พลัง “ดาต้า” พลิกเกมธุรกิจ “เอ้ก ดิจิทัล” ดัน AI สู้ศึก “มาร์เทค”

egg digital

เอเยนซี่โฆษณา โดยเฉพาะโฆษณาดิจิทัลเป็นหนึ่งในธุรกิจที่ขับเคี่ยวแข่งขัน และมีบทบาทในแวดวงธุรกิจมากขึ้นมาก ทั้งจากเทรนด์ของผู้บริโภค และการฟื้นตัวของสารพัดกิจกรรมการตลาด หลังวิกฤตโควิด-19 คลี่คลาย บริษัทต่าง ๆ เริ่มให้ความสำคัญกับการสร้างความแตกต่างนอกเหนือจากการประชันไอเดียและความแปลกใหม่ของสื่อโฆษณาโดยเฉพาะการนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ หรือที่เรียกว่า “มาร์เทค” (Martech) เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายของตนเองได้มากขึ้น

“เอ้ก ดิจิทัล” ก่อตั้งเมื่อปี 2556 เริ่มต้นธุรกิจด้านออนไลน์โซลูชั่น (Online Solution) และโมบายมาร์เก็ตติ้งแพลตฟอร์ม (Mobile Marketing Platform) ก่อนที่ในปี 2564 จะขยับขยายเพิ่มเติมมายังธุรกิจให้คำปรึกษาข้อมูลด้านการค้าปลีก และการใช้ข้อมูลขนาดใหญ่ รวมถึงการเป็นที่ปรึกษาการวางแผนการตลาดดิจิทัลที่ใช้เทคโนโลยี และดาต้ามาทำการตลาดในรูปแบบ “Omnichannel” เชื่อมช่องทางออนไลน์เข้ากับวิธีการแบบออฟไลน์

ภาพรวมธุรกิจ “เอ้ก ดิจิทัล”

ดร.ธีรเดช ดำรงค์พลาสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ้ก ดิจิทัล จำกัด กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ในปี 2566 ไว้ที่ 2,000 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อนหน้า 20% แต่หลังจากผ่านไปได้เพียง 10 เดือนแรก มีรายได้ทะลุเป้าที่ตั้งไว้ไปแล้ว จึงคาดว่าถึงสิ้นปีน่าจะโตกว่าปีที่ผ่านมาถึง 30% ขณะที่มูลค่าตลาดมาร์เทคในประเทศไทยอยู่ที่ประมาณ 1.1 หมื่นล้านบาท เติบโตขึ้น 30% จากปีที่ผ่านมาเช่นกันจึงเป็นโอกาสในการพัฒนาโซลูชั่นใหม่ ๆ เพื่อให้บริการลูกค้าที่อยู่ในหลากหลายอุตสาหกรรม รวมถึงการสนับสนุนงานในเครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือ ซี.พี.ด้วย

ดร.ธีรเดช ดำรงค์พลาสิทธิ์
ดร.ธีรเดช ดำรงค์พลาสิทธิ์

“การใช้ดาต้าหรือข้อมูลเพื่อทำการตลาดในปัจจุบัน เรียกได้ว่าเป็น Dynamic Data ที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และอายุสั้นกว่าเดิม เราจึงต้องพัฒนาโซลูชั่นใหม่ ๆ เพื่อต่อยอดกลุ่มธุรกิจ และเสริมจุดแข็งเรื่องระบบหลังบ้านที่มีอยู่เดิม”

ปัจจุบัน เอ้ก ดิจิทัล มีธุรกิจ 3 ส่วน ได้แก่ 1.ธุรกิจ Insights-led Omnichannel Media ให้บริการสื่อโฆษณาแบบ Omnichannel ครบวงจร (End-to-End) ครอบคลุมสื่อโฆษณาในห้าง (In-Store Media) สื่อโฆษณาออนไลน์ (Digital Media) และสื่อโฆษณานอกบ้าน (Out-of-Home) หรือ Shoppers’ Digital Screen โดยวางกลยุทธ์การใช้สื่อเชิงลึกด้วย Intelligent O2O2O Media Solution (Online to OOH to On-Shelf) 2.ธุรกิจ Business Analytics & Development ให้บริการโซลูชั่นที่ปรึกษาด้านข้อมูลและวิเคราะห์บิ๊กดาต้าที่ขับเคลื่อนด้วย AI และ Machine Learning โดยมีบริการครอบคลุมทั้งด้านที่ปรึกษาทางธุรกิจ (Business Consult) และด้านวิทยาศาสตร์ข้อมูล กับวิศวกรรมข้อมูล (Data Science & Data Engineering) ที่สามารถออกแบบบริการและโมเดลธุรกิจให้ตอบโจทย์ลูกค้าในแต่ละอุตสาหกรรม

และ 3.ธุรกิจ Platform & Media Solutions ให้บริการแพลตฟอร์มดิจิทัลและมีเดียโซลูชั่น ครอบคลุมทั้ง 1) LINE Media & Solutions Partner (CRM/BI Platform) บริการโซลูชั่นและแพลตฟอร์มซื้อ-ขาย สะสมและแลกคะแนนบน LINE 2) Creative, Content & Media Solutions บริการให้คำปรึกษาและวางแผนการทำการตลาดผ่านสื่อหลากหลายรูปแบบ 3) Mobile Marketing & Analytics SMS บริการวิเคราะห์ข้อมูลด้านการสื่อสารผ่าน SMS

มากกว่าวิเคราะห์ข้อมูล

นายวรภัทร งามเจตวรกุล ผู้จัดการทั่วไป ธุรกิจ Business Analytics & Development บริษัทเดียวกัน กล่าวเสริมว่า การผสานช่องทางออนไลน์ และออฟไลน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ต้องเริ่มจากการวางโครงสร้างพื้นฐานด้านดาต้าที่แข็งแกร่งก่อน และเทรนด์ของการใช้ดาต้าจะไม่หยุดอยู่ที่การวิเคราะห์ผล หรืออธิบายลักษณะจากความชอบที่มีอยู่เท่านั้น แต่จะไปถึงการทำนายโอกาสที่จะเกิดขึ้นล่วงหน้า เช่น ธุรกิจรถยนต์ต้องการเปิดโชว์รูมแห่งใหม่ก็ต้องใช้ดาต้าทำนายว่าคนในพื้นที่ชอบรถรุ่นอะไร หรือสีอะไร เพื่อวางแผนในการขายได้อย่างคุ้มค่าที่สุด

วรภัทร งามเจตวรกุล
วรภัทร งามเจตวรกุล

“ตอนนี้เรามองไปถึงการใช้ดาต้าข้ามอุตสาหกรรม หรือการเข้าถึงดาต้าของลูกค้าแบบ 720 องศา ไม่ได้แค่ในอุตสาหกรรมของตนเอง เพื่อทำความเข้าใจพฤติกรรมของผู้บริโภคให้ครอบคลุมในหลากหลายมิติ เช่น ธุรกิจค้าปลีกใช้ดาต้าจากธุรกิจโทรคมนาคมในการวางแผนด้านการตลาด, การผลิตสื่อโฆษณา และการขายสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพและประหยัดต้นทุนมากที่สุด”

ขยายบริการเพิ่มโฟกัสโซเชียล

นางสาวรัฐธีร์ เจริญรัตน์วรกุล ผู้จัดการทั่วไป ธุรกิจ Platform & Media Solutions บริษัทเดียวกันกล่าวด้วยว่า ปัจจุบันผู้บริโภคยุคดิจิทัลมีการใช้งานโซเชียลมีเดียหลากหลายแพลตฟอร์ม และใช้เวลาบนโซเชียลมีเดียประมาณ 2.5 ชั่วโมงต่อวัน อีกทั้งภูมิทัศน์สื่อยังเปลี่ยนแปลงไปจากในอดีตมาก เมื่อก่อนคนไทยใช้เฟซบุ๊ก (Facebook) เยอะมาก ปัจจุบันขยับมาที่ TikTok ปีก่อนหน้ามีผู้ใช้ประมาณ 10 ล้านราย แต่ปีนี้อยู่ที่ 35.5 ล้านราย ถือเป็นแพลตฟอร์มที่เติบโตเร็วมาก ๆ

รัฐธีร์ เจริญรัตน์วรกุล
รัฐธีร์ เจริญรัตน์วรกุล

“ด้วยพฤติกรรมบนโลกออนไลน์ของผู้บริโภค และภูมิทัศน์สื่อที่เปลี่ยนไป ทำให้ในปีหน้าเราจะมุ่งขยายบริการใหม่ที่ช่วยให้ลูกค้าเข้าถึงผู้บริโภคยุคดิจิทัลได้มากขึ้น รวมถึงใช้ดาต้า, AI และ Machine Learning ในการสร้างกิจกรรมสื่อสารแบบ Hyper Personalized Marketing หรือการตลาดแบบเฉพาะเจาะจง เพื่อช่วยให้แบรนด์ต่าง ๆ เข้าถึงลูกค้าได้ทุกทัชพอยต์และเพิ่มยอดขายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น”

ชูโซลูชั่น O2O2O เป็นจุดแข็ง

นายชัชพล องนิธิวัฒน์ ผู้จัดการทั่วไป ธุรกิจ Insights-led Omnichannel Media บริษัท เอ้ก ดิจิทัล จำกัด กล่าวว่า
บริษัทมีโซลูชั่นเชื่อมการตลาดแบบออนไลน์ และออฟไลน์ ที่เรียกว่า “O2O2O” (Online to OOH to On-Shelf) โดยในช่วงไตรมาส 3/2566 เปิดตัว Shopper’s Digital Screen โซลูชั่นสื่อนอกบ้านหรือป้ายต่าง ๆ เป็นตัวกลางเชื่อมสื่อบนโลกออนไลน์กับการโฆษณาบนเชลฟ์สินค้า เพื่อสร้างการรับรู้และนำไปสู่การสร้างยอดขายตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง

ชัชพล องนิธิวัฒน์
ชัชพล องนิธิวัฒน์

“การเปิดตัวโซลูชั่นสื่อนอกบ้าน มาจาก
การที่เราเห็นโอกาสว่าคนต้องกลับมาใช้ชีวิตตามปกติ และช่วงโควิดเป็นช่วงที่แบรนด์ต่าง ๆ ชะลอการลงทุนด้านโฆษณามานาน เรามีโลเกชั่นที่ใช่ อย่างที่โลตัสเราเลือกมา 24 สาขา ตั้งอยู่
ในที่ที่มีการสัญจรไปมา มีศักยภาพในการ
ทำสื่อนอกบ้าน ลูกค้าที่นิยมทำสื่อโฆษณาทั้ง 3 ส่วน จะเป็นกลุ่ม FMCG ที่ต้องจบการขายในโลตัส”

จุดแข็งของโซลูชั่น O2O2O คือการนำดาต้าหลังบ้านมาช่วยลูกค้าวิเคราะห์ความเหมาะสมในการลงทุนแต่ละส่วน เพราะแต่ละแบรนด์มี
งบประมาณและความต้องการต่างกัน รวมถึงใช้ดาต้าจากพฤติกรรมผู้บริโภคในการแนะนำช่วงเวลาเผยแพร่เนื้อหาต่าง ๆ เช่น ตอนเช้าเป็นเรื่องโปรโมชั่น ตอนบ่าย
เป็นเรื่อง Branding และตอนเย็นวนกลับมาเป็นเรื่องโปรโมชั่นอีกครั้ง

“การกำหนดโลเกชั่นสำหรับสื่อนอกบ้าน จะทำงานร่วมกับดาต้าหลาย ๆ ส่วน เช่น การซื้อของ และทำธุรกรรมในโลตัส 
การจับสัญญาณมือถือในบริเวณใกล้เคียง 
และความหนาแน่นของการจราจรโดยรอบ 
อีกทั้งจอที่ใช้ยังเป็นเทคโนโลยี SMD ที่ช่วย
ให้ผู้บริโภคเห็นจอจากทุกมุมมอง แสงสีเสียงคมชัดกว่าเทคโนโลยีเก่า”

ปี’67 อัพสปีดธุรกิจด้วย “AI”

ดร.ธีรเดชกล่าวต่อว่า ปี 2567 เอ้ก ดิจิทัล
จะดำเนินธุรกิจ ภายใต้วิสัยทัศน์ “To catalyse exponential growth with the power of collaboration, data and technology” หรือการผสานการทำงานของแต่ละหน่วยธุรกิจด้วยพลังจาก AI และ Machine Learning สร้างภูมิทัศน์การใช้ดาต้าให้รอบด้านมากขึ้น และขยายขีดความสามารถการให้บริการด้านมาร์เทค
ที่แบ่งเป็น 5 กลุ่ม ได้แก่ 1.Digital Advertising 2.Content Management 3.CRM 4.Big Data Analytics และ 5.Marketing Automation

“เราเริ่มพัฒนาโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) เป็นของตนเองมาได้ 3 เดือน
แล้ว เริ่มจากการหาอินไซต์ ให้คำแนะนำ และพัฒนาเป็นโซลูชั่นมาร์เทค สำหรับการใช้งานภาษาอังกฤษค่อนข้างน่าพึงพอใจ แต่การให้คำแนะนำยังไม่ไปถึงจุดที่เราต้องการขนาดนั้น ซึ่งยังต้องพัฒนา
ต่อไปเรื่อย ๆ โดยการลงทุนในส่วนนี้มีมูลค่ามากกว่าหลักร้อยล้านบาทหลายเท่า”

นอกจากการลงทุนในเทคโนโลยี เอ้ก ดิจิทัล ยังให้ความสำคัญกับการเฟ้นหาทาเลนต์และการพัฒนาความสามารถของบุคลากรด้านเทคโนโลยีด้วย ซึ่งใน
ปัจจุบันพนักงานที่ทำงานด้านดาต้า หรือ 
Data Scientist มีอยู่ประมาณ 35% ขององค์กร

“ต้องยอมรับว่าทีม HR ทำงานได้ดี 
มีการทำงานร่วมกับมหาวิทยาลัยต่าง ๆ 
ทั่วประเทศ โดยเฉพาะคณะที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีในการออกแบบโปรแกรม
ฝึกงานสำหรับนิสิต นักศึกษาและดึงคนที่
กำลังจะจบการศึกษามาทำงานร่วมกันสอดคล้องกับความตั้งใจของเอ้ก ดิจิทัล 
ที่ต้องการเป็นสถานที่ให้ความรู้และฝึกทักษะคนที่สนใจงานด้านดาต้าจริง ๆ”