ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่พระราชกฤษฎีกา แบ่งส่วนราชการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ส่วนราชการที่มีฐานะเทียบเท่ากองบัญชาการ 8 สำนักงาน และให้จัดตั้งกองบัญชาการหรือส่วนราชการที่มีฐานะเทียบเท่ากองบัญชาการ 22 หน่วยงาน รวมสํานักงานพิสูจน์หลักฐานตํารวจ และ รพ.ตำรวจ
เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่พระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2567 โดยมีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
- ร้านธงฟ้า 1.4 แสนแห่ง พร้อมรับดิจิทัลวอลเลต เช็กจังหวัดไหนร้านธงฟ้ามาก-น้อยสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
สำหรับเหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ระบุว่า คือโดยที่มาตรา 11 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2565 กำหนดให้การแบ่งส่วนราชการของสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเป็นกองบัญชาการหรือการจัดตั้งกองบัญชาการหรือส่วนราชการที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่ากองบัญชาการในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ตราเป็นพระราชกฤษฎีกา โดยกำหนดหน้าที่และอำนาจของส่วนราชการดังกล่าวให้ชัดเจน
ประกอบกับมาตรา 12 (1) กำหนดให้การแบ่งส่วนราชการในสำนักงานตำรวจแห่งชาติอย่างน้อยต้องมีกองบัญชาการตำรวจนครบาล และตำรวจภูธรภาคซึ่งเป็นส่วนราชการที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่ากองบัญชาการ โดยต้องกำหนดเขตพื้นที่ให้ชัดเจน จึงจำเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้
ทั้งนี้พระราชกฤษฎีกาฉบับดังกล่าวระบุว่า พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรแบ่งส่วนราชการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 175 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา 11 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2565 จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้
มาตรา 1 พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2567”
มาตรา 2 พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป (มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 22 มีนาคม 2567 เป็นต้นไป)
มาตรา 3 ให้ยกเลิก
(1) พระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2552
(2) พระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558
(3) พระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2560
มาตรา 4 ให้แบ่งส่วนราชการสํานักงานตํารวจแห่งชาติ ดังต่อไปนี้
ก. สํานักงานผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ แบ่งเป็นส่วนราชการที่มีฐานะเทียบเท่ากองบัญชาการ
(1) สํานักงานยุทธศาสตร์ตํารวจ
(2) สํานักงานส่งกําลังบํารุง
(3) สํานักงานกําลังพล
(4) สํานักงานงบประมาณและการเงิน
(5) สํานักงานกฎหมายและคดี
(6) สํานักงานคณะกรรมการข้าราชการตํารวจ
(7) สํานักงานจเรตํารวจ
(8) สํานักงานตรวจสอบภายใน
ข. ให้จัดตั้งกองบัญชาการหรือส่วนราชการที่มีฐานะเทียบเท่ากองบัญชาการ ดังต่อไปนี้
(1) กองบัญชาการตํารวจนครบาล
(2)-(10) ตํารวจภูธรภาค 1-9
(11) กองบัญชาการตํารวจสอบสวนกลาง
(12) กองบัญชาการตํารวจท่องเที่ยว
(13) กองบัญชาการตํารวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี
(14) กองบัญชาการตํารวจปราบปรามยาเสพติด
(15) กองบัญชาการตํารวจสันติบาล
(16) สํานักงานตรวจคนเข้าเมือง
(17) กองบัญชาการตํารวจตระเวนชายแดน
(18) สํานักงานพิสูจน์หลักฐานตํารวจ
(19) สํานักงานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
(20) กองบัญชาการศึกษา
(21) โรงเรียนนายร้อยตํารวจ
(22) โรงพยาบาลตํารวจ
นอกจากนี้ สำหรับกองบัญชาการหลัก อาทิ กองบัญชาการตำรวจนครบาล กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1-9 ตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจสันติบาล มีหน้าที่ต้องถวายความปลอดภัยสำหรับองค์พระมหากษัตริย์ พระราชินี พระรัชทายาท ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ พระบรมวงศานุวงศ์ ผู้แทนพระองค์ และพระราชอาคันตุกะด้วย