ไฮโซปลาวาฬ รองผบ.ตร. ชี้แจงกรณีตรวจ-ไม่ตรวจแอลกอฮอล์

จากอุบัติเหตุไฟไหม้รถหรูยี่ห้อเบนท์ลีย์ สีดำ ทะเบียน 1 ขษ 7426 กรุงเทพ ซึ่งมีนายวรสิทธิ อิสสระ หรือ ไฮโซปลาวาฬ เป็นผู้ขับขี่ และมีผู้โดยสารที่มาด้วยกันอีก 1 คน ประสบเหตุบริเวณถนนเพชรเกษม โค้งบ้านขนิม ม.7 ต.ทุ่งมะพร้าว อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2565 โดยไม่มีผู้บาดเจ็บนั้น

วันที่ 28 มีนาคม 2565 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผบ.ตร. เปิดเผยถึงการพิจารณาตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ของผู้ขับขี่ที่เกิดอุบัติเหตุว่า ในกรณีของไฮโซปลาวาฬยังไม่ได้รับรายงานเข้ามา แต่เคยสั่งไปแล้วในกรณีที่มีผู้บาดเจ็บ, เสียชีวิต หรือมีคู่กรณี จะต้องตรวจแอลกอฮอล์ของผู้ขับขี่ ถ้าตรวจได้โดยเครื่องตรวจเมาก็ต้องใช้เครื่องตรวจเมา เพราะไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายแต่หากตรวจเลือดที่โรงพยาบาลจะมีค่าใช้จ่าย

“ช่วงนี้เรื่องงบประมาณก็ยังมีปัญหาอยู่ เพราะทางสาธารณสุขเคยประสานงานกับกองทุนเลขสวยให้งบประมาณมา แต่บางครั้งอาจจะมีไม่เพียงพอก็จะเน้นในกรณีที่มีคู่กรณี หรือมีการบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต ที่จะมีปัญหาจะต้องตรวจทุกราย

ส่วนกรณีของไฮโซปลาวาฬขอตรวจสอบข้อเท็จจริงอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งจะรีบตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยเร็ว” พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 27 มี.ค. ว่าที่ร้อยตรีสมชาย อามีน นายกสมาคมนักกฎหมายคุ้มครองสิทธิ์และสิ่งแวดล้อม ให้สัมภาษณ์ติงว่า การที่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สั่งให้ผู้ขับขี่รถยนต์คันที่เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงไปตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือด อาจเข้าข่ายจงใจช่วยเหลือผู้กระทำผิดให้ไม่ต้องรับโทษ เป็นการปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามมาตรา 157

“การที่พนักงานสอบสวนอ้างว่าไม่มีคู่กรณีจึงไม่สั่งให้มีการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือด จึงเป็นการกล่าวอ้างที่ไร้เหตุผล อาจเข้าข่ายเจตนาช่วยเหลือผู้กระทำผิด ที่นอกจะกระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ทรัพย์สินผู้อื่นเสียหายแล้ว

หากตรวจพบว่าขับรถขณะเมาสุรา ต้องรับโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี แต่ถ้าทำให้ผู้อื่นบาดเจ็บด้วยโทษจำคุก 1-5 ปี เมาแล้วขับผิดกฎหมายทุกกรณีไม่ว่าจะมีผู้ได้รับความเสียหายหรือไม่” ว่าที่ร้อยตรีสมชาย กล่าว