ฟิตภาษากับ SkyRocket เรียน-ทำการบ้านผ่านระบบออนไลน์

โลกยุคดิจิทัลเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ธุรกิจการศึกษาต้องปรับตัวด้วยการนำเทคโนโลยีเข้าไปผนวกใช้กับการเรียนการสอน เพื่อรองรับเทรนด์ปัจจุบันและอนาคต รวมถึงไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลง

ในแง่ของบริษัทเกิดใหม่อย่าง สถาบันสอนภาษา สกายร็อคเก็ต (SkyRocket) โดย บริษัท ไอ.ที.เอ็ดดูเทนเม้นต์ จำกัด จึงนำเทคโนโลยีมาเป็นธงนำในการสร้างความโดดเด่นให้กับธุรกิจ เพราะทุกสเต็ปของการเรียนการสอนล้วนใช้เทคโนโลยีทั้งสิ้น

“ปณิธิ อินทราวุธ” ผู้ร่วมก่อตั้ง และซีอีโอฝ่ายบริหารแบรนด์และการตลาด บริษัท ไอ.ที. เอ็ดดูเทนเม้นต์ จำกัด ให้ข้อมูลว่า หลักสูตรของสถาบันใช้ชื่อว่า English Galaxy โดยมีความร่วมมือกับ NetDragon Websoft ประเทศจีน ในการนำ Promethean Active Table & Active Panel เทคโนโลยีการเรียนการสอนแบบใหม่มาใช้เป็นแห่งแรก และเป็นที่เดียวในประเทศไทย ซึ่งได้ผสมผสานกับระบบการสอน YLE (Young Learner English) ของเคมบริดจ์

“ครูจะสอนผ่าน Interactive Board หรือ Interactive Table ขณะเดียวกัน นักเรียนสามารถทำการบ้านผ่านแอปพลิเคชั่นได้ เหมือนเป็นหลักสูตรและห้องเรียนแห่งอนาคต เพราะไม่มีการเรียนในหนังสือ ทุกอย่างเป็นดิจิทัลทั้งหมด สื่อการสอนแบบนี้จะช่วยให้นักเรียนพัฒนาประสาทการรับรู้ และกระตุ้นให้เกิดความอยากเรียนมากขึ้น”

กลุ่มเป้าหมายของ SkyRocket คือ เด็กอายุ 2.5 ขวบถึง 12 ปี โดยจะมีคอร์สเรียน 5 ระดับ ที่แบ่งตามช่วงวัย และค่อย ๆ เพิ่มความยากในแต่ละระดับ เริ่มจากหลักสูตร Rocketeer อายุ 2.5-4 ปี, Preflight อายุ 5-6 ปี, Cadets อายุ 7-8 ปี, Pilots อายุ 9-10 ปี และ Commanders อายุ 11-12 ปี

“แต่ละหลักสูตรใช้เวลาเรียน 6 เดือน รวม 60 ชั่วโมง แบ่งเป็น 36 ชั่วโมงสำหรับการเรียนในห้องเรียน และอีก 24 ชั่วโมง เป็นการทำกิจกรรม หรือกล่าวอีกแง่หนึ่งคือการเรียนแต่ละครั้ง ซึ่งใช้เวลาเรียน 1.30 ชั่วโมง เด็กจะได้เรียน 40 นาที และเวลาที่เหลือเป็นการทำกิจกรรมเสริมทักษะ เพราะเราไม่อยากให้เด็กใช้เทคโนโลยีมากเกินไป จึงหาสมดุลว่าเด็กต้องเรียนในห้อง และทำกิจกรรมควบคู่ไปด้วย โดยทั้งหมดจะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เป็นภาษาอังกฤษ”

กิจกรรมที่ “ปณิธิ” กล่าวถึงจะแบ่งเป็นหลากหลายรูปแบบ อาทิ Tech Time เรียนรู้วิธีการใช้เทคโนโลยีอย่างถูกวิธี, Let’s Do it เสริมสร้างความมั่นใจในตัวเองผ่านกิจกรรมกลุ่ม, Busy Hands พัฒนาศักยภาพ และจินตนาการผ่านการทำงานศิลปะ, Letter Said More เรียนรู้ถึงสิ่งรอบตัวผ่านทางตัวอักษรและสัญลักษณ์ต่าง ๆ

Story Time เปิดจินตนาการผ่านนิทาน และฝึกฝนเด็กให้สามารถเล่าเรื่องต่อหน้าสาธารณะได้, Music & Me เสริมสร้างทักษะทางดนตรี, Brain Buzz กิจกรรมสอนให้มีวิธีคิดบวก และสามารถแก้ปัญหาเฉพาะหน้าอย่างมั่นใจ และ It’s a special day การจัดกิจกรรมพิเศษร่วมกันในทุกเดือน เพื่อให้เด็ก ๆ ได้เรียนรู้ถึงวัฒนธรรมที่หลากหลาย

สำหรับค่าเรียนอยู่ที่ประมาณ 50,000 บาท ในทุกหลักสูตร ยกเว้นหลักสูตร Rocketeer จะมีค่าเรียนประมาณ 30,000 บาท เพราะมีจำนวนชั่วโมงเรียนน้อยกว่าหลักสูตรอื่น คือ เกือบ 30 ชั่วโมง อีกทั้งเน้นกิจกรรมเสริมทักษะมากกว่าการเรียนในห้องเรียน

ทั้งนี้ “ปณิธิ” บอกว่า การเรียนของ SkyRocket ไม่ใช่การเรียนเพื่อไปสอบ แต่ต้องการให้เด็กสามารถนำไปใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน โดยการวัดผลหลัก ๆ จะเป็นการให้เด็กทำแบบฝึกหัดเมื่อเรียนจบแต่ละคลาส ซึ่งด้วยความที่การเรียนเป็นออนไลน์ทั้งหมด จึงสามารถเก็บข้อมูลแล้วส่งไปยังครูได้ทันที ทำให้ครูรู้ว่าเด็กมีพัฒนาการอย่างไร และต้องส่งเสริมด้านไหนเพิ่มเติม นอกจากนั้น ครูสามารถแชร์ผลการเรียนของเด็กไปยังผู้ปกครอง โดยผ่านแอปพลิเคชั่น Class Mind ที่จะช่วยให้สามารถติดตามพัฒนาการของเด็กได้แบบเรียลไทม์

“จุดเด่นของเราคือเป็นทั้งโรงเรียนเสริมทักษะ และสอนภาษาอังกฤษไปพร้อมกัน แต่ของที่อื่นจะแยกเฉพาะเลยในการเป็นโรงเรียนเสริมทักษะ หรือเป็นโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษ ซึ่งเรามองว่าตลาดของโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง เพราะผู้ปกครองมองเห็นความสำคัญของภาษาอังกฤษ แต่ก็มีส่วนน้อยมากที่สามารถส่งลูกไปเรียนอินเตอร์หรือเมืองนอกได้”

“เมื่อโรงเรียนนานาชาติไม่เพียงพอต่อความต้องการ เราจึงเปิด SkyRocket มารองรับดีมานด์ของเด็กและผู้ปกครองในส่วนนี้ โดยสาขาแรกอยู่ที่เซ็นทรัล พลาซา บางนา บนพื้นที่ 300 ตร.ม. สามารถรองรับนักเรียนได้ 500-600 คน ใช้งบฯลงทุน 20 ล้านบาท”

ขณะที่แผนธุรกิจในช่วง 5 ปีแรก มีแผนขยายสาขาให้ได้ 10 สาขา ซึ่งปีหน้าจะเปิดสาขาใหม่ 2 แห่ง ในห้างสรรพสินค้า เน้นพื้นที่ที่อยู่แถบชานเมือง และมีหมู่บ้านระดับ B+ นอกจากนั้นยังมีแผนที่จะเปิดหลักสูตร Mandarin Galaxy ที่สอนภาษาจีน และหลักสูตรการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ (โค้ดดิ้ง) สำหรับเด็กอีกด้วย

“ความต้องการโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษ หรือสอนพิเศษด้านภาษาอังกฤษนั้นเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และโตมากกว่าซัพพลาย อย่างโรงเรียนนานาชาติก็เต็ม และเปิดใหม่เยอะมาก โรงเรียนสอนภาษาอังกฤษที่อยู่ในตลาดก็มีหลักสูตรที่คนคุ้นเคยอยู่แล้ว ซึ่งด้วยเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไป กลายเป็นโอกาสของเราอย่างมาก เพราะยังไม่มีใครในตลาดที่ใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาใช้ในการเรียนการสอนอย่างเต็มรูปแบบเลย”

จึงเป็น “จังหวะ” และ “ก้าวสำคัญ” ของ SkyRocket ในการบุกธุรกิจสถาบันสอนภาษา และมุ่งสู่ผู้นำตลาดในอนาคต