แห่ปรับเพิ่มเป้า “จีดีพี” ครึ่งปีหลังเศรษฐกิจโตแรง 4%

สถานการณ์เศรษฐกิจไทยปี 2560 มีแนวโน้มที่ดูดีขึ้น หลายสำนักเริ่ม “ปรับประมาณการ” ใหม่ ล่าสุด คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ที่มีมติ “คงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย” เป็นครั้งที่ 19 พร้อมปรับคาดการณ์อัตราขยายตัวทางด้านเศรษฐกิจ (GDP) อีกครั้ง โดย “จาตุรงค์ จันทรังษ์” เลขานุการ กนง. แถลงว่า กนง.คาด GDP ปี 2560 จะเติบโต 3.8% ดีกว่าเดิมที่คาดโต 3.5% เป็นผลจากการส่งออกสินค้าและบริการที่ขยายตัวดี โดยได้ปรับประมาณการส่งออกเพิ่ม จากเดิมคาดเติบโตที่ 5% เป็น 8% การบริโภคภาคเอกชนมีแนวโน้มขยายตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปตามกำลังซื้อที่ยังไม่เข้มแข็งนัก โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้น้อยที่รายได้ยังไม่ฟื้นตัวชัดเจน

ส่วนการลงทุนเอกชนปรับตัวดีขึ้นในหมวดเครื่องจักรและอุปกรณ์ โดยเฉพาะธุรกิจเกี่ยวกับการส่งออก ด้านการลงทุนภาครัฐยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญ แม้จะชะลอลงบ้าง หลังจากเร่งเบิกจ่ายไปก่อนหน้านี้

ด้านอัตราเงินเฟ้อทั่วไปมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น แต่ในอัตราที่ “ชะลอ” กว่าประมาณการเดิม ส่วนเงินบาทเมื่อเทียบกับเงินสกุลคู่ค้าคู่แข่ง กนง.มองว่า “ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ” จึงยังไม่ทำให้ขีดความสามารถในการแข่งขันด้านราคาของผู้ประกอบการไทยลดลงมากนัก ซึ่ง กนง.ให้ติดตามความผันผวนระยะข้างหน้าอย่างใกล้ชิด

“มองไปข้างหน้าเศรษฐกิจมีแนวโน้มขยายตัวชัดเจนมากขึ้น โดยเฉพาะจากปัยจัยด้านต่างประเทศ แต่ยังต้องติดตามความเข้มแข็งของการฟื้นตัวของอุปสงค์ภายในประเทศ ทั้งนี้ ยังต้องติดตามปัจจัยเสี่ยงทั้งภายในและภายนอกประเทศอย่างใกล้ชิด อาทิ ผลกระทบจากมาตรการจัดระเบียบแรงงานต่างด้าว ซึ่ง กนง.สนใจและให้ติดตามเป็นพิเศษ, ความไม่แน่นอนของนโยบายเศรษฐกิจและการค้าของสหรัฐ และความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์”

ขณะที่ “ดอน นาครทรรพ” ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค ธปท. แถลงว่าเศรษฐกิจเดือน ส.ค. 2560 ขยายตัวต่อเนื่อง โดยมูลค่าการส่งออกสินค้าขยายตัวสูง 15.8% มูลค่านำเข้าขยายตัว 14.3% สอดคล้องกับการผลิตภาคอุตสาหกรรมที่ขยายตัวในหลายกลุ่ม เช่น ยานยนต์ หมวดอาหาร และเครื่องดื่ม ขณะที่จำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 8.7% แต่การลงทุนภาคเอกชนยังทรงตัวจากเดือนก่อนหน้า การบริโภคภาคเอกชนขยายตัวเพียงเล็กน้อย และการลงทุนของภาครัฐไม่ขยายตัว เนื่องจากได้เร่งเบิกจ่ายไปมากในช่วงก่อนหน้า และบางหน่วยงานเบิกจ่ายต่ำเป้า

“ทั้งนี้ การที่หลายค่ายปรับประมาณการเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นน่าจะส่งผลให้ความเชื่อมั่นนักลงทุนให้ดีขึ้นด้วย อย่างนักลงทุนต่างชาติที่ระยะหลังเห็นเข้ามาลงทุนเพิ่มมากขึ้นในตลาดตราสารหนี้”

ส่วน “กฤษฎา จีนะวิจารณะ” ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) มองว่า เศรษฐกิจปีนี้มีโอกาสขยายตัวได้ 3.8% โดย สศค.จะปรับ GDP ในเดือน ต.ค.

แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลังยืนยันว่า ช่วงครึ่งหลังปี 2560 นี้จะเห็นเศรษฐกิจไทยขยายตัวได้มากกว่า 4% ซึ่งปัจจัยสนับสนุนหลักมาจากภาคการส่งออกที่ยังขยายตัวได้ดี แม้ว่าจะเผชิญกับภาวะค่าเงินบาทที่แข็งค่าก็ตาม กับภาคการท่องเที่ยวที่ขยายตัวได้ดี

“ครึ่งปีหลังเศรษฐกิจไทยจะโตเฉลี่ยกว่า 4% โดยไตรมาส 3 จะเติบโตสูงสุดของปีนี้ และดีกว่าไตรมาส 4 เล็กน้อย ซึ่งรวมแล้วทั้งปีจะโตได้เกือบ ๆ 4%”

ฟาก “พชรพจน์ นันทรามาศ” ผู้อำนวยการเศรษฐกิจมหภาค ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (EIC) เปิดเผยว่า EIC ได้ปรับ GDP ปี 2560 คาดว่าโต 3.6% จากเดิม 3.4% มาจากการส่งออกที่ปีนี้น่าจะโตประมาณ 7% ดีที่สุดในรอบ 6 ปี ส่วนการท่องเที่ยวก็เริ่มฟื้นตัวและขยายตัวต่อเนื่อง ซึ่งช่วงไตรมาสที่ 4

“ส่วนการลงทุนภาคเอกชนยังชะลอตัวโดยนักลงทุนต่างชาติบางส่วนรอความชัดเจนเรื่องการเลือกตั้ง แต่ก็ยังเห็นแนวโน้มนักลงทุนที่จะมาลงทุนในโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) เพิ่มเติม”

ด้าน “กอบสิทธิ์ ศิลปชัย” ผู้บริหารงานวิจัยเศรษฐกิจและตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า ปีนี้เศรษฐกิจไทยจะมีโอกาสโตถึง 4% ดีกว่าเดิมที่คาดไว้ 3.4% จากแรงหนุนภาคการส่งออกและภาคการท่องเที่ยว แต่ยังมีความเสี่ยงจาก”สงครามการค้า” เช่น กรณีที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ข่มขู่ว่าจะมีการคว่ำบาตรประเทศที่ค้าขายกับเกาหลีเหนือ

“หากพิจารณาดุลบัญชีเดินสะพัดยังคงเกินดุลในระดับสูง และมากเป็นอันดับที่ 4 ของโลก สะท้อนถึงอุปสงค์ในประเทศยังอ่อนแอ หรือยังมีความไม่สมดุลของเศรษฐกิจไทย เนื่องจากการกระจายรายได้ยังไม่ลงไปสู่กลุ่มคนรากหญ้า ทำให้หนี้ครัวเรือนยังอยู่ในระดับสูงกว่า 80% ต่อ GDP”