ชง ศบค.เข้าโคแวกซ์ ทำสัญญาวัคซีน 26 ล้านโดส ปีหน้า

ชงเข้าโคแวกซ์
REUTERS/Tiksa Negeri/File Photo

คณะกรรมการขับเคลื่อนการจัดหาวัคซีนฯ เสนอแผนกระจายวัคซีนไฟเซอร์ ศบค. พร้อมชงเข้าโคแวกซ์ ทำสัญญาวัคซีน 26 ล้านโดส ปีหน้า 

วันที่ 16 สิงหาคม 2564 คณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด – 19) จัดการประชุมผ่านระบบการประชุมทางไกล ครั้งที่ 12/2564 ในเวลา 13.30 น. โดยคณะกรรมการขับเคลื่อนการจัดหาวัคซีนโควิด-19 เพื่อประชาชนไทย ได้เสนอแผนการจัดหาวัคซีนไฟเซอร์เพิ่มเติมในปีนี้ พร้อมสรุปแผนการต่าง ๆ ดังนี้

1.แผนการจัดหาและส่งมอบวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ประเทศไทย พ.ศ.2564 จำนวน 84.22 ล้านโดส โดยระบุว่า มีการจัดหาและส่งมอบวัคซีนแล้ว 3 ชนิด ได้แก่ ซิโนแวค แอสตร้าเซนเนก้า และไฟเซอร์ ซึ่งตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ถึงธันวาคม มีวัคซีนจากทั้ง 3 ชนิด รวม 84.22 ล้านโดส ซึ่งได้มาระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ถึงกรกฎาคม 24.92 ล้านโดส และสิงหาคมถึงธันวาคม 59.3 ล้านโดส

2.สรุปผลการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนการจัดหาวัคซีนโควิด-19 เพื่อประชาชนไทย ครั้งที่ 2/2564 เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2564 ดังนี้

1) ที่ประชุมได้พิจารณาการมีส่วนร่วมใน COVAX Facility (โครงการโคแวกซ์) ของประเทศไทย โดยมีมติเห็นชอบให้เจรจาเพื่อจัดทำสัญญาจัดหาวัคซีนโควิด-19 ผ่าน COVAX Facility ในปริมาณสำหรับร้อยละ 20 ของจำนวนประชากร (วัคซีน จำนวน 26,000,000 โดส) โดยมอบหมายสถาบันวัคซีนแห่งชาติและกรมควบคุมโรคเจรจากับ COVAX Facility เพื่อการจัดทำสัญญา

ทั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อจัดหาวัคซีนในปี 2565 และเห็นควรให้มีการวิเคราะห์ประโยชน์และความเสี่ยงของการเข้าร่วมโครงการจัดหาวัคซีนผ่าน COVAX Facility อย่างรอบด้าน และสื่อสารทำความเข้าใจของสังคม แล้วให้นำผลการเจรจากับ COVAX Facility ให้นำมาเข้าที่ประชุมพิจารณาต่อไป

2) ที่ประชุมได้พิจารณาแผนการจัดหาวัคซีนเพิ่มเติมจากแหล่งต่าง ๆ มีมติ ดังนี้

(2.1) เห็นชอบในหลักการจัดหาวัคซีนในช่วงไตรมาส 3 เพิ่มเติม เพื่อนำมาใช้ในช่วงเวลาที่วัคซีนมีจำกัด โดยวิธีการและรูปแบบต่าง ๆ เช่น การแลกวัคซีนกับบริษัทผู้ผลิตจากต่างประเทศ การรับบริจาควัคซีนจากต่างประเทศ การเจรจาจัดหาวัคซีนเพิ่มจากบริษัทผู้ผลิตที่สามารถส่งมอบวัคซีนได้อาทิเช่น วัคซีนไฟเซอร์ การเจรจากับบริษัทผู้ผลิตวัคซีนที่ทำสัญญาแล้วให้ส่งมอบวัคซีนได้เร็วขึ้น เป็นต้น

(2.2) เห็นชอบในหลักการจัดหาวัคซีนจำนวน 120 ล้านโดส ในปี 2565 เพื่อเพิ่มความครอบคลุมวัคซีน ขยายกลุ่มเป้าหมาย หรือเพื่อเป็นเข็มกระตุ้นด้วยวัคซีนชนิดต่าง ๆ เช่น mRNA vaccine, Viral vector vaccine, Inactivated vaccine, Protein subunit vaccine, DNA vaccine และวัคซีนรูปแบบอื่น ๆ เป็นต้น

(2.3) มอบหมายให้สถาบันวัคซีนแห่งชาติและกรมควบคุมโรคเป็นผู้ดำเนินการ

ความเห็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

(1) แผนการบริหารจัดการวัคซีนไฟเซอร์บริจาคจำนวน 1,503,450 โดส ซึ่งจะจัดสรรให้ในกลุ่มชาวต่างชาติที่อาศัยในประเทศ จำนวน 150,000 โดส นั้น ควรมีจำนวนที่มีความเหมาะสมและมีความยืดหยุ่น ไม่ควรมีข้อกำหนดเฉพาะ เช่น อาจขยายให้ครอบคลุมกลุ่มเจ้าหน้าที่การทูตที่มีอายุน้อยกว่า 60 ปีที่พำนักในประเทศไทยและชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย เป็นต้น เพื่อให้การกระจายวัคซีนมีประสิทธิภาพเต็มจจำนวน

(2) ให้มีการพิจารณาปรับหรือขยายหลักเกณฑ์การจัดสรรวัคซีนไฟเซอร์ เพื่อให้บุคลากรทางการแพทย์ที่ปฏิบัติงานรักษาผู้ป่วยให้ครอบคลุมและเหมาะสมยิ่งขึ้น โดยพิจารณาตามสถานการณ์การระบาดของโรคในระยะต่อไป

(3) ขอให้พิจารณาการอำนวยความสะดวกกรณีบริษัทแม่หรือบริษัทร่วมทุนในต่างประเทศ ซึ่งมีฐานการผลิตในประเทศไทย ประสงค์จะนำวัคซีนมาฉีดให้แก่ผู้บริหารพนักงานหรือประชาชนในชุมชนรอบสถานประกอบการ หากวัคซีนนั้นอยู่ในรายชื่อของวัคซีนหลักหรือวัคซีนทางเลือก เพื่อช่วยลดภาระภาครัฐตลอดจนช่วยให้การฉีดวัคซีนในไทยมากขึ้น

(4) ควรมีการรายงานการบริหารจัดการยารักษาโรคโควิด-19 และคู่มือการรักษาโรคโควิด-19 ให้ที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 ทราบด้วย ในการนี้ กระทรวงสาธารณสุขแจ้งว่า กรมการแพทย์ได้มีการประชุมพิจารณาทบทวนแนวทางเวชปฏิบัติ การวินิจฉัย ดูแลรักษาและป้องกันการติดเชื้อในโรงพยาบาลกรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ซึ่งจะได้ รายงานข้อมูลให้ที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด – 19 ทราบต่อไป

(5) ควรจัดซื้อวัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันไวรัสสายพันธุ์ใหม่เพิ่มเติมในปี 2565
มติที่ประชุม

1) เห็นชอบเกณฑ์การจัดสรรวัคซีนโควิด-19 เดือนสิงหาคม 2564 จำนวน 10,000,000 โดส และแผนการบริหารจัดการวัคซีนไฟเซอร์ ที่ได้รับบริจาคจากสหรัฐอเมริกา จำนวน 1,503,450 โดส โดยให้นำความเห็นและข้อสังเกตของที่ประชุมไปพิจารณาดำเนินการต่อไป

2) รับทราบมติการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนการจัดหาวัคซีนโควิด-19 เพื่อประชาชนไทย ครั้งที่ 6/2564 เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2564 และเห็นชอบการจัดหาวัคซีนไฟเซอร์ เพิ่มเติม จำนวน 10,000,000 โดส ภายใน พ.ศ.2564

อย่างไรก็ตาม แผนดังกล่าว หลังผ่านความเห็นชอบจาก ศบค. แล้ว จะไปสู่การปฏิบัติของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต่อไป