TikTok ลุยปั้น Entertainment Hub เชื่อมอีโคซิสเต็มคนรักคอนเทนต์

“TikTok” เปิดแผนธุรกิจปี 2567 ชูแนวคิด “TikTok for All” เป็นแพลตฟอร์มความบันเทิงสำหรับทุกคน ลุยปั้น Entertainment Hub เอาใจคนรักการรับชมคอนเทนต์ พร้อมเผยสถิติ 99% ของผู้ขายมากกว่า 2.4 ล้านคน เป็นผู้ขายในประเทศ

วันที่ 30 มกราคม 2567 นางสาวชนิดา คล้ายพันธ์ Head of Public Policy TikTok ประเทศไทย เปิดเผยว่า ในไทยมีครีเอเตอร์มากกว่า 3 ล้านคนที่สร้างรายได้จาก TikTok และมีผู้ขายที่ได้รับการสนับสนุนจากเรามากกว่า 2.4 ล้านคน ซึ่ง 99% เป็นผู้ขายในประเทศ

และในปี 2564 อุตสาหกรรมครีเอทีฟของไทยมีมูลค่าประมาณ 1.1 ล้านล้านบาท คิดเป็น 6.81% ของ GDP ของประเทศ โดยในปี 2565 จำนวนบุคลากรที่มีส่วนร่วมในอุตสาหกรรมนี้เพิ่มขึ้นถึง 963,549 คน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการเติบโตของอุตสาหกรรมครีเอทีฟที่มีส่วนทำให้เศรษฐกิจของประเทศเติบโต

นางสาวชนิดา คล้ายพันธ์
นางสาวชนิดา คล้ายพันธ์

“TikTok ยังคงมุ่งมั่นสนับสนุนเศรษฐกิจสร้างสรรค์อย่างยั่งยืน โดยขับเคลื่อนผ่านแนวคิด TikTok for All และ TikTok for Smart Economy, Smart People, and Smart Environment ที่ช่วยให้ทุกคนสามารถแบ่งปันเรื่องราวผ่านความคิดสร้างสรรค์ และเป็นแรงบันดาลใจให้สร้างผลกระทบเชิงบวกผ่านแคมเปญที่หลากหลาย ผลักดันเศรษฐกิจสร้างสรรค์ในไทยให้เติบโต”

นอกจากนี้ TikTok ยังยกระดับความรู้และทักษะให้กับคอมมิวนิตี้ผู้ใช้ชาวไทย ผ่านหลักสูตรออนไลน์ที่สร้างความร่วมมือกับกรุงเทพมหานคร รวมถึงมีโปรแกรมอบรมทักษะดิจิทัลสำหรับธุรกิจท้องถิ่น ที่เกิดจากความร่วมมือกับกรมพัฒนาชุมชน พร้อมทั้งสนับสนุนธุรกิจท้องถิ่น (OTOP) จำนวน 532 แห่งทั่วประเทศในเฟสแรก โดยตั้งเป้าเพิ่มจำนวนอีกกว่า 1,000 แห่งในปีนี้

นายพิสุทธิ์ โรจน์เลิศจรรยา Head of Operations TikTok ประเทศไทย เปิดเผยว่า จากข้อมูลในเดือน เม.ย. 2566 มีผู้ใช้งาน TikTok ในภูมิภาคอาเซียน 325 ล้านคน และมีผู้ประกอบการอยู่บนแพลตฟอร์ม 15 ล้านราย โดยในปีนี้ TikTok ตั้งเป้าในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ให้กับประเทศไทยผ่านอีโคชิสเต็มบนแพลตฟอร์มของเรา

นายพิสุทธิ์ โรจน์เลิศจรรยา
นายพิสุทธิ์ โรจน์เลิศจรรยา

“ในปี 2566 คอนเทนต์ยอดนิยมยังคงอยู่ในกลุ่มของ Entertainment, Food & Travel, Beauty & Fashion, Sport & Gaming และ Education”

โดยในปี 2567 เราจะต่อยอดให้คอมมิวนิตี้บนแพลตฟอร์มแข็งแรงขึ้นผ่านการสร้าง Entertainment Hub รวมข้อมูลซีรีส์หรือคอนเทนต์ออกใหม่ไว้ในแอปพลิเคชั่น และเพิ่มฟีเจอร์ 1 minute+ อำนวยความสะดวกในการสร้างวิดีโอยาวให้กับครีเอเตอร์ ซึ่งในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ยอดการรับชมวิดีโอที่ความยาวมากกว่า 1 นาที เพิ่มขึ้น 5 เท่า

“เราพร้อมขยายการสนับสนุนในการสร้างคอนเทนต์ไปที่พาร์ตเนอร์ผู้ผลิตคอนเทนต์ด้วยกิจกรรมเอ็กซ์คลูซีฟ เช่น เวิร์กช็อปพิเศษสำหรับพาร์ตเนอร์ผู้ผลิตคอนเทนต์ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน และยังสนับสนุนการสร้างคอนเทนต์ที่มีคุณภาพต่อไปโดยขยายความร่วมมือกับครีเอเตอร์ระดับโลก เกิดการแบ่งปันข้อมูลและประสบการณ์ไปพร้อม ๆ กับเพิ่มขีดความสามารถของตนเอง”

นางสาวกรณิการ์ นิวัติศัยวงศ์ Head of FMCG, E-Commerce TikTok ประเทศไทย กล่าวว่า TikTok Shop คืออีโคซิสเต็มอีคอมเมิร์ซที่ช่วยเปลี่ยนการค้นพบไปสู่การตัดสินใจซื้อได้ในเวลาเพียงไม่กี่วินาที เราสร้างประสบการณ์การช็อปปิ้งแบบ Infinity Loop ใช้งานได้อย่างราบรื่นตั้งแต่การค้นพบไปจนถึงการพิจารณา การซื้อ และการรีวิว แล้วกลับไปสู่การค้นพบอีกครั้ง

นางสาวกรณิการ์ นิวัติศัยวงศ์
นางสาวกรณิการ์ นิวัติศัยวงศ์

ปัจจุบันช่องทางการจำหน่ายสินค้าบน TikTok Shop แบ่งเป็น 3 ช่องทางหลัก คือ Shopping Center, LIVE Shopping และ Video Shopping ซึ่งแต่ละช่องทางมีสัดส่วนการเข้ามาซื้อสินค้าพอ ๆ กัน แต่ถ้าเป็นสินค้าประเภทเครื่องสำอางจะพบว่าผู้ใช้ซื้อผ่านการรับชมคอนเทนต์มากกว่าช่องทางอื่นเล็กน้อย หรือถ้าเป็นสินค้าประเภทของกินและของใช้จะซื้อผ่านการเข้ามาเสิร์ชบน Shopping Center โดยตรง

“ในปี 2567 TikTok มุ่งมั่นที่จะให้การสนับสนุนผู้ขายและธุรกิจในท้องถิ่นอย่างต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายในการเพิ่มศักยภาพและคว้าโอกาสทางธุรกิจได้ผ่านการรวมความบันเทิงและคอมเมิร์ซเข้าด้วยกัน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถให้กับประสบการณ์ช็อปปิ้งอย่างไร้รอยต่อ ซึ่งจุดแข็งของเราคือการมีครีเอเตอร์จำนวนมากคอยสร้างสรรค์เนื้อหาบนแพลตฟอร์ม”

นางสาวชลธิชา งามกมลเลิศ Head of Client Partnership TikTok ประเทศไทย กล่าวว่า มูลค่ายอดขายสินค้าโดยรวม (Gross Merchandise Value) ของ Shoppertainment หรือการซื้อสินค้าผ่านสื่อความบันเทิงในไทยมีโอกาสขยับเป็น 1.24 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2568 สะท้อนว่าเทรนด์นี้ยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก

นางสาวชลธิชา งามกมลเลิศ
นางสาวชลธิชา งามกมลเลิศ

ในปี 2567 TikTok ตั้งเป้าที่จะขับเคลื่อนการเดิบโตในกลุ่มธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภค (CPG), คอมเมิร์ซ, อาหารและเครื่องดื่ม (F&B), ยานยนต์, การเงิน และแอปพลิเคชั่น ด้วยการผสมผสานคอนเทนต์แบบไดนามิก และกลยุทธ์อีคอมเมิร์ซ โดยเรามุ่งมั่นในการเร่งสร้างความสำเร็จให้กับธุรกิจในทุกขนาด

ทั้งนี้ ผลการศึกษาของ TKTok ยังพบด้วยว่า การรับชมคอนเทนต์บนแพลตฟอร์มทำให้เกิดการตัดสินใจซื้อที่เพิ่มขึ้น โดยมากกว่า 70% ของผู้บริโภคพึ่งพาวิดีโอบน TikTok

อย่างไรก็ตาม ในปีนี้ TikTok ได้จัดตั้งออฟฟิศแห่งใหม่ในไทยที่อาคารพาร์ค สีลม ถือเป็นหนึ่งในปัจจัยที่สะท้อนให้เห็นว่าไทยเป็นหนึ่งในตลาดที่สำคัญของ TikTok เช่นกัน