ปูนบำเหน็จเพิ่มขั้นเงินเดือน “หมอ-ตำรวจ-ทหาร” สู้โควิด 38,105 อัตรา

เมื่อวันที่ 15 เม.ย. 63 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐ (คปร.) ในการประชุมครั้งที่ 1/2563 เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2563 ตามที่คณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐ เสนอ ดังนี้

1. อนุมัติ 38,105 อัตรา (24 สายงาน) ตามที่เสนอมาโดยมีเงื่อนไข ดังนี้ ให้ยกคนกลุ่มเดิมที่ทำงานอยู่แล้วเป็นข้าราชการ โดยการการสอบคัดเลือกใช้ ม.55 ( ซึ่งจะไปทำความตกลงกันอีกครั้งว่าจะใช้วิธีสอบคัดเลือกแบบไหน) ผลจากการที่ยกคนกลุ่มนี้ เป็นข้าราชการ ทำให้ไทยมีอัตราแพทย์ เต็มตามเป้าหมายที่ได้กำหนดไว้และห้ามใช้เงินเดิมไปบรรจุคนใหม่ การที่จะบรรจุอัตราว่างได้นั้นต้องเป็น ตำแหน่งอื่นที่จำเป็น ไม่ได้อยู่ในสายงาน 24 สายงานที่ได้รับการบรรจุไป เช่น แพทย์แผนไทย ต้องทดลองปฏิบัติราชการตามปกติ ถ้าไม่ผ่านก็ไม่ได้บรรจุ ในส่วนอายุราชการนับย้อนได้แต่ไม่นำมาคิดเวลาเพื่อรับบำนาญจะมีการทยอยบรรจุ 3 รุ่น คือ รุ่นเดือน พ.ค ส.ค พ.ย ทั้งนี้การบรรจุก่อน 1 ต.ค. ทำให้ต้องใช้งบกลางปี 63

2. จัดสรรอัตราข้าราชการให้นักศึกษาแพทย์และทันตแพทย์จบใหม่ 2,792 อัตรา (จากที่ขอ 7,579) ส่วนเภสัชกร พยาบาล และนักวิชาการสาธารณสุข (4,787 อัตรา) ให้ทำแผนเสนออีกครั้ง 3. ให้เงินเพิ่มพิเศษ (2,700 ล้าน) แบ่งเป็น กลุ่มปฏิบัติงานตรง เช่น แพทย์ พยาบาล 1,500/เดือน ถึง ก.ย.และกลุ่มสนับสนุน 1,000/เดือน ถึง ก.ย.

4.ให้โควตาพิเศษ 2 ขั้น 5. อายุราชการทวีคูณ ไม่อยู่ในเกณฑ์ตามกฎหมาย ตามกฎหมายจะระบุให้เฉพาะ ตอนประกาศกฎอัยการศึกเท่านั้น 6. ลดดอกเบี้ยเงินกู้พิเศษของ สำหรับ ธนาคารกรุงไทย และธนาคารออมสิน 7. จ่ายเงินช่วยบุคลากรที่ติดเชื้อ ตามเกณฑ์ที่กระทรวงการคลังกำหนด 8. บุคคลากรทางการแพทย์ได้รับบริจาคการทำประกันสุขภาพแล้ว จำนวน 320,000 กรมธรรม์

สำหรับสิทธิประโยชน์ต่างๆที่รัฐมอบให้บุคลากรของกระทรวงสาธารณสุข ยังมอบให้แพทย์ บุคลากรทางการแพทย์ ของสังกัดอื่นด้วยเช่น ตำรวจ ทหาร มหาวิทยาลัย ท้องถิ่น สายแพทย์ที่เกี่ยวกับ COVID-19 อีกด้วย