ชงบัตรคนจน2,865บ./คน ครม.เคาะสิงหาฯ/เฟส2ใส่ค่ารถไฟฟ้า

คลังชง ครม.ไฟเขียว “บัตรสวัสดิการคนจน” ใส่เงินหัวละ 2,865 บาทต่อเดือน เริ่ม 1 ต.ค. 60 เฟสแรกมีค่ารถเมล์-รถไฟ-บขส. ค่าไฟ-น้ำ ก๊าซหุงต้ม และส่วนลดร้านธงฟ้า เฟส 2 เล็งใส่ค่า “รถไฟฟ้า-เรือ” แจงมีบัตรที่พ่วงระบบตั๋วร่วม 1.3 ล้านใบ

นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง เปิดเผยว่า ในการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2561 ขณะนี้ได้มีการตัดลดงบประมาณสำหรับกองทุนประชารัฐเพื่อเศรษฐกิจฐานราก เหลือ 4.6 หมื่นล้านบาท จากเดิมที่ตั้งงบฯ 5 หมื่นล้านบาท โดยคาดว่า วันที่ 31 ส.ค. นี้ จะพิจารณาร่าง พ.ร.บ.วาระ 2 และวาระ 3

แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า งบฯ 4.6 หมื่นล้านบาทจากกองทุนประชารัฐเพื่อเศรษฐกิจฐานรากจะนำมาใช้ โดยแบ่งเป็น ส่วนแรก บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่จะเติมเงินให้แก่ผู้มีรายได้น้อยที่มีสิทธิประมาณ 2,865 บาท/คน/เดือน รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 2.8 หมื่นล้านบาท ส่วนที่เหลืออีกประมาณ 1.8 หมื่นล้านบาท จะใช้ในเรื่องการอบรมสร้างงาน สร้างอาชีพ โดยสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ร่วมกับกระทรวงแรงงาน และกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) จัดทำรายละเอียดอยู่

“ตอนนี้ เรื่องบัตรสวัสดิการสรุปแล้ว รอเสนอ ครม. (คณะรัฐมนตรี) อนุมัติใน 1-2 สัปดาห์นี้” แหล่งข่าวกล่าว

สำหรับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่ทางกรมบัญชีกลางจัดทำขึ้น จะฝังชิปการ์ด 2 ส่วน คือ ส่วนที่ใช้เป็นกระเป๋าเงิน กับส่วนที่เป็นระบบตั๋วร่วม (แมงมุม) โดยเฟสแรกจะเริ่มวันที่ 1 ต.ค. 2560 เป็นต้นไป โดยรัฐจะช่วยเหลือแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งแบ่งเป็นภาคการขนส่ง ช่วยค่าโดยสารรถประจำทาง 600 บาทต่อเดือน ค่ารถไฟ 1,000 บาทต่อเดือน และค่ารถ บขส. 800 บาทต่อเดือน

ขณะที่อีกส่วน จะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายนอกภาคการขนส่ง ได้แก่ ค่าไฟฟ้า 200 บาท ค่าก๊าซหุงต้ม 15 บาท (อาจปรับเปลี่ยน) ค่าน้ำ 150 บาท ลดการซื้อสินค้าร้านธงฟ้าประชารัฐ 100 บาท

“ในหมวดพลังงาน นอกจากช่วยค่าไฟ ทางกระทรวงพลังงานเสนอให้มีการช่วยค่าก๊าซหุงต้มไม่เกิน 50 บาท ในระยะ 3 เดือน” แหล่งข่าวกล่าว

นอกจากนี้ กระทรวงคมนาคมจะเสนอให้ช่วยเหลือสวัสดิการด้านค่าโดยสารรถไฟฟ้าด้วย แต่คาดว่าจะอยู่ในเฟส 2 และจะมีขยายไปค่าโดยสารเรือด้วย

แหล่งข่าวกล่าวว่า ขณะนี้การตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ พบว่า มีผู้ที่ผ่านเกณฑ์ประมาณ 11.6 ล้านคน จากจำนวนลงทะเบียนกว่า 14 ล้านคน โดยจะแบ่งเป็นผู้มีสิทธิในกรุงเทพฯและปริมณฑล รวมอยุธยา นครปฐม และสมุทรสาคร ราว 1.3 ล้านคน ซึ่งระบบตั๋วร่วมจะใช้กับผู้มีสิทธิกลุ่มนี้ ส่วนผู้มีสิทธิในจังหวัดอื่น ๆ ที่เหลือมีประมาณ 10.3 ล้านคน

“ทางสำนักนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) จะเป็นผู้รับผิดชอบตั๋วร่วม โดยจะจัดจ้างบันทึกข้อมูลส่วนบุคคล และข้อมูลการเติมเงินในบัตรสวัสดิการ จำนวน 1.3 ล้านใบ ซึ่งจะใช้งบประมาณจัดจ้างประมาณ 11.8 ล้านบาท” แหล่งข่าวกล่าว

นายพยง ศรีวณิช กรรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า ธนาคารสามารถจัดทำบัตรสวัสดิการฯ ออกมาทันใช้วันที่ 1 ต.ต. 2560 นี้