รมว.คลัง ยันรัฐไม่นิ่งนอนใจน้ำมันแพง-ค่าครองชีพพุ่ง เล็งออกมาตรการดูแลเป็นช่วง ๆ ส่วนบาทอ่อน ธปท.จับตาใกล้ชิดขอเวลาประเมินตัวเลขเงินทุนเคลื่อนย้าย
วันที่ 11 กรกฎาคม 2565 นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ความกังวลของประชาชนในเรื่องราคาน้ำมันแพง และภาระค่าครองชีพที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ยืนยันว่า
- “มะพร้าว” ราคาพุ่งเป็นประวัติการณ์ ลูกเดียว 65-80 บาท เกิดอะไรขึ้น?
- พระราชประวัติ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติฯ วันคล้ายวันประสูติ 29 เมษายน
- กองทุนประกัน อนุมัติจ่ายเงิน 7.29 พันล้าน มี.ค.-เม.ย. รับรองมูลหนี้เพิ่ม 560 ล้าน
รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ นายกรัฐมนตรีได้สั่งงานทุกครั้งที่มีการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) และมีการประชุมกลุ่มย่อยต่างๆ ล่าสุด สภาความมั่นคงแห่งชาติ ที่มีนายกฯเป็นประธานก็ได้มีคณะทำงานเฉพาะกิจขึ้นมา ที่จะออกมาตรการดูแลระดับราคาสินค้า และการเพิ่มรายได้ต่าง ๆ ซึ่งจะออกมาเป็นช่วง ๆ
อย่างไรก็ดี ช่วงปลายสัปดาห์ที่แล้วจนถึงต้นสัปดาห์นี้ จะเห็นราคาน้ำมันเบนซินลดลงมา 3 บาท และต่อมาลดลงมาอีก 1.50 บาท เนื่องจากราคาน้ำมันเบนซินในตลาดโลกลดลงมาเกินคาด เพราะทุกคนกลัวภาวะเศรษฐกิจถดถอย สังเกตได้จากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายขึ้นมา 0.75% ซึ่งถือเป็นเครื่องชี้ทิศทางดอกเบี้ยในอนาคตได้ชัดเจน ว่าจะปรับตัวสูงขึ้นแน่นอน ราคาน้ำมันจึงปรับตัวลงเยอะ แต่ยังนิ่งนอนใจไม่ได้ เพราะยังมีความผันผวนอยู่มาก
“สิ่งที่เราต้องเตรียมตัวเตรียมใจคือการปรับตัวในสถานการณ์น้ำมันแพง ซึ่งเครื่องมือภาครัฐก็มีค่อนข้างจำกัดในการเข้าไปช่วยเหลือ แต่เครื่องมือที่สำคัญคือกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ภาษี และการเจรจากับโรงกลั่นในเรื่องค่าการกลั่น และค่าการตลาด”
ทั้งนี้ อีกด้านหนึ่งต้องมองถึงเรื่องอัตราดอกเบี้ยที่มีผลกระทบต่อราคาสินค้านำเข้า โดยค่าเงินบาทขณะนี้อาจจะอ่อน ซึ่งกระทบต่อราคาวัตถุดิบที่แพงขึ้น แต่ในอีกด้านหนึ่งต้องมองถึงเรื่องเงินทุนเคลื่อนย้ายด้วย โดยขณะนี้มีการวิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมากว่าเงินทุนเคลื่อนย้ายไปต่างประเทศเยอะ ซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ก็มีการติดตามรื่องนี้เป็นพิเศษ โดยต้องติดตามเดือนนี้กับเดือนหน้า รวมทั้งทิศทางดอกเบี้ยด้วย