ไทยยูเนี่ยน Spin-off บริษัทลูก ITC ขายหุ้นไอพีโอ 660 ล้านหุ้น

ไทยยูเนี่ยน หุ้น

ไทยยูเนี่ยน Spin-off บริษัทลูก ITC ขายหุ้นไอพีโอ 660 ล้านหุ้น รวมแผนขายหุ้นสามัญภายใต้โครงการ ESOP ชูนโยบาย ITC บริษัทแกนนำธุรกิจผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์เลี้ยง ย้ำบริษัทจะไม่ลงทุน-แข่งขัน ไม่ว่าทางตรงทางอ้อม

วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2565 บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TU รายงานตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่า มติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 23 ก.พ.65 มีแผนการออกและเสนอขายหุ้นสามัญที่ออกใหม่ของบริษัท ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ITC ภายใต้โครงการ ESOP ให้แก่ กรรมการ/ผู้บริหาร/พนักงาน ITC

และบริษัทย่อย จำนวนไม่เกิน 5 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วนไม่เกิน 0.17% ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของ ITC ภายหลังการออกและเสนอขายหุ้นสามัญที่ออกใหม่ตามแผน IPO ในช่วงเวลาเดียวกัน และในราคาเสนอขายเท่ากับราคาเสนอขายหุ้นสามัญที่ออกใหม่ต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก

ทั้งนี้ หากมีหุ้นสามัญที่เหลือจากการเสนอขายให้แก่กรรมการ/ผู้บริหาร/พนักงานของ ITC ให้ ITC เสนอขายหุ้นที่เหลือต่อประชาชนทั่วไปต่อไป โดยการออกและเสนอขายหุ้นสามัญที่ออกใหม่ภายใต้โครงการ ESOP นี้ จะไม่มีการเสนอขายหุ้นสามัญที่ออกใหม่ ให้แก่กรรมการ/ผู้บริหาร/พนักงานของ ITC และบริษัทย่อยรายใดเกินกว่า 5% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด

นอกจากนี้มีแผนการเสนอขายหุ้นสามัญของ ITC ต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) เพื่อเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยตามแผน Spin-Off โดย ITC เป็นบริษัทย่อยของบริษัท ซึ่งกำลังดำเนินการเตรียมความพร้อมเพื่อขออนุญาตเสนอขายหุ้นไอพีโอ ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)

โดยแผนขายหุ้นไอพีโอของ ITC ในครั้งนี้จะส่งผลให้สัดส่วนการถือหุ้นของบริษัทใน ITC ลดลง โดย ITC จะออกและเสนอขายหุ้นสามัญที่ออกใหม่ภายใต้โครงการ ESOP และ IPO รวมจำนวน 600 ล้านหุ้น นอกจากนี้บริษัทจะเสนอขายหุ้นสามัญเดิม ซึ่งบริษัทถืออยู่ใน ITC ให้แก่ประชาชนเป็นการทั่วไป เป็นจำนวนไม่เกิน 60 ล้านหุ้น

โดยหุ้นสามัญที่ออกใหม่และหุ้นสามัญเดิมที่เสนอขาย โดยบริษัทคิดเป็นสัดส่วนไม่เกิน 22% ของหุ้นที่ออกและจำหน่ายแล้วทั้งหมดของ ITC ภายหลังจากการ IPO ทั้งนี้ภายหลังจากการ IPO ของ ITC บริษัทจะยังคงเป็นผู้ถือหุ้นที่มีอำนาจควบคุมใน ITC ในสัดส่วนประมาณ 77.64% ของหุ้นที่ออกและจำหน่ายแล้วทั้งหมดของ ITC (ภายใต้สมมติฐานว่ามีการจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุน (Rights Offering) ตามสัดส่วนการถือหุ้น)

เพื่อเป็นการลดผลกระทบต่อผู้ถือหุ้นของบริษัทที่อาจเกิดขึ้นจากแผน Spin-off จึงเห็นควรให้มีการเสนอขายหุ้นสามัญที่จะออกและเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ต่อประชาชนทั่วไปเฉพาะกลุ่มที่เป็นผู้ถือหุ้นสามัญของบริษัท ให้มีสิทธิได้รับการจัดสรรหุ้นของ ITC ตามสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัท (Pre-emptive Rights) ในสัดส่วนไม่เกิน 20% ของจำนวนหุ้นสามัญที่เสนอขายต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก

หากมีหุ้นสามัญที่เหลือจากการเสนอขายต่อประชาชนทั่วไปเฉพาะกลุ่ม ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นสามัญของบริษัทที่มีสิทธิได้รับจัดสรรหุ้น ITC ตามสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัท ให้ ITC เสนอขายหุ้นที่เหลือต่อประชาชนทั่วไปต่อไป

ทั้งนี้การออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ ITC รวมทั้งการเสนอขายหุ้นสามัญเดิมใน ITC ที่บริษัทถืออยู่บางส่วนจะส่งผลกระทบ (Dilution) ต่อสัดส่วนการถือครองหุ้นของบริษัทใน ITC อย่างไรก็ตาม เพื่อให้เป็นไปตามหลักการแบ่งแยกธุรกิจที่ชัดเจน ตราบใดที่บริษัทยังคงเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ใน ITC

บริษัทมีนโยบายให้ ITC เป็นบริษัทแกนนำ (Flagship) ในการประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์เลี้ยง และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวเนื่องกับสัตว์เลี้ยง (Pet Care Business) โดยบริษัทจะไม่ลงทุน และ/หรือประกอบธุรกิจที่เป็นการแข่งขันกับธุรกิจผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์เลี้ยง และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวเนื่องกับสัตว์เลี้ยง (Pet Care Business) ของ ITC ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม