวชนดีเด่น เด็กและเยาวชนที่นำชื่อเสียงมาสู่ประเทศชาติ ที่มีผลงานและความสามารถระดับชาติ เข้าเยี่ยมคารวะและรับโอวาทจากนายกรัฐมนตรี พร้อมรับโล่รางวัลจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในวันพุธที่ 10 มกราคม 2567 ณ บริเวณตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล
ซึ่งเด็กและเยาวชนจากทั่วประเทศ ที่ผ่านการคัดเลือกจากส่วนราชการ/หน่วยงาน 17 หน่วยงาน จำนวน 1,220 คน แบ่งเป็นเด็กและเยาวชนดีเด่น จำนวน 604 คน เด็กและเยาวชนที่นำชื่อเสียงมาสู่ประเทศชาติ จำนวน 279 คน เด็กและเยาวชนที่นำชื่อเสียงมาสู่ประเทศชาติ (ประเภททีม) จำนวน 337 คน
กิจกรรมที่ 2 การจัดงานฉลองวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2567 วันเสาร์ที่ 13 มกราคม 2567 ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการเป็นเจ้าภาพหลักประสานความร่วมมือกับหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนจัดงานในส่วนกลางขึ้น ณ ศธ. และสถานที่ตั้งของส่วนราชการ หน่วยงาน ส่วนกลาง ในส่วนภูมิภาคทั้ง 76 จังหวัด
“ศธ.ได้มอบหมายให้ศึกษาธิการจังหวัด (ศธจ.) ประสานงานจัดกิจกรรมฉลองงานวันเด็กขึ้นในทุกจังหวัด การจัดงานฉลองวันเด็กแห่งชาติ โดยรัฐบาลได้พิจารณาจัดสรรงบประมาณในการจัดงาน จำนวน 12 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนการจัดงานให้กับส่วนราชการ เพื่อให้เด็ก ๆ เกิดกระบวนการเรียนรู้ในทุกรูปแบบการเรียน มุ่งเน้นกิจกรรม Active Learning ที่สามารถเรียนรู้ได้ในทุกสถานที่ (Anywhere Anytime) และส่งเสริมให้เกิดแรงบันดาลใจในการเรียน
โดยเน้นการ Coaching เป็นการแสดงออกถึงความร่วมมือร่วมใจกันของส่วนราชการ/หน่วยงาน และภาคเอกชน ที่พร้อมใจกันจัดงานเพื่อส่งมอบความสุขให้แก่เด็ก ๆ”
ทั้งนี้ ในงานฉลองวันเด็กแห่งชาติ ที่ ศธ.ได้มีส่วนราชการ หน่วยงานต่าง ๆ และศิลปิน ดารา นักแสดงจากละครพรหมลิขิต น้องปีเตอร์แพน น้องซีน และพี่ติ๊ก ชีโร่ มาร่วมจัดกิจกรรม อาทิ เปิดพิพิธภัณฑ์การศึกษาไทย ห้องทำงานรัฐมนตรีว่าการ ศธ. และรัฐมนตรีช่วยว่าการ ศธ. ให้เด็กและเยาวชนได้เยี่ยมชมหน่วยงานในสังกัด ศธ.
ร่วมจัดกิจกรรมสร้างความสนุกสนาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จัดกิจกรรมบันเทิง มุ่งเน้นความสนุกสนาน กระทรวงพาณิชย์ จัดกิจกรรมตอบปัญหาเชาวน์ปัญญา และแจกของที่ระลึก กระทรวงวัฒนธรรม จัดกิจกรรมส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ด้านวัฒนธรรม กระทรวงอุตสาหกรรม จัดกิจกรรมเกมเสริมทักษะความรู้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จัดกิจกรรมโชว์สุนัขตำรวจ และขี่ม้า