คดีแอชตันอโศก “อนันดาฯ” เร่งเดินหน้า 5 แนวทางแก้ปัญหา ประสานแบงก์ปรับเงื่อนไขผ่อนอุ้มลูกค้า

คดีแอชตันอโศก

อนันดาฯ ชี้แจงความคืบหน้าแนวทางแก้ปัญหาตามคำพิพากษา “คดีแอชตันอโศก” ชี้มี 5 แนวทาง ยื่นขอใบอนุญาตก่อสร้างใหม่-ร้องศาลพิจารณาคดีใหม่-ประสานเจ้าของเดิมให้ขอคืนที่ดินที่ถูกเวนคืนจาก รฟม.-ชงหน่วยงานภาครัฐแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องผ่าน รฟม.-เสนอแก้กฎหมายผ่าน กทม.

วันที่ 23 สิงหาคม 2566 นายชานนท์ เรืองกฤตยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ANAN แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ ถึงความคืบหน้าคดีโครงการแอชตัน อโศก ว่า บริษัท อนันดา เอ็มเอฟ เอเชีย อโศก จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย อยู่ระหว่างดำเนินการตามแนวทางแก้ไขปัญหา 5 แนวทาง ดังนี้

1.การยื่นขอใบอนุญาตก่อสร้างใหม่ โดยการซื้อ หรือหาที่ดินเพิ่มเติม

บริษัท อนันดา เอ็มเอฟฯ ได้หารือแนวทางการแก้ไขร่วมกับสำนักการโยธา กรุงเทพมหานคร (สนย.) เพื่อดำเนินการให้เข้าหลักเกณฑ์ตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 33 ซึ่งระบุว่าที่ดินที่ใช้เป็นที่ตั้งอาคารขนาดใหญ่พิเศษจะต้องมีด้านใดด้านหนึ่งยาวไม่น้อยกว่า 12 เมตร ติดถนนสาธารณะ ปัจจุบันบริษัทมีแนวทางในการจัดหาที่ดิน โดยได้พิจารณาทั้งการซื้อ หรือหาที่ดิน และ/หรือการได้รับสิทธิตามกฎหมายในที่ดิน โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปในการหาที่ดินใหม่โดยเร็วที่สุด

ภายหลังการหารือ บริษัท อนันดา เอ็มเอฟฯ ได้ประเมินขั้นตอนการดำเนินงาน ซึ่งรวมถึงระยะเวลาในการแก้ไข/ขอใบรับแจ้งก่อสร้างอาคารใหม่ มีรายละเอียดดังต่อไปนี้

1) บริษัท อนันดา เอ็มเอฟฯ จะเสนอรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EA) ไปยังสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) เพื่อพิจารณา และอาจต้องมีการแก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งจะใช้ระยะเวลาประมาณ 2 เดือน

2) เมื่อได้รายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EA) ฉบับสมบูรณ์แล้ว บริษัท อนันดา เอ็มเอฟฯ จะยื่นขออนุญาตก่อสร้างอาคาร ตามมาตรา 39 ทวิ ซึ่งสำนักการโยธา กรุงเทพมหานคร (สนย.) จะใช้ระยะเวลาในการพิจารณาออกใบรับแจ้งการก่อสร้างอาคาร ตามมาตรา 39 ทวิ ประมาณ 14 วันทำการ

3) เมื่อบริษัท อนันดา เอ็มเอฟฯ ได้รับใบรับแจ้งการก่อสร้างอาคาร ตามมาตรา 39 ทวิ บริษัท อนันดา เอ็มเอฟฯ จะดำเนินการก่อสร้างเพื่อแก้ไขทางเข้าออกโครงการใหม่ เพื่อให้เป็นไปตามรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาในการดำเนินการประมาณ 3 เดือน

4) เมื่อบริษัท อนันดา เอ็มเอฟฯ ดำเนินการก่อสร้างข้างต้นเรียบร้อย สำนักการโยธา กรุงเทพมหานคร (สนย.) จะเข้าตรวจสอบการก่อสร้างของโครงการ และออกใบรับรองการก่อสร้าง (อ.5) ซึ่งสำนักการโยธากรุงเทพมหานคร (สนย.) จะใช้ระยะเวลาในการพิจารณาออกใบรับรองการก่อสร้าง (อ.5 ประมาณ 14 วันทำการ

ประมาณการระยะเวลาในการดำเนินงาน ซึ่งรวมการแก้ไข และ/หรือขอใบรับแจ้งก่อสร้างอาคารใหม่ และอื่น ๆ ทั้งหมดประมาณ 6 เดือน นับจากวันที่หาที่ดินใหม่เรียบร้อย

2.การยื่นคำร้องต่อศาลปกครองเพื่อขอให้พิจารณาพิพากษาคดีใหม่

การยื่นคำร้องต่อศาลปกครองเพื่อขอให้พิจารณาพิพากษาคดีใหม่ อาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 มาตรา 75 ที่กำหนดเหตุในการขอพิจารณาพิพากษาคดีใหม่ ดังต่อไปนี้

1) ศาลปกครองฟังข้อเท็จจริงผิดพลาด หรือมีพยานหลักฐานใหม่อันอาจทำให้ข้อเท็จจริงที่ ฟังเป็นยุติแล้วนั้น เปลี่ยนแปลงไปในสาระสำคัญ

2) คู่กรณีที่แท้จริง หรือบุคคลภายนอกนั้นมิได้เข้ามาในการดำเนินกระบวนพิจารณาคดี หรือได้เข้ามาแล้วแต่ถูกตัดโอกาสโดยไม่เป็นธรรมในการมีส่วนร่วมในการดำเนินกระบวนพิจารณา

3) มีข้อบกพร่องสำคัญในกระบวนพิจารณาพิพากษาที่ทำให้ผลของคดีไม่มีความยุติธรรม

4) คำพิพากษาหรือคำสั่งนั้นได้ทำขึ้นโดยอาศัยข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายใด และต่อมาข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายนั้นเปลี่ยนแปลงไปในสาระสำคัญซึ่งทำให้ผลแห่งคำพิพากษาหรือคำสั่งขัดกับกฎหมายที่ใช้บังคับอยู่ในขณะนั้น

โดยขณะนี้ บริษัท อนันดา เอ็มเอฟฯ กำลังพิจารณาเหตุในการยื่นคำร้องเพื่อพิจารณาคดีใหม่ข้างต้น ซึ่งมีอยู่หลายกรณี เช่น กรณีมีความคลาดเคลื่อนในการแสวงหาข้อเท็จจริง การรับฟังพยานหลักฐานในกระบวนพิจารณาของศาล และกรณีที่ในอนาคตกฎหมายที่ใช้ในการพิจารณาพิพากษามีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงไป เป็นต้น

สำหรับแนวทางดังกล่าวข้างต้น ต้องดำเนินการภายใน 90 วัน นับแต่วันที่ทราบเหตุดังกล่าว แต่ต้องไม่เกิน 5 ปี นับแต่วันที่มีคำพิพากษา ซึ่งบริษัท อนันดา เอ็มเอฟฯ คาดว่าจะยื่นคำร้องต่อศาลปกครอง ภายใน 90 วันนับแต่วันที่ศาลปกครองมีคำพิพากษา (วันที่ 27 กรกฎาคม 2566)

 3. ประสานเจ้าของเดิมให้ขอคืนที่ดินที่ถูกเวนคืนจากการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.)

บริษัท อนันดา เอ็มเอฟฯ อยู่ระหว่างการประสานเจ้าของที่ดินเดิม เพื่อขอคืนที่ดินที่การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ไม่ได้ใช้ตามวัตถุประสงค์แห่งการเวนคืน โดยอาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติเวนคืนที่ดินฯ พ.ศ. 2562 มาตรา 53 และกฎกระทรวงการขอคืนที่ดินที่ถูกเวนคืน พ.ศ. 2564

 4.เสนอให้หน่วยงานภาครัฐแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องผ่านการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เสนอผ่านกระทรวงคมนาคม และคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบ เพื่อเสนอเรื่องให้รัฐสภาอนุมัติ

โดยบริษัท อนันดา เอ็มเอฟฯ จะเสนอให้หน่วยงานภาครัฐแก้ไขพระราชบัญญัติที่เกี่ยวข้องกับการเวนคืนเพื่อขยายขอบเขตให้หน่วยงานภาครัฐใช้ที่ดินที่เวนคืนภายใต้วัตถุประสงค์ และสามารถใช้ที่ดินเพื่อประโยชน์อื่นอย่างเหมาะสมด้วย ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวต้องเสนอแก้ไขโดยการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ผ่านกระทรวงคมนาคม และคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบ เพื่อเสนอเรื่องให้รัฐสภาอนุมัติ โดยคาดว่าจะใช้ระยะเวลาดำเนินการประมาณ 1 ปี นับจากวันที่หน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องข้างต้นยกร่างเสนอแก้ไขกฎหมาย

 5.เสนอให้หน่วยงานภาครัฐแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ผ่านสำนักการโยธา กรุงเทพมหานคร (สนย.) ไปยังกรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย ไปยังคณะรัฐมนตรี

โดยบริษัท อนันดา เอ็มเอฟฯ จะเสนอให้หน่วยงานภาครัฐแก้ไขกฎกระทรวง ฉบับที่ 33 เพื่อแก้ไขให้เกิดความชัดเจนให้ที่ดินที่ไม่มีด้านใดด้านหนึ่งติดถนนสาธารณะ แต่มีที่ดินอื่นที่สามารถใช้ประโยชน์เป็นทางเข้าออกของรถดับเพลิงได้ไม่น้อยกว่า 12 เมตร ให้สามารถใช้ที่ดินนั้นเป็นที่ตั้งของอาคารสูงหรืออาคารขนาดใหญ่พิเศษได้

ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวต้องเสนอแก้ไขโดยสำนักการโยธา กรุงเทพมหานคร ไปยังกรมโยธาธิการและผังเมือง เพื่อเสนอกระทรวงมหาดไทย ไปยังคณะรัฐมนตรี ซึ่งคาดว่าจะใช้ระยะเวลาดำเนินการประมาณ 3 เดือน นับจากวันที่หน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องข้างต้นยกร่างเสนอแก้ไขกฎหมาย

ด้านแนวทางช่วยเหลือเรื่องการผ่อนชำระสินเชื่อของเจ้าของร่วมที่มีภาระผูกพันกับสถาบันการเงิน ทางบริษัท อนันดา เอ็มเอฟฯ ได้ประสานงานกับสถาบันการเงินหลักหลายแห่ง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในการผ่อนชำระสินเชื่อของเจ้าของร่วมที่ยังมีภาระผูกพันกับสถาบันการเงิน โดยเจ้าของร่วมสามารถยื่นขออัตราดอกเบี้ยพิเศษ (Retention) ไปยังสาขาของสถาบันการเงินที่ขอสินเชื่อ ทั้งนี้ ผลการพิจารณาจะเป็นไปตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของสถาบันการเงินแต่ละแห่ง

บริษัทและ บริษัท อนันดา เอ็มเอฟฯ มีความมั่นใจว่าการแก้ไขปัญหาตามแนวทางข้างต้นจะเป็นทางออกที่เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วที่สุด ทั้งนี้ หากมีความคืบหน้าเพิ่มเติม บริษัทจะแจ้งข่าวให้ทราบผ่านช่องทางของตลาดหลักทรัพย์ฯต่อไป