อัศวินสีส้มคืนชีพ

ฟุตบอลรายการใหม่ ยูฟ่า เนชั่น”ส ลีก จบรอบแบ่งกลุ่มอย่างพลิกความคาดหมาย แชมป์โลกฝรั่งเศสตกรอบ สเปนตกรอบ ยักษ์ใหญ่อย่างเยอรมันถึงขั้นตกชั้นร่วงไปเล่นในลีก B

ทีมที่สร้างความฮือฮากลายเป็นเนเธอร์แลนด์ “อัศวินสีส้ม” อยู่กลุ่มนรกแตก เจอทั้งเยอรมันและฝรั่งเศส ใคร ๆ ก็คาดว่า นักเตะดัตช์มีหวังจมบ๊วย ตกชั้นแหง ๆ

อาเข้าจริงเนเธอร์แลนด์กลับผงาดคว้าแชมป์กลุ่มผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศปีหน้าแบบเหลือเชื่อ ใครจะไปคิดว่าดัตช์จะปราบฝรั่งเศสได้ 2-0 เจอคู่ปรับเยอรมันในบ้านก็ยำเละถึง 3-0

ความสำเร็จของเนเธอร์แลนด์เซอร์ไพรส์แฟนบอลอย่างแรง กลายเป็นกระแสว่า อัศวินสีส้มตื่นแล้ว ไม่ใช่ยักษ์หลับอีกต่อไปแล้ว

ทีมดัตช์ล้มเหลวในบอลรายการใหญ่ 2 งานติด ตกรอบคัดเลือกทั้งยูโร 2016 ทั้งฟุตบอลโลก 2018 แต่หลังจากได้กุนซือโรนัลด์ คูมัน เข้ามาคุมทีมช่วงต้นปีที่ผ่านมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป

คูมันช่วย “ห้ามเลือด” ต่อด้วยสร้างความเชื่อมั่นให้นักเตะ ปลุกกระตุ้นให้ทุกคนกล้าเล่น มีความสุขในการเล่นทีมชาติอีกครั้ง จิตใจที่ฮึกเหิมเมื่อบวกกับการเล่นตามแท็กติกอย่างมีวินัย ก็ทำให้เกมพัฒนาขึ้นชัดเจน

เนเธอร์แลนด์ของกุนซือคูมัน ไม่ได้เล่นบอลเหนือชั้นคลาสสิก ไม่มีโททอลฟุตบอลแบบในอดีต แต่เล่นเพื่อเน้นผลแข่งเป็นหลัก

ตอนชนะเยอรมัน 3-0 รูปเกมใช่ว่าจะทิ้งกันห่างเหมือนสกอร์ ดัตช์ชนะเพราะสวนกลับเร็วได้ดี และไม่ใช้โอกาสเปลืองมากกว่า

นักเตะที่มีอยู่ก็ไม่ได้หรู เพียงแต่คูมันสามารถใช้ฝีเท้าลูกทีมได้เต็มศักยภาพ แกนนำของทีมชุดปัจจุบันมีหลัก ๆ 4 คน คือ ประตู แยสเปอร์ ซิลเลสเซ่น กองหลัง เวอร์จิล ฟานไดค์, มิดฟิลด์ จอร์จินโญ่ ไวจ์นัลดัม และกองหน้า เมมฟิส เดอปาย

เดอปายตอนนี้แทบเป็นคนละคนกับตอนไปล้มเหลวที่แมนฯยูฯ เขาเล่นอย่างมั่นใจมาก มีความเร็ว ความคม มีอิสระที่สุดในทีม เพราะบทบาทแทบจะเป็นตัวฟรีในแนวรุก

ความเร็วของเดอปาย ทำให้เกมสวนกลับของเนเธอร์แลนด์วูบวาบ หวือหวา ด้วยวัย 24 ปี, เจ้าหนุ่มเมมฟิส กลายเป็นกองหน้าที่ยุโรปกลับมายอมรับนับถือ เช่นเดียวกับทีมอัศวินสีส้มที่กำลังโตวันโตคืนเนเธอร์แลนด์อาจจะยังไม่ครบเครื่องนัก แต่เป็นทีมเล่นด้วยยาก และจะเก่งขึ้น 2 เท่าในปีหน้า