โปรดเกล้าฯ แบ่งส่วนราชการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติใหม่ มีผลแล้ววันนี้

ประกาศราชกิจจา-ราชกิจจานุเบกษา

ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่พระราชกฤษฎีกา แบ่งส่วนราชการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ส่วนราชการที่มีฐานะเทียบเท่ากองบัญชาการ 8 สำนักงาน และให้จัดตั้งกองบัญชาการหรือส่วนราชการที่มีฐานะเทียบเท่ากองบัญชาการ 22 หน่วยงาน รวมสํานักงานพิสูจน์หลักฐานตํารวจ และ รพ.ตำรวจ

เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่พระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2567 โดยมีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการ

สำหรับเหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ระบุว่า คือโดยที่มาตรา 11 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2565 กำหนดให้การแบ่งส่วนราชการของสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเป็นกองบัญชาการหรือการจัดตั้งกองบัญชาการหรือส่วนราชการที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่ากองบัญชาการในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ตราเป็นพระราชกฤษฎีกา โดยกำหนดหน้าที่และอำนาจของส่วนราชการดังกล่าวให้ชัดเจน

ประกอบกับมาตรา 12 (1) กำหนดให้การแบ่งส่วนราชการในสำนักงานตำรวจแห่งชาติอย่างน้อยต้องมีกองบัญชาการตำรวจนครบาล และตำรวจภูธรภาคซึ่งเป็นส่วนราชการที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่ากองบัญชาการ โดยต้องกำหนดเขตพื้นที่ให้ชัดเจน จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้

ทั้งนี้พระราชกฤษฎีกาฉบับดังกล่าวระบุว่า พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรแบ่งส่วนราชการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 175 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา 11 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2565 จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้

มาตรา 1 พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2567”

มาตรา 2 พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป (มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 22 มีนาคม 2567 เป็นต้นไป)

มาตรา 3 ให้ยกเลิก

(1) พระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2552

(2) พระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558

(3) พระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2560

มาตรา 4 ให้แบ่งส่วนราชการสํานักงานตํารวจแห่งชาติ ดังต่อไปนี้

ก. สํานักงานผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ แบ่งเป็นส่วนราชการที่มีฐานะเทียบเท่ากองบัญชาการ

(1) สํานักงานยุทธศาสตร์ตํารวจ

(2) สํานักงานส่งกําลังบํารุง

(3) สํานักงานกําลังพล

(4) สํานักงานงบประมาณและการเงิน

(5) สํานักงานกฎหมายและคดี

(6) สํานักงานคณะกรรมการข้าราชการตํารวจ

(7) สํานักงานจเรตํารวจ

(8) สํานักงานตรวจสอบภายใน

ข. ให้จัดตั้งกองบัญชาการหรือส่วนราชการที่มีฐานะเทียบเท่ากองบัญชาการ ดังต่อไปนี้

(1) กองบัญชาการตํารวจนครบาล

(2)-(10) ตํารวจภูธรภาค 1-9

(11) กองบัญชาการตํารวจสอบสวนกลาง

(12) กองบัญชาการตํารวจท่องเที่ยว

(13) กองบัญชาการตํารวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี

(14) กองบัญชาการตํารวจปราบปรามยาเสพติด

(15) กองบัญชาการตํารวจสันติบาล

(16) สํานักงานตรวจคนเข้าเมือง

(17) กองบัญชาการตํารวจตระเวนชายแดน

(18) สํานักงานพิสูจน์หลักฐานตํารวจ

(19) สํานักงานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร

(20) กองบัญชาการศึกษา

(21) โรงเรียนนายร้อยตํารวจ

(22) โรงพยาบาลตํารวจ

นอกจากนี้ สำหรับกองบัญชาการหลัก อาทิ กองบัญชาการตำรวจนครบาล กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1-9 ตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจสันติบาล มีหน้าที่ต้องถวายความปลอดภัยสำหรับองค์พระมหากษัตริย์ พระราชินี พระรัชทายาท ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ พระบรมวงศานุวงศ์ ผู้แทนพระองค์ และพระราชอาคันตุกะด้วย

อ่านรายละเอียดทั้งหมด

โปรดกล้าฯ แบ่งส่วนราชการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีผลแล้ววันนี้

โปรดกล้าฯ แบ่งส่วนราชการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีผลแล้ววันนี้