เปิดใจ “อาม่า” ผู้ป่วยไวรัสโคโรน่าวัย 73 ปี ที่หายปกติแล้ว (คลิป)

เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2563 ที่โรงพยาบาลนครปฐม แพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 5 แพทย์หญิงดารารัตน์ รัตนรักษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครปฐม นายแพทย์สามารถ ถิระศักดิ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครปฐม และทีมแพทย์ที่ดูแลรักษา นางใจ้ม่วย แซ่อึ๊ง อายุ 73 ปี ราษฎรตำบลบ่อพลับ อำเภอเมือง จ.นครปฐม ที่ป่วยเป็นโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ 2019 จากเมืองอู่ฮั่น สาธารณรัฐประชนจีน หายปกติและกลับบ้านไปใช้ชีวิตปกติกับลูกหลานได้แล้วนั้น

แพทย์หญิง อัมพร เบญจพลพิทักษ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 5 กล่าวว่า ผู้ป่วยมีอาการดีขึ้นตามลำดับ สัญญาณชีพอยู่ในเกณฑ์ปกติ ไม่ไอไม่มีอาการเหนื่อย ไม่มีภาวะแทรกซ้อน ผลภาพรังสีปอดดีขึ้น โรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ 2019 ผลเป็นลบติดต่อกัน2ครั้ง พ้นระยะแพร่กระจาย โรงพยาบาลจึงจำหน่ายผู้ป่วยกลับบ้าน หลังได้รับการรักษาในโรงพยาบาลนครปฐมเป็นเวลา 10 วัน

• กรมอุตุฯเตือน 6-11 พ.ค.นี้ ฝนตกหนักหลายพื้นที่ รวมกทม.และปริมณฑล
• ธ.ก.ส. เผย สินเชื่อดอกเบี้ยล้านละร้อย เหลือวงเงินกู้อีก 1.5 หมื่นล้าน
• ร้อนทะลุ-โลกเดือด “เอลนีโญ” ถึง “ลานีญา” ถล่มประเทศไทย

 

“โรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ 2019 นี้ สามารถรักษาหายได้ ซึ่งโรคนี้เป็นโรคติดเชื้ออุบัติใหม่ และอาจเป็นโรคอุบัติซ้ำได้ในอนาคต ดังนั้นทุกภาคส่วน รวมทั้งประชาชนควรตระหนักรู้ พร้อมรับสถานการณ์อยู่เสมอ ขอให้ประชาชนมั่นใจในระบบบริการสาธารณสุขของประเทศไทย ซึ่งมีการเชื่อมโยง บริหารจัดการประสานกันทุกโรงพยาบาลทุกระดับ ทั้งในและนอกสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ความสำเร็จในการดูแลผู้ป่วยรายนี้เป็นความร่วมมือระดับประเทศตั้งแต่กระทรวงสาธารณสุข โรงเรียนแพทย์ในสังกัดทบวงมหาวิทยาลัยเขตสุขภาพที่ 5 และจังหวัดนครปฐม “แพทย์หญิง อัมพร เบญจพลพิทักษ์ กล่าว

ทั้งนี้สืบเนื่องจากกรณีผู้ป่วยเข้าเกณฑ์เฝ้าระวังโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ 2019 จากเมืองอู่ฮั่น สาธารณรัฐประชาชนจีน ที่โรงพยาบาลนครปฐมได้รับการประสานส่งตัวผู้ป่วยหญิงไทยอายุ 73 ปี มีประวัติเดินทางไปท่องเที่ยวเมืองอู่ฮั่น สาธารณรัฐประชาชนจีน ช่วงก่อนปีใหม่แล้วในช่วง 14 วันหลังเดินทางกลับ มีอาการไข้ หายใจเหนื่อย อ่อนเพลีย ทีมแพทย์จึงได้ดำเนินการตามมาตรการเฝ้าระวังของกระทรวงสาธารณสุขและรับผู้ป่วยไว้ในห้องผู้ป่วยแยกโรคความดันลบทันที

ขณะเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล ผู้ป่วยมีภาวะปอดอักเสบ ไม่มีไข้ ไอและเหนื่อยเล็กน้อย ผลการตรวจยืนยันเชื้อไวรัส โคโรนา สายพันธุ์ 2019 เป็นบวก ทั้งนี้ผู้ป่วยได้รับการรักษาตามแนวทางเวชปฏิบัติการวินิจฉัยการดูแลรักษาและป้องกันการติดเชื้อในโรงพยาบาลนครปฐม ด้วยการนอนพักรักษาตัวในห้องแยกโรคความดันลบ , ถ่ายภาพรังสีปอดเพื่อติดตามการดำเนินโรค , ตรวจทางห้องปฏิบัติการตามเกณฑ์ , ให้การรักษาโดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อ โรคระบบทางเดินหายใจ ดูแลสภาพจิตใจโดยจิตแพทย์ รวมทั้งแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านอายุรศาสตร์โรคหัวใจ ดูแลโรคประจำตัว และสหสาขาวิชาชีพที่เกี่ยวข้อง , ติดตามอาการอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง , ปฏิบัติตามระบบบัญชาการด้านการแพทย์และสาธารณสุข( Incident Command System :ICS )

นางใจ้ม่วย แซ่อึ๊ง กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่ได้กลับบ้าน และขอบคุณหมอ ที่รักษาจนหาย ทีแรกก็กลัวว่าทำไมต้องเอาเรามานอนในห้องกระจกหนาๆ หลายชั้น หมอเข้ามาต้องสวมชุดอย่างกับหุ่นยนต์ อยู่ไปหลายวันเข้าก็เข้าใจและปฎิบัติตามที่หมอแนะนำ

“เดินทางไปเที่ยวเมืองอู่ฮั่น ก็ไปแบบนักท่องเที่ยวปกติ เที่ยวในสถานที่ท่องเที่ยวทั่วไป ก็ไม่คิดว่าจะมีอะไร กินก็กินปกติ ไม่ได้กินอะไรพิศดาร กลับมาเมืองไทย ก็มีอาการปวดเมื่อย ทีแรกเข้าใจว่าคงเกิดจากเดินมาก เพราะอยู่ที่อู่ฮั่น เดินเยอะ กระทั่งหลายวันเข้าลูกๆ ส่งโรงพยาบาล กระทั่งมารู้ว่าเป็นไข้หวัดอู่ฮั่น แรกๆ ก็กลัว แต่เชื่อมั่นในฝีมือหมอ เพราะเชื่อว่าเราถึงมือหมอแล้ว เราต้องรอด หมอเดี๋ยวนี้เก่งมาก”

ด้านนางกฤติยา แซ่อึ๊ง ลูกสาว กล่าวว่า ทีแรกรู้ว่าแม่ติดเชื้อไวรัส โคโรนา สายพันธุ์ใหม่ 2019 จากอู่ฮั่น และมีข่าวว่าผู้ป่วยล้มตายกันจำนวนมาก ก็รู้สึกกังวล ว่าแม่เราคงมีอัตราเสี่ยงที่จะรอดเป็นศูนย์ แต่ก็เฝ้าดูอาการแม่ทุกวัน ให้กำลังใจกันด้วยการโทรศัพท์ ตลอดเวลา 10 วัน ความหวังดีขึ้น ทุกวันจนสำเร็จ เราบอกกับแม่ว่าได้ออกไปแต๊ะเอียให้ลูกหลานแน่นอน และได้กลับบ้านจริงๆ หมอเก่งมาก ทุกคนเก่ง ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเก่ง

 

ที่มา:มติชนออนไลน์