กบร. สั่งยืดมาตรการบรรเทาผลกระทบโควิดต่อสายการบินอีก 1 ไตรมาส

สายการบิน-สนามบิน
แฟ้มภาพ

ประธาน กบร. สั่งเตรียมการรับมือผู้โดยสารเพิ่ม ป้องกันปัญหาเที่ยวบินป่วนแบบยุโรป-สหรัฐอเมริกา พร้อมมีมติขยายมาตรการบรรเทาผลกระทบสายการบินจาก COVID-19 ต่อไปอีกไตรมาส

วันที่ 27 กรกฎาคม 2565 ที่ประชุมคณะกรรมการการบินพลเรือน (กบร.) ครั้งที่ 5/2565 นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานกรรมการการบินพลเรือน สั่งการให้ CAAT ประสานผู้ประกอบการทุกรายเตรียมความพร้อมเต็มที่เพื่อรองรับปริมาณเที่ยวบินและผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังพบระบบการขนส่งทางอากาศในยุโรปและสหรัฐอเมริกาโกลาหลหนักจากการเตรียมรับมือความต้องการเดินทางที่พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วหลังโควิด-19 คลี่คลายลง

นอกจากนั้น กบร.ยังมีมติส่งเสริมการฟื้นตัวและผลักดันการเติบโตอุตสาหกรรมการบินของไทยอย่างต่อเนื่อง ทั้งขยายระยะเวลามาตรการลดค่าใช้จ่ายและมาตรการทางการเงินในไตรมาสที่ 3/2565 เพื่อบรรเทาผลกระทบของสายการบินจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ต่อไปอีก ทบทวนแผนแม่บทห้วงอากาศและการเดินอากาศแห่งชาติ รวมทั้งออก/ต่อใบอนุญาตผู้ประกอบกิจการการบินพลเรือนจากกรณีสนามบินทั่วยุโรป รวมทั้งในสหรัฐอเมริกาเกิดความโกลาหลอย่างหนักในช่วงนี้ โดยมีผู้โดยสารและสัมภาระตกค้างจากการยกเลิกเที่ยวบินและมีเที่ยวบินล่าช้าจำนวนมากตั้งแต่เดือนเมษายน 2565 เป็นต้นมา

โดยในยุโรปมีการยกเลิกเที่ยวบินไปแล้วเกือบแสนเที่ยวบิน ส่วนในสหรัฐอเมริกาที่มีการยกเลิกเที่ยวบินไปไม่น้อยกว่าสองหมื่นเที่ยวบินในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา นับตั้งแต่สถานการณ์ COVID-19 คลี่คลายลง ทำให้มีปริมาณนักท่องเที่ยวและผู้โดยสารเพิ่มขึ้นมาก ในขณะที่ทั้งยุโรปและอเมริกาประสบปัญหาเนื่องจากขาดแคลนบุคลากรทางการบิน ซึ่งส่วนหนึ่งเกิดจากการปรับลดพนักงานไปเป็นจำนวนมาก รวมทั้งผลพวงจากการระบาดของ COVID-19 ที่ทําให้เจ้าหน้าที่ต้องกักตัวจนขาดคนทํางาน นอกจากนั้นในหลายประเทศยังมีการนัดหยุดงานของบุคลากรในอุตสาหกรรมการบิน ทำให้มีคนทำงานไม่เพียงพอ

ประธาน กบร.จึงสั่งการให้ CAAT เร่งประสานกับทุกภาคส่วนทั้งสายการบิน สนามบิน บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จํากัด รวมทั้งผู้ประกอบการอื่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อเตรียมความพร้อมทุกมิติไม่ให้เกิดปัญหาดังกล่าวขึ้นในระบบการบินของประเทศไทย โดยเฉพาะในช่วงที่จะมีเที่ยวบินและผู้โดยสารเพิ่มขึ้นเป็นจํานวนมากในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่กี่เดือนนี้

นอกจากนั้น กบร.ยังมีมติที่สำคัญเพื่อกระตุ้นและส่งเสริมการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมการบินของประเทศในหลายประเด็น ดังนี้

1.การขยายมาตรการบรรเทาผลกระทบสายการบินจาก COVID-19 ในไตรมาสที่ 3/2565 กบร.ได้ประเมินสถานการณ์ COVID-19 ที่ยังระบาดอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน ทำให้จํานวนเที่ยวบินรวมถึงจํานวนผู้โดยสารทั้งในและระหว่างประเทศได้รับผลกระทบ อย่างไรก็ตาม จากนโยบายการผ่อนคลายเงื่อนไขในการเดินทางเข้าประเทศในไตรมาสที่ 2/2555 ทำให้จำนวนผู้โดยสารทั้งในประเทศและระหว่างประเทศเริ่มฟื้นตัว แต่ผู้ประกอบการสายการบินยังคงได้รับผลกระทบจากปัจจัยอื่นคือ อัตราเงินเฟ้อทั่วโลกที่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นและระดับราคาน้ำมันเครื่องบินที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ส่งผลกระทบต่อต้นทุนการดำเนินงานของสายการบิน ดังนั้นเพื่อสนับสนุนการแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายให้กับสายการบิน ให้สามารถฟื้นตัวจากผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 และสถานการณ์แวดล้อมอื่น ๆ กบร.จึงมีมติให้ขยายมาตรการช่วยเหลือสายการบินออกไปอีกในไตรมาสที่ 3/2565 ดังนี้

1.1 มาตรการด้านการลดค่าใช้จ่ายของสายการบิน บริษัท ท่าอากาศยานไทย จํากัด (มหาชน) (ทอท.) ขยายระยะเวลาปรับลดค่าบริการสนามบิน (Landing and Parking Charges) ลงอัตราร้อยละ 50 ทั้งเที่ยวบินภายในประเทศและเที่ยวบินระหว่างประเทศ และขยายเวลาการยกเว้นการจัดเก็บค่าบริการที่เก็บอากาศยาน (Parking Charge) ให้แก่สายการบินที่หยุดให้บริการชั่วคราว

1.2 มาตรการทางการเงิน CAAT ขยายระยะเวลาชำระหนี้ (Credit Terms) ค่าธรรมเนียมการเข้าหรือออกนอกประเทศ จาก 15 วันเป็น 90 วัน และยกเว้นเงินเพิ่ม (ค่าปรับ) ให้กับสายการบินที่นำส่งค่าธรรมเนียมการเข้าหรือออกประเทศ

ขณะที่กรมท่าอากาศยาน (ทย.) ขยายระยะเวลาการปรับลดอัตราค่าเช่าสำหรับทุกกิจกรรมในอัตราค่าเช่าไม่ต่ำกว่ากรมธนารักษ์กำหนด ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน-31 ธันวาคม 2565

อย่างไรก็ตาม สําหรับแนวโน้มของจำนวนผู้โดยสารต่างชาติที่จะเดินทางเข้ามายังประเทศไทย สถานการณ์การอ่อนค่าของเงินบาทจะเป็นปัจจัยส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาท่องเที่ยวในไทยมากยิ่งขึ้นเนื่องจากนักท่องเที่ยวลสามารถแกเปลี่ยนเงินดอลลาร์สหรัฐให้เป็นเงินบาทไทยในจํานวนที่มากขึ้น

ในขณะเดียวกัน สถิติจากกองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และประมาณการโดยธนาคารแห่งประเทศไทยระบุว่า ช่วงตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึง 20 พฤษภาคม 2565 ที่ผ่านมา มีจํานวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามายังประเทศไทยจำนวนทั้งหมด 1.08 ล้านคน

ธนาคารแห่งประเทศไทยได้คาดการณ์ว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติในปี 2565 เพิ่มขึ้นเป็นจํานวน 6 ล้านคนโดยในไตรมาสที่ 2 และไตรมาสที่ 3 จะมีการเพิ่มขึ้นในอัตราที่ชะลอตัวลง เนื่องจากเป็นฤดูกาล Low Season ของการท่องเที่ยว แต่จะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในไตรมาสที่ 4 เนื่องจากเป็น High Season และในปี 2566 คาดการณ์ว่าจะมีจํานวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเพิ่มขึ้นเป็น 19 ล้านคน

สำหรับกลุ่มผู้โดยสารชาวจีน ปัจจุบันรัฐบาลจีนเอนคลาริ่มผ่ยมาตรการการเดินทางระหว่างประเทศกับไทย แต่ยังคงอนุญาตให้เฉพาะการเดินทางที่จําเป็นในกลุ่มนักธุรกิจ นักเรียนและนักศึกษา โดยสำนักงานการบินพลเรือนแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน (CAAC) อนุญาตให้สายการบินของไทยและจีนทําการบินแบบประจําขนส่งผู้โดยสารระหว่างไทยกับจีนฝ่ายละ 3 เที่ยวต่อสัปดาห์ ช่วงเดือนกรกฎาคม-ตุลาคม 2565 โดยจากจํานวนเที่ยวบินจะยังไม่ส่งผลมากต่อการเพิ่มปริมาณผู้โดยสารที่เดินทางเข้า-ออกประเทศไทย

ถือเป็นสัญญาณที่ดีสําหรับการเดินทางระหว่างประเทศกับกลุ่มตลาดใหญ่อย่างจีน และเป็นจุดเริ่มต้นให้สายการบินของไทยได้เตรียมความพร้อมตามมาตรการสาธารณสุขของจีนด้วย หากสายการบินของไทยดำเนินการไปได้ด้วยดี ทางการจีนอาจเพิ่มจํานวนเที่ยวบินให้กับประเทศไทยต่อไป

2.การทบทวนแผนแม่บทห้วงอากาศและการเดินอากาศแห่งชาติ
กบร.ได้มีมติเห็นชอบการทบทวนแผนแม่บทห้วงอากาศและการเดินอากาศแห่งชาติ ซึ่งเป็นแผนหลักในการพัฒนาระบบห้วงอากาศและโครงสร้างพื้นฐานระบบการเดินอากาศของประเทศไทย ให้มีความสอดคล้องเหมาะสมกับสถานการณ์ในปัจจุบันมากยิ่งขึ้น โดยได้มีการปรับให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ทั้งในแง่ของกรอบเวลาและแผนการพัฒนาด้านอื่น ๆ ของไทย

3.การออกใบอนุญาตและต่อใบอนุญาตให้ผู้ประกอบกิจการการบินพลเรือน
กบร.ได้มีมติเห็นชอบให้ออกใบอนุญาตประกอบกิจการการบินพลเรือนให้ผู้ประกอบการที่ยื่นคำขอจํานวน 2 ราย ได้แก่ บริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น แอนด์ เทคโนโลยี จํากัด และบริษัท แอร์ อินเตอร์ ทรานสปอร์ต จํากัด รวมทั้งเห็นชอบให้ต่อใบอนุญาตให้ผู้ประกอบการจำนวน 4 ราย ประกอบด้วย บริษัท เอเชี่ยนแอโรสเปซ เซอร์วิส จํากัด บริษัท แอ๊ก โกลบอล จํากัด บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จํากัด และบริษัท เมเจ็ท จํากัด ตามที่คณะกรรมการกลั่นกรองการออกใบอนุญาตประกอบกิจการการบินพลเรือนได้ตรวจสอบคุณสมบัติและพิจารณาให้ความเห็นชอบในเบื้องต้นมาแล้ว