‘บล.เออีซี’ ลงทุนหุ้นกู้ ‘บินไทย’ ไม่กระทบลูกค้า

สมาคมโบรกฯ แจงเหตุ “บล.เออีซี” ขาดสภาพคล่องจากการลงทุนหุ้นกู้ “บินไทย” ไม่กระทบลูกค้า ชี้กฎหมายสั่งแยกเงินส่วนของบริษัท-นักลงทุนชัดเจน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2563 บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เออีซี จำกัด (AEC) แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า บริษัทฯ ได้รับหนังสือจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) โดยแจ้งเรื่องการไม่ดำรงเงินกองทุนสภาพคล่องสุทธิ (NCR) ตามประกาศกำหนด และเป็นเหตุให้บริษัทฯ ต้องระงับการดำเนินธุรกิจจนกว่าจะแก้ไขปัญหาฐานะเงินกองทุนให้กลับมาเป็นปกติ ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้มีการลงทุนในหุ้นกู้ บมจ.การบินไทย (THAI) ซึ่งถูกลดเครดิตเรทติ้งจาก A เป็น C อย่างกะทันหัน

สมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย (ASCO) เปิดเผยว่า ตามที่มีข่าวปรากฏตามสื่อต่างๆ เกี่ยวกับการที่บริษัทหลักทรัพย์แห่งหนึ่งต้องระงับการดำเนินธุรกิจอันเนื่องมาจากบริษัทหลักทรัพย์ดังกล่าวไม่สามารถดำรงเงินกองทุนสภาพคล่องสุทธิ (NC) และอัตราส่วนเงินกองทุนสภาพคล่องสุทธิ (NCR) ได้ตามหลักเกณฑ์ที่สำนักงาน ก.ล.ต.กำหนด ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดจากการลงทุนของบริษัทที่ต้องคำนวณเงินกองทุนสภาพคล่องตามเกณฑ์สำนักงาน ก.ล.ต. โดยไม่มีผลต่อสินทรัพย์ของลูกค้าที่อยู่ในความดูแลของบริษัทหลักทรัพย์นั้น

เพื่อให้ผู้ลงทุนมีความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับทรัพย์สินของลูกค้าที่อยู่ในความดูแลของบริษัทหลักทรัพย์ สมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย จึงขอเรียนชี้แจงให้ทราบว่า ในการประกอบธุรกิจของบริษัทหลักทรัพย์ซึ่งอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงาน ก.ล.ต. ได้มีการกำหนดหลักเกณฑ์เพื่อให้ทรัพย์สินของลูกค้ามีความปลอดภัยและสามารถระบุได้ว่าเป็นทรัพย์สินของลูกค้ารายใด โดยให้บริษัทหลักทรัพย์ต้องจัดให้มีมาตรการ ระบบงาน รวมทั้งการกำกับดูแลเกี่ยวกับการดูแลทรัพย์สินของลูกค้า ซึ่งในที่นี้ประกอบไปด้วย เงินสด หลักทรัพย์ ทรัพย์สินอื่น หรือสิทธิประโยชน์ใดๆ ที่เกิดขึ้นเนื่องจากทรัพย์สิน เช่น สิทธิในเงินปันผลหรือดอกเบี้ย สิทธิซื้อหุ้นเพิ่มทุน เป็นต้น

โดยหลักเกณฑ์ดังกล่าวกำหนดให้บริษัทหลักทรัพย์ต้องมีการจัดเก็บทรัพย์สินแยกออกจากทรัพย์สินของบริษัทหลักทรัพย์ จัดทำบัญชีทรัพย์สินของลูกค้าแต่ละรายแยกออกจากบัญชีทรัพย์สินของบริษัทหลักทรัพย์และเก็บรักษาบัญชีไว้ตามระยะเวลาที่กำหนด รวมถึงมีการกำหนดห้ามนำทรัพย์สินของลูกค้าไปใช้ และในกรณีที่ทรัพย์สินเป็นเงิน การที่บริษัทหลักทรัพย์นำไปแสวงหาผลประโยชน์อื่นใดจะต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่สำนักงาน ก.ล.ต. กำหนด

ดังนั้น ขอให้นักลงทุนมีความมั่นใจได้ว่าทรัพย์สินของลูกค้าที่อยู่ในความดูแลของบริษัทหลักทรัพย์ มีความปลอดภัย ครบถ้วน และอยู่ในลักษณะที่สามารถ ชี้เฉพาะได้ว่าเป็นทรัพย์สินของลูกค้ารายใด