BITE SIZE : ใช้สิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ผ่านแอปถุงเงิน ต้องยืนยันตัวตน

Prachachat BITE SIZE
โดย พฤฒินันท์ สุดประเสริฐ

ตั้งแต่วันที่ 11 มีนาคม 2567 เป็นต้นไป กรมบัญชีกลาง กำหนดให้ผู้ที่มีสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐ หรือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ กว่า 14 ล้านคน ที่ต้องการใช้สิทธิต่าง ๆ กับร้านค้าผ่านแอปพลิเคชั่นถุงเงิน จะต้องสแกนใบหน้า พร้อมทั้งใช้รหัสตัวเลข 6 หลัก เพื่อยืนยันตัวตน และให้เกิดความโปร่งใส ป้องกันการทุจริตในการใช้สิทธิ

แล้วขั้นตอนการยืนยันตัวตนเพื่อใช้สิทธิสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐ มีอะไรบ้าง และมีอะไรที่ผู้ได้รับสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐควรรู้

Prachachat BITE SIZE สรุปรายละเอียดดังนี้

เปิดขั้นตอนใช้สิทธิสวัสดิการแห่งรัฐ ต้องยืนยันตัวตน

ขั้นตอนการใช้สิทธิสวัสดิการแห่งรัฐ เมื่อใช้สิทธิที่ร้านค้า ผ่านแอปพลิเคชั่นถุงเงิน มีดังนี้

  • แสดงบัตรประจำตัวประชาขน
  • กดรหัสคู่บัตร หรือรหัส PIN Code ซึ่งเป็นตัวเลข 6 หลักที่ผู้ได้รับสิทธิกำหนดไว้ตั้งแต่ช่วงยืนยันตัวตน
  • ร้านค้าต้องสแกนใบหน้าผู้ใช้สิทธิทุกครั้ง โดยมีข้อแนะนำการสแกนใบหน้า คือ ถอดหมวก แว่น หน้ากากอนามัย และลืมตาให้กว้าง

โดยขั้นตอนทั้งหมดนี้ ผู้ได้รับสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐ ต้องทำทุกคนเมื่อใช้สิทธิที่ร้านค้าถุงเงิน กว่า 1 แสนร้านค้า ยกเว้น 2 กรณี คือ

  1. กลุ่มผู้มอบอำนาจให้ดำเนินการแทน เช่น ผู้ป่วยติดเตียง ผู้พิการ ผู้สูงอายุที่เดินทางไปยืนยันตัวตนเองไม่ได้ เป็นต้น
  2. กลุ่มผู้ที่สแกนใบหน้า ไม่ผ่านตั้งแต่ขั้นตอนยืนยันตัวตน (e-KYC)

มีปัญหาเรื่องรหัส รหัสถูกล็อก ต้องทำอย่างไร ?

สำหรับผู้ที่มีปัญหาการใช้บัตร เรื่องรหัสคู่บัตร หรือรหัส PIN Code ที่ใช้ยืนยันสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐ โดยเฉพาะการถูกล็อกรหัส แบ่งเป็น 2 กรณี ดังนี้

กรณีจำรหัสเดิมได้

หากจำรหัสเดิมได้ ติดต่อขอปลดล็อกได้ที่ Welfare Call Center 0-2109-2345 โดยปลดล็อกได้ 2 รูปแบบ

  1. ทำรายการปลดล็อกผ่านระบบอัตโนมัติ ตลอด 24 ชั่วโมง
  2. ติดต่อเจ้าหน้าที่ เพื่อทำการปลดล็อกรหัส ในวันและเวลาทำการ (จันทร์-ศุกร์ 08.30-17.30 น.)

กรณีจำรหัสเดิมไม่ได้

หากจำรหัสเดิมไม่ได้ ติดต่อธนาคารกรุงไทย สาขาใกล้บ้าน เพื่อยืนยันตัวตนใหม่ พร้อมกำหนดรหัสคู่บัตร (PIN Code) 6 หลัก ชุดใหม่

ต้องการเปลี่ยนรหัส ทำอย่างไร ?

สำหรับผู้ที่ต้องการเปลี่ยนรหัส PIN Code สำหรับยืนยันใช้สิทธิสวัสดิการแห่งรัฐ เป็นรหัสใหม่ สามารถไปที่ตู้ ATM สีเทา ของธนาคารกรุงไทย เพื่อทำการตั้งรหัสผ่านใหม่ได้ โดยสังเกตที่หน้าแรก ต้องมีเมนู “ทำรายการด้วยบัตรประจำตัวประชาชน” และทำตามขั้นตอนในอินโฟกราฟิกด้านล่างนี้

ภาพจาก ธนาคารกรุงไทย

บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จ่ายอะไรบ้าง ?

โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 ผู้มีสิทธิสามารถใช้สิทธิผ่านบัตรประจำตัวประชาชนแบบสมาร์ทการ์ด โดยจะได้รับสิทธิ ดังนี้

วันที่ 1 ของทุกเดือน

  • วงเงินซื้อสินค้า 300 บาทต่อคนต่อเดือน
  • วงเงินส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม 80 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน (มกราคม – มีนาคม 2567)
  • วงเงินค่าเดินทางผ่านระบบขนส่งสาธารณะ 750 บาทต่อคนต่อเดือน ประกอบด้วย บขส. รถไฟ ขสมก. รถไฟฟ้า MRT (สายสีน้ำเงิน/สีม่วง) BTS (สายสีเขียว/สีทอง/สีเหลือง/สีชมพู) ARL (Airport Rail Link/สายสีแดง) และรถโดยสารเอกชนที่เข้าร่วมโครงการ

ทั้งนี้ วงเงินดังกล่าว เป็นวงเงินสิทธิไม่สามารถถอนเป็นเงินสดได้ และไม่สะสมในเดือนถัดไป

วันที่ 11-13 เดือนมีนาคม, มิถุนายน และกันยายน 2567

เงินสงเคราะห์เพื่อการยังชีพแก่ผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อยที่ได้รับสิทธิในโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 อัตรา 100 บาทต่อเดือน โดยการจ่ายและวันที่จ่าย เป็นไปตามอินโฟกราฟิกด้านล่างนี้

สำหรับการโอนเงินสงเคราะห์เพื่อการยังชีพแก่ผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อยที่ได้รับสิทธิในโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 จะโอนผ่าน 2 ช่องทาง ดังนี้

(1) บัญชีร่วมกับบุคคลอื่นหรือบัญชีบุคคลอื่น ตามหนังสือให้ความยินยอมโอนเงินสวัสดิการเข้าบัญชีร่วมกับบุคคลอื่นสำหรับผู้ได้รับสิทธิโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ (เฉพาะกรณีผู้พิการ/ผู้ป่วยติดเตียง/และหรือผู้สูงอายุที่มีอายุเกิน 60 ปีขึ้นไป ที่ไม่สามารถเปิดบัญชีหรือผูกพร้อมเพย์ได้)

หรือหนังสือให้ความยินยอมโอนเงินสวัสดิการเข้าบัญชีบุคคลอื่นสำหรับผู้ได้รับสิทธิโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ (เฉพาะกรณีผู้พิการ/ผู้ป่วยติดเตียง/และหรือผู้สูงอายุที่มีอายุเกิน 60 ปีขึ้นไปที่ไม่สามารถเปิดบัญชีหรือผูกพร้อมเพย์ได้) หรือ

(2) กรณีไม่มีบัญชีตาม (1) จะโอนเงินเข้าบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขประจำตัวประชาชนของผู้มีสิทธิ (ต้องผูกพร้อมเพย์ภายในวันที่ 6 มีนาคม 2567)

วันที่ 20 ของทุกเดือน

เงินเพิ่มเบี้ยความพิการ จำนวน 200 บาท

สำหรับผู้มีสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐที่เป็นคนพิการ ซึ่งมีบัตรประจำตัวคนพิการและได้รับเงินเบี้ยความพิการ 800 บาทต่อเดือน โดยโอนเงินผ่าน 2 ช่องทาง

  1. เข้าบัญชีเงินฝากธนาคารที่ผูกพร้อมเพย์ ด้วยเลขประจำตัวประชาชน 13 หลักของผู้มีสิทธิ
  2. บัญชีเงินฝากธนาคารของผู้มีสิทธิหรือผู้รับมอบอำนาจที่ใช้รับเงินเบี้ยความพิการ 800 บาท

หากมีข้อสงสัยสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Call Center กรมบัญชีกลาง หมายเลข 0-2270-6400 ในวัน เวลาราชการ และตรวจสอบร้านค้าถุงเงินที่รับสิทธิสวัสดิการประชารัฐ (วงเงินซื้อสินค้า) และสิทธิส่วนลดค่าก๊าซหุงต้ม ได้ที่เว็บไซต์ https://tungngern.krungthai.com/

อย่างไรก็ตาม วันที่ 11 มีนาคมที่จะถึงนี้ ซึ่งเป็นวันแรกของการเริ่มใช้จ่ายสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐแบบใหม่ ต้องติดตามว่าจะเกิดปัญหา หรือข้อติดขัดอะไรบ้าง

ติดตาม Prachachat BITE SIZE EP.45 ได้ที่ https://youtu.be/qQUcR2gHwNI