ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐเคลื่อนไหว หลังประกาศตัวเลขการจ้างงาน

ฝ่ายค้าเงินตราต่างประเทศ ธนาคารกรุงเทพ รายงานว่า ภาวะการเคลื่อนไหวตลาดปริวรรตเงินตราประจำวันจันทร์ที่ 6 สิงหาคม 2561 ค่าเงินบาทเปิดตลาดเช้าวันนี้ (6/8) ที่ 33.23/24 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ปรับตัวแข็งค่าจากระดับปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ (3/8) ที่ 33.33/35 บาท/ดอลลาร์ โดยค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าหลังกระทรวงแรงงานของสหรัฐเปิดเผยว่าตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 157,000 ตำแหน่งในเดือน ก.ค. ต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ว่าอาจเพิ่มขึ้น 190,000 ตำแหน่ง อย่างไรก็ตามอัตราการว่างงานที่ลดลงบ่งชี้ว่า ตลาดแรงงานกำลังตึงตัว ส่วนค่าจ้างเฉลี่ยต่อชั่วโมงเพิ่มขึ้น 0.3% หลังจากที่เพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือน มิ.ย. โดยตัวเลขการจ้างงานและค่าจ้างที่ชะลอตัวอาจจะช่วยคลายความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจที่ขยายตัวร้อนแรงเกินไป และทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะใช้แนวทางค่อยเป็นค่อยไปในการขึ้นอัตราดอกเบี้ย นอกจากนี้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐเปิดเผยเมื่อวันเสาร์ว่า แผนกลยุทธ์ของเขาที่เก็บภาษีนำเข้าในอัตราที่สูงมาก “กำลังได้ผลมากกว่าที่ใคร ๆ คาดไว้” และจีนกำลังเจรจากับสหรัฐเรื่องการค้า ขณะที่เขาคาดว่าตลาดหุ้นสหรัฐอาจจะพุ่งขึ้นทันที เมื่อมีการเจรจาข้อตกลงการค้าใหม่อีกครั้ง เขากล่าวอีกว่าถ้าประเทศอื่น ๆ ไม่เจรจากับสหรัฐเรื่องการค้า จะต้องจ่ายเงินจำนวนมากให้กับสหรัฐในรูปแบบของภาษีนำเข้า ในขณะที่สื่อของรัฐบาลจีนประณามนโยบายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐในวันนี้อย่างตรงไปตรงมา โดยกล่าวหา ปธน.ทรัมป์ว่า การกระทำของเขาถือเป็นความปรารถนาที่ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง เนื่องจากสหรัฐได้ทำให้ความขัดแย้งทางการค้ากับจีนทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น และทำให้การค้าระหว่างประเทศกลายเป็น เกมที่ต้องมีผู้แพ้-ผู้ชนะ และระบุว่ามาตรการของ ปธน.ทรัมป์ สร้างความเสียหายต่อความน่าเชื่อถือของชาติสหรัฐ ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินบาทเคลื่อนไหวอยุ่ในกรอบระหว่าง 33.19-33.33 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ก่อนปิดตลาดที่ระดับ 33.30/33 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

สำหรับค่าเงินยูโรวันนี้ (6/8) เปิดตลาดที่ระดับ 1.1564/65 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร ปรับตัวอ่อนค่าจากระดับปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ (3/8) ที่ 1.1575/76 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร ค่าเงินยูโรอ่อนค่าหลังสำนักงานสถิติของสหภาพยุโรป (ยูโรสแตท) เปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกของ 19 ประเทศที่ใช้เงินยูโรเพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาดในเดือน มิ.ย. ทั้งนี้ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือน มิ.ย. เทียบกับเดือน พ.ค. และเพิ่มขึ้น 1.2% เมื่อเทียบรายปี ขณะที่ผลสำรวจของรอยเตอร์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.4% เมื่อเทียบรายเดือน และ 1.4% เมื่อเทียบรายปี ข้อมูลยอดค้าปลีกในเดือน มิ.ย. ได้แรงหนุนจากยอดขายอาหาร, เครื่องดื่ม และยาสูบที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ผู้บริโภคซื้อเสื้อผ้า และรองเท้าน้อยลง โดยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) สำหรับยูโรโซนคงที่ที่ระดับ 54.3 ในเดือน ก.ค. ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลเบื้องต้น ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินยูโรเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 1.1550-1.1573 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร และปิดตลาดที่ระดับ 1.1558/59 ดอลลาร์สหรัฐ/ยูโร

สำหรับค่าเงินเยนวันนี้ (6/8) เปิดตลาดที่ระดับ 111.22/23 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ ปรับตัวแข็งค่าจากระดับปิดตลาดในวันศุกร์ (3/8) ที่ระดับ 111.72/73 เยน/ดอลลาร์ เงินเยนได้รับแรงหนุนจากความขัดแย้งทางการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐ หลังจากจีนเสนอที่จะเก็บภาษีนำเข้าจากสินค้าสหรัฐมูลค่า 6 หมื่นล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ผลสำรวจของรอยเตอร์พบว่า เศรษฐกิจของญี่ปุ่นอาจขยายตัวมากขึ้นในไตรมาส 2 โดยฟื้นตัวขึ้นจากในไตรมาสแรก เนื่องจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค, การใช้จ่ายด้านทุนและอุปสงค์ที่แข็งแกร่งในต่างประเทศแต่ยังคงมีความเสี่ยงอยู่ ขณะที่นโยบายกีดกันทางการค้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และการขู่ที่จะเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์นั้น อาจทำให้แนวโน้มเศรษฐกิจของญี่ปุ่นแย่ลง นายโตชิมิตสึ โมเตกิ รมว.
ศรษฐกิจของญี่ปุ่นจะประชุมกับนายโรเบิร์ต ไลท์ไธเซอร์ ผู้แทนการค้าของสหรัฐที่กรุงวอชิงตันในวันพฤหัสบดีนี้ โดยญี่ปุ่นกำลังหาทางลดแรงกดดันจากสหรัฐที่ต้องการข้อตกลงการค้าเสรี และป้องกันการขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์ส่งออกของญี่ปุ่น ทั้งนี้ผลสำรวจรอยเตอร์คาดว่า จีดีพีของญี่ปุ่นอาจเพิ่มขึ้น 1.4% เมื่อเทียบรายปีในไตรมาส 2 โดยสำนักคณะรัฐมนตรีจะเปิดเผยข้อมูลจีดีพีไตรมาส 2 ในวันที่ 10 ส.ค.นี้ และจะเปิดเผยข้อมูลยอดสั่งซื้อเครื่องจักรด้วย ทั้งนี้ระหว่างวันค่าเงินเยนเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 111.16-111.36 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ และปิดตลาดที่ระดับ 111.25/26 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ

ดัชนีสำคัญทางเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้ผลิต (9/8), ดัชนีราคาผู้บริโภค (10/8)

สำหรับอัตราป้องกันความเสี่ยง (Swap point) ภาคเช้า 1 เดือนในประเทศอยู่ที่ -2.40/-2.25 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ และอัตราป้องกันความเสี่ยง ภาคเช้า 1 เดือนต่างประเทศอยู่ที่ -3.20/-2.45 สตางค์/ดอลลาร์สหรัฐ