นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 30 มกราคม 2561 คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (มาตรการสิทธิประโยชน์ทางภาษีแก่นักลงทุนที่ลงทุนในวิสาหกิจเริ่มต้น (Angel Investor))
โดยกำหนดให้ผู้มีเงินได้ที่ได้จ่ายเป็นเงินลงทุนในหุ้นเพื่อจัดตั้งหรือลงทุนในหุ้นเพิ่มทุนของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่เป็นวิสาหกิจเริ่มต้น (Startup) สามารถนำเงินลงทุนดังกล่าวมาหักลดหย่อนในการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้ตามจำนวนที่จ่ายจริงแต่รวมกันทั้งหมดแล้วไม่เกิน 100,000 บาท สำหรับปีภาษีนั้นโดยผู้มีเงินได้ต้องถือหุ้นในบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลนั้น ไม่น้อยกว่า 2 ปีต่อเนื่องกันนับแต่วันที่ลงทุนในหุ้นนั้น เว้นแต่ทุพพลภาพหรือตาย โดยมีเงื่อนไข ดังนี้
- ร้อนทะลุ-โลกเดือด “เอลนีโญ” ถึง “ลานีญา” ถล่มประเทศไทย
- กดเงินไม่ใช้บัตร ATM พุ่ง 3 เท่า แห่เปิดใช้ข้ามแบงก์-เพิ่มค่าฟี
- ธ.ก.ส. เผย สินเชื่อดอกเบี้ยล้านละร้อย เหลือวงเงินกู้อีก 1.5 หมื่นล้าน
1. ผู้มีเงินได้ดังกล่าว ไม่รวมถึงห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคลและกองมรดกที่ยังไม่ได้แบ่ง
2. ผู้มีเงินได้ต้องจ่ายเป็นเงินลงทุนในหุ้นของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลมีคุณสมบัติ ดังนี้
(1) บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย และจดทะเบียนจัดตั้งขึ้นตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2558 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2562
(2) มีทุนชำระแล้วในวันสุดท้ายของรอบระยะเวลาบัญชีไม่เกิน 5 ล้านบาท และมีรายได้จากการขายสินค้าและการให้บริการในรอบระยะเวลาบัญชีไม่เกิน 30 ล้านบาท ในรอบระยะเวลาบัญชีที่ใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้
(3) มีรายได้จากการขายสินค้าและการให้บริการของกิจการที่ประกอบอุตสาหกรรมเป้าหมายหรือรายได้เกี่ยว
เนื่องกับกิจการที่ประกอบอุตสาหกรรมเป้าหมายอย่างใดอย่างหนึ่งหรือรวมกันไม่น้อยกว่าร้อยละแปดสิบของรายได้ทั้งหมดในรอบระยะเวลาบัญชีของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลนั้น
3. กรณีผู้มีเงินได้ได้ใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้แล้ว และต่อมาไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ผู้มีเงินได้จะหมดสิทธิได้รับยกเว้นภาษีเงินได้
4. การให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีข้างต้น มีผลบังคับใช้สำหรับเงินได้ที่จ่ายเป็นเงินลงทุนในหุ้นเพื่อจัดตั้งหรือลงทุนในหุ้นเพิ่มทุนของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลไปในระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2561 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2562
ทั้งนี้ มาตรการดังกล่าวจะมีส่วนช่วยให้ผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมรายใหม่ที่มีการนำเทคโนโลยี นวัตกรรม การวิจัยและพัฒนาเชิงสร้างสรรค์ มีแหล่งเงินทุนที่จะนำไปใช้ในการดำเนินการในช่วงระยะเวลาการบ่มเพาะธุรกิจให้ธุรกิจมีความเข้มแข็งและมีศักยภาพอย่างต่อเนื่อง และช่วยส่งเสริมการขับเคลื่อนโครงสร้างทางเศรษฐกิจของประเทศด้วยอุตสาหกรรมเป้าหมายสู่อุตสาหกรรมแห่งอนาคตของรัฐบาลภายใต้นโยบายประเทศไทย 4.0 รวมทั้งเป็นการส่งเสริมการดำเนินธุรกิจในรูปแบบนิติบุคคลมากยิ่งขึ้น