เริ่มแล้ว! ดีอีเอสบังคับกลุ่มเสี่ยงต้องกักตัวที่บ้าน-ต่างชาติเดินทางเข้าไทยต้องโหลดแอปเกาะติดพิกัดที่อยู่

จัดแอปพลิเคชั่นเกาะติดกลุ่มเสี่ยง COVID-19 กระทรวงดิจิทัลผนึกกำลังภาครัฐ-สตาร์ตอัพสู้ภัยไวรัส บังคับต่างชาติเข้าไทยต้องดาวน์โหลด “AOT Airports”  พร้อมใช้แอปฯ “SydeKick for ThaiFightCOVID” เกาะติดคนไทยกลุ่มเฝ้าระวังที่ต้องกักตัวที่บ้าน หวังสกัดการแพร่ระบาดไวรัส COVID

นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 12 มี.ค. 2563 เป็นต้นไป ชาวต่างชาติ “ทุกคน” ที่เดินทางเข้าประเทศไทยผ่านท่าอากาศยานทุกแห่ง และชาวไทยที่เดินทางมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ท้องที่นอกราชอาณาจักรที่เป็นเขตติดโรคติดต่ออันตราย กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 พ.ศ. 2563  จะต้องดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน “AOT Airports” เพื่อกรอกข้อมูลให้กับกรมควบคุมโรคสามารถติดตามเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ได้

และหากผู้เดินทางไม่ได้เปิดบริการโรมมิ่งหรือมีซิมการ์ดโทรศัพท์เคลื่อนที่ของประเทศไทยมาก่อน กระทรวงฯ ได้ร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ทุกราย วางจำหน่ายซิมการ์ด ณ จุดวัดอุณหภูมิ ในราคา 49 บาท สามารถใช้ได้ 14 วัน เพื่อให้สามารถดาวน์โหลดแอปฯ และกรอกข้อมูลให้ครบถ้วนก่อนผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง

“ข้อมูลทั้งหมดจะถูกเก็บรวบรวมไว้ที่ กรมควบคุมโรค เพื่อใช้ในการติดตามและสื่อสารข้อมูลเกี่ยวกับเชื้อ COVID-19 หากพบว่ามีการติดเชื้อภายหลังผ่านเข้าประเทศแล้ว กรมควบคุมโรค จะแจ้งให้ กสทช. และผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ได้รับทราบ ก่อนติดตามพิกัดที่อยู่ของผู้ป่วยและผู้ที่เดินทางร่วมกันได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว พร้อมยืนยันว่า ข้อมูลต่าง ๆ จะถูกลบออกจากระบบภายใน 14 วัน ซึ่งผู้ที่ประสงค์จะเดินทางเข้าสู่ราชอาณาจักรไทยจะต้องให้ความร่วมมือ เพื่อเป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม”

ขณะเดียวกัน กระทรวงดิจิทัลฯ ยังได้ร่วมมือกับ “อาร์ติคูคัส” สตาร์ทอัพไทยที่ได้รับการส่งเสริมและสนับสนุนจาก สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า พัฒนาแอปพลิเคชัน “SydeKick for ThaiFightCOVID” ให้ผู้ที่อยู่ในกลุ่มต้องเฝ้าระวังทุกคน ต้องดาวน์โหลดและกรอกข้อมูลเพื่อแสดงตัวตนที่อยู่ตามภูมิลำเนาของตัวเองก่อนออกจากศูนย์กักกันเพื่อควบคุมโรค หลังจากรัฐบาลประกาศปิดศูนย์กักกันฯ ทุกแห่ง เพื่อคอยตรวจสอบพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันของกลุ่มเสี่ยงว่า มีความรับผิดชอบต่อสังคม และกักตัวเองอยู่ที่บ้านตามระยะเวลาที่กำหนดหรือไม่ โดยแอปพลิเคชันจะทำงานควบคู่กับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดที่จะคอยดูแลอย่างใกล้ชิด และหากพบผู้ใดฝ่าฝืนจะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป