กสทช.ย้ำปี 63 ต้องได้ใช้ 5G จับมือจุฬาฯ เปิดศูนย์ทดสอบพร้อมหารือรัฐบาลช่วยปลดล็อคภาระหนี้ค่ายมือถือ

ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” รายงานว่า เมื่อวันที่ 4 ก.พ. 2562 สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) เปิดศูนย์ 5G AI / IoT Innovation Center ณ ชั้น 9 อาคารวิศวฯ 100 ปี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย   ซึ่งเป็นศูนย์ปฏิบัติการทดสอบ 5G  โดยใช้ความถี่ย่าน 26.5 – 27.5 GHz ภายใต้ความร่วมมือกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

พลเอก สุกิจ ขมะสุนทร ประธาน กสทช. เปิดเผยว่า การจัดตั้งศูนย์ 5G AI / IoT Innovation Center นี้ เป็นสิ่งยืนยันความมุ่งมั่นในการสนับสนุนกันและกันหลายภาคส่วน ทั้งในภาคการศึกษาที่มีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเป็นศูนย์กลาง เชื่อมโยงกับภาคอุตสาหกรรมโทรคมนาคม และอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่องอื่น สามารถสร้างองค์ความรู้ทางวิชาการ และพัฒนาเทคโนโลยี 5G ให้สามารถเกิดขึ้นจริงในปี 2563 และสามารถกระตุ้นให้ประเทศไทยสามารถแข่งขันและร่วมมือไปพร้อมกับประเทศอื่นๆ ได้อย่างเต็มศักยภาพ

ขณะที่นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. กล่าวว่า ศูนย์ทดสอบนี้ได้รับความร่วมมือจากผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ทั้งเอไอเอส ทรู ดีแทค ทีโอที และ แคท ผู้ผลิตอุปกรณ์โทรคมนาคม และภาคอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่อง เพื่อเตรียมความพร้อมในการเปิดให้บริการ 5G ในปี 2563 ตามนโยบายของรัฐบาล  โดยในเฟสแรกจะติดตั้งอุปกรณ์สถานีฐาน ณ อาคารวิศวฯ 100 ปี เพื่อรองรับการให้บริการครอบคลุมพื้นที่บางส่วนของคณะวิศวกรรมศาสตร์ และตั้งศูนย์ 5G AI / IoT Innovation Center ภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2562  ก่อนที่จะขยายสถานีฐานในเฟส 2  ให้ครอบคลุมพื้นที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยทั้งหมด

“แม้ว่าบรรดาโอเปอเรเตอร์จะยังมีห่วงเรื่องภาระทางการเงิน แต่ขอให้ไม่ต้องกังวล กสทช. มีหน้าที่ช่วยผลักดันทุกอย่างที่จะทำให้ 5G เกิดขึ้นให้ได้ภายในปี 2563 ไม่ว่าจะเป็นการขยายงวดการจ่ายเงินประมูลคลื่น 900 MHz หรือการให้กู้เงินจากกองทุน กทปส. (กองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมเพื่อประโยชน์สาธารณะ)  โดยภายในสัปดาห์นี้จะมีการหารือร่วมกับทางรัฐบาลอีกครั้ง”  

ด้านศาสตราจารย์ ดร. บัณฑิต เอื้ออาภรณ์ อธิการบดี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ศูนย์นี้จะมีส่วนช่วยในการพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ ตามแนวคิด “เมืองชาญฉลาด” สมาร์ทซิตี้เพื่อให้นำเทคโนโลยี 5G มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยเน้นด้านสมาร์ทโมบิลิตี้ สมาร์ทเฮลท์ สมาร์ทเอ็นเนอร์ยี่