ชาวประมงพื้นบ้านชุมพรกว่า 400 คน ชุมนุมเรียกร้องแก้ปัญหาความเดือดร้อน

เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 20 มิถุนายน ที่หน้าศาลากลางจังหวัดชุมพร กลุ่มชาวประมงพื้นบ้านและประมงพาณิชย์จังหวัดชุมพรประมาณ 400 คน นำโดยนายพิศาล ศันติวิชยะ นายกสมาคมประมงปากน้ำชุมพร อ.เมืองชุมพร นายไตรฤกษ์ มือสันทัด นายกสมาคมประมงปากตะโก อ.ทุ่งตะโก และรองประธานสมาคมการประมงแห่งประเทศไทย นายจรูญ ไชยะ นายกสมาคมประมงด่านสวี อ.สวี นายปรีชา สุวีรานุวัฒน์ นายกสมาคมประมงปากน้ำหลังสวน และนางชงโค นิลสถิต นายกสมาคมประมงปะทิว-คลองบางสน อ.ปะทิว ได้ชุมนุมเพื่อเรียกร้องให้ จ.ชุมพรแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน แต่เนื่องจากมีฝนตกลงมา นายเลิศพรไชย ไชยฤทธิ์ รอง ผวจ.ชุมพร รักษาราชการแทน ผวจ.ชุมพร จึงเชิญทุกคนเข้าไปเจรจาในห้องประชุมชั้น 2 บนศาลากลางจังหวัด โดยมี พ.อ.จำรัส สังขะวร รอง ผอ.รมน.ชุมพร (ทหาร) นายสิทธิสาร ศรีชมพวง ประมงจังหวัดชุมพร และนายดุสิต ศักรกานต์ ผอ.กลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดชุมพร น.ส.วัลภา แก้วสวี พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดชุมพร เข้าร่วมรับฟังด้วย

หลังจากเปิดโอกาสให้ตัวแทนชาวประมงแต่ละกลุ่มได้เปิดเผยถึงปัญหาความเดือดร้อนแล้ว นายเลิศพรไชยได้รับมอบหนังสือเรียกร้องจากชาวประมง เรื่องการนำเสนอมติคณะกรรมการประมงจังหวัดชุมพรเกี่ยวกับการประกาศเขตประมงชายฝั่ง สรุปได้ว่า ตามที่มีกลุ่มบุคคลระบุนามว่า ชุมชนชาวประมงชายฝั่ง 6 อำเภอ จ.ชุมพร ได้ร้องขอความเป็นธรรมเกี่ยวกับการกำหนดเขตชายฝั่งทะเลที่ผ่านมติคณะกรรมการประมงจังหวัด เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2561 และอยู่ระหว่างการนำเรื่องดังกล่าวเสนอกรมประมงเพื่อออกประกาศและบังคับใช้ต่อไป ในนามกลุ่มประมงพื้นบ้าน จ.ชุมพรรู้สึกกังวลและห่วงใยเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการประมงจังหวัดในอนาคต เนื่องจากมติเรื่องเขตประมงชายฝั่งที่ผ่านมติแล้วนั้น เกิดจากที่ประชุมอันมีองค์ประชุมครบถ้วนสมบูรณ์ และมีการทบทวนหลายครั้ง ซึ่งที่ประชุมก็ยังยืนมติเดิมและเขตชายฝั่งทะเลก็ไม่ได้กำหนดให้ต่ำกว่า 3 ไมล์ทะเลทุกอำเภอ มีเพียง อ.ปะทิว อ.เมือง และ อ.สวีเท่านั้นที่ต่ำกว่า 3 ไมล์ทะเล ด้วยเหตุผลและปัจจุบันทุกๆ ด้าน ซึ่งใน อ.ปะทิว หากออกห่างฝั่งแค่ไมล์เศษเท่านั้นก็จะพบน้ำลึก การกำหนด 3 ไมล์ทะเลทำให้เรือเล็กไม่สามารถเข้ามาหลบลมในเขตต่ำกว่า 3 ไมล์ทะเลได้ ส่งผลให้เกิดอันตรายแก่ชีวิตและทรัพย์สิน

ส่วนเรื่องการอนุรักษ์ที่กลุ่มดังกล่าวข้างต้นระบุว่า เกรงว่าเรือประมงชายฝั่งจะกระจุกตัวกัน แย่งทรัพยากรในเขตที่กำหนด 1.6 ไมล์ทะเล ถือเป็นหน้าที่ที่จะร่วมกันเสนอให้กรมประมงยกเลิกมาตรา 34 ดีกว่าการกำหนดให้ขยายเขตชายฝั่งออกไปไม่ต่ำกว่า 3 ไมล์ทะเล เพราะถ้าขยายเขตออกไป 3 ไมล์ทะเลทั้งจังหวัด แต่มิได้ยกเลิกมาตรา 34 ก็ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาตามที่กลุ่มดังกล่าวอ้าง ดังนั้น กลุ่มประมงพื้นบ้าน จ.ชุมพรจึงขอให้ผู้ว่าฯชุมพร สั่งการให้ประมงจังหวัดนำมติที่ประชุมคณะกรรมการประมงจังหวัดชุมพรเสนอต่อกรมประมงเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป เพื่อความเป็นเอกภาพและความศักดิ์สิทธิ์ในองค์คณะของคณะกรรมการประมงจังหวัดชุมพรที่ไม่ได้มาจากชาวประมงเพียงไม่กี่คนเท่านั้น

 

 

 

ที่มา มติชนออนไลน์