ค้าชายแดนกาญจนบุรีเฉียดแสนล้าน เล็งยกระดับ “ด่านพุน้ำร้อน” ดันตั้งเขตปลอดอากร

ศุลกากรเล็งยกระดับ “ด่านพุน้ำร้อน” เป็นด่านศุลกากรแห่งใหม่ หลังสร้างเสร็จปลายปี 2562 เหตุยอดค้าชายแดนกาญจนบุรีทะลุแสนล้านบาท “ด่านศุลกากรสังขละบุรี” รับมือไม่ไหว ตั้งเป้าอนาคตมีเส้นทางการค้าขนส่งเชื่อมโยงอาเซียน-จีน-อินเดีย พร้อมดันตั้ง “เขตปลอดอากร” จูงใจนักธุรกิจลงทุน “ศูนย์ผลิตส่วนประกอบ” ใน “เขตเศรษฐกิจพิเศษกาญจนบุรี” ได้รับสิทธิประโยชน์ส่งเสริมการลงทุนเพียบ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์การค้าชายแดนของกาญจนบุรีในปี 2561 มีอัตราการขยายตัวใกล้เคียงกับปี 2560 โดยสินค้าหลักยังคงเป็นสินค้าอุปโภคบริโภค มีมูลค่าส่งออกรวม 1,091 ล้านบาท นำเข้า 73,256 ล้านบาท แบ่งเป็นบริเวณด่านพรมแดนบ้านพระเจดีย์สามองค์ มีมูลค่าส่งออกรวม 352 ล้านบาท โดยสินค้า 3 อันดับแรกที่ส่งออกมากที่สุด ได้แก่ เครื่องปรุงรส ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมและนม และบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ส่วนสินค้านำเข้ามูลค่า 104 ล้านบาท มีสินค้า 3 อันดับแรกที่นำเข้ามากที่สุด ได้แก่ โค-กระบือมีชีวิต แร่พลวง และไม้ไผ่ลำตัดท่อน ในขณะที่ด่านพรมแดนพุน้ำร้อน มีมูลค่าส่งออก 198 ล้านบาท โดยสินค้า 3 อันดับแรกที่ส่งออกมากที่สุด ได้แก่ ชิ้นส่วนเนื้อไก่, เครื่องในไก่สดแช่แข็ง น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว และก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ส่วนสินค้านำเข้า 239 ล้านบาท มีสินค้า 3 อันดับแรกที่นำเข้ามากที่สุด คือ อาหารทะเล ดีบุกสภาพสินแร่ และไม้ไผ่ลำ

นอกจากนี้ยังมีการนำเข้า-ส่งออกสินค้าในช่องทางอื่น ๆ ได้แก่ บริเวณบ้านอีต่อง ต.ปิล๊อก อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี เป็นการนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) มูลค่า 72,242 ล้านบาท คลังสินค้าทัณฑ์บน บริษัท เอ็นเอ็มบี-มินิแบ ไทย จำกัด เป็นการนำเข้าสินค้าประเภทส่วนประกอบตลับลูกปืน และเศษเหลือจากการผลิต มูลค่า 669 ล้านบาท เป็นการส่งออกสินค้าตลับลูกปืนมูลค่า 540 ล้านบาท และคลังสินค้าทัณฑ์บน บริษัท นำรุ่ง เรย่อน จำกัด เป็นสินค้าเส้นด้ายทำด้วยโพลิเอสเตอร์ และเส้นด้ายทำด้วยไนลอน มูลค่า 1.1 ล้านบาท

นายประพันธ์ จันทร์ไทยศรี นายด่านศุลกากรสังขละบุรี เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ขณะนี้กำลังเตรียมพิจารณาปรับโครงสร้างด่านศุลกากรแห่งใหม่ เพื่อยกระดับขึ้นเป็นด่านศุลกากรพุน้ำร้อน คู่กับด่านศุลกากรสังขละบุรี เนื่องจากปัจจุบันด่านศุลกากรพุน้ำร้อนเป็นด่านพรมแดนอยู่ในการดูแลของด่านศุลกากรสังขละบุรี ซึ่งต้องดูแลด่านพรมแดนหลัก 2 แห่ง ได้แก่ ด่านพรมแดนพระเจดีย์สามองค์ ซึ่งห่างจากด่านศุลกากรจังหวัดสังขละบุรี 20 กม. และด่านพรมแดนพุน้ำร้อน ซึ่งอยู่ห่างจากด่านศุลกากรสังขละบุรีมากกว่า 200 กม. รวมถึงมีอัตรากำลังเจ้าหน้าที่ดูแลเพียง 22 คน ซึ่งหากตัวด่านศุลกากรพุน้ำร้อนก่อสร้างแล้วเสร็จ อาจต้องพิจารณาการเพิ่มอัตรากำลัง และต้องพิจารณาปริมาณการค้า และตัวเลขการผ่านเข้าออกของสินค้าชายแดนอีกครั้งหนึ่ง

นอกจากนี้ เพื่อสนับสนุนการจัดทำเขตเศรษฐกิจพิเศษ กรมศุลกากรมีแนวทางจัดทำเขตปลอดอากร (free zone : FZ) ที่ด่านศุลกากรพุน้ำร้อน ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณเขตเศรษฐกิจพิเศษ เพื่อรองรับการเป็น “ศูนย์ผลิตส่วนประกอบ” การดำเนินธุรกรรมในการนำสินค้าเข้าไปเพื่อการแบ่งจำหน่าย หรือบรรจุเพื่อส่งออก โดยสินค้าที่นำเข้าสู่เขตปลอดอากรไม่จำเป็นต้องเสียอากร รวมถึงไม่จำเป็นต้องขอคำอนุญาตการรับรองมาตรฐานต่าง ๆ ทั้งมาตรฐานอุตสาหกรรมและการรับรองผลิตภัณฑ์ ทั้งนี้ต้องเป็นไปเพื่อการนำเข้าเพื่อเข้าสู่กระบวนการผลิตและส่งต่อไปขายยังประเทศปลายทางอื่นเท่านั้น

หากมีการจัดเขตปลอดอากร ผู้ประกอบการจะได้รับสิทธิด้านทุนจดทะเบียนสามารถใช้เพียง 1 ล้านบาท จากปกติ 5 ล้านบาท และผู้ประกอบการที่สนใจลงทุนในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษพุน้ำร้อน สามารถจะใช้สิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ของคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) เพื่อส่งเสริมการลงทุน และการใช้สิทธิของการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.)

“ด่านศุลกากรสังขละบุรีจะเป็นโครงสร้างสำคัญหนึ่งในการเชื่อมโยงเศรษฐกิจในระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในอนาคต เพราะเมื่อโครงการต่าง ๆ ของภาครัฐที่ทำอยู่ในขณะนี้เสร็จสิ้น นับตั้งแต่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ที่มีทั้งเส้นทางคมนาคมและอุตสาหกรรม ไปจนถึงมอเตอร์เวย์บางใหญ่-กาญจนบุรี-นั้น จะทำให้การขนส่งสินค้าในประเทศถูกเชื่อมโยงเข้ากับประเทศเพื่อนบ้าน เพราะประเทศจีนกับประเทศเวียดนามมีเส้นทางเชื่อมผ่านสู่นครพนม มุกดาหาร ส่วนฝั่งเมียนมามีความคืบหน้าในการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษและท่าเรือน้ำลึก ซึ่งจะร่นระยะเวลาการขนส่งสินค้าจากเดิมที่ต้องใช้เส้นทางเรือจะต้องผ่านช่องแคบมะละกา ในการผ่านจากซีกตะวันออกไปยังตะวันตกของทวีปเอเชียหรือจาก ญี่ปุ่น จีน สู่อินเดีย” นายประพันธ์กล่าว

นายประพันธ์กล่าวต่อไปว่า สำหรับเขตเศรษฐกิจพิเศษจังหวัดกาญจนบุรี บริเวณพุน้ำร้อน มีผู้ประมูลได้รับสิทธิประโยชน์ในการจัดสรรพื้นที่จำนวน 2,900 ไร่นั้น กำลังอยู่ในขั้นตอนการจัดทำด้านโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งถนน ไฟฟ้า โดยในส่วนของศุลกากร ได้สนับสนุนผ่านงบประมาณลงทุนโครงการก่อสร้างด่านศุลกากรบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านพุน้ำร้อน ระยะที่ 1 อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี งบประมาณก่อสร้างรวม 711,888,000 บาท ปัจจุบันมีความคืบหน้าแล้วกว่า 50% คาดว่าจะก่อสร้างเสร็จในเดือนพฤศจิกายน 2562

โดยพื้นที่กรรมสิทธิ์ทั้งหมดในการสร้างด่านนี้ มีบริเวณทั้งหมด 1,307 ไร่ แต่ไม่สามารถใช้ได้ทั้งหมด เนื่องจากเป็นเหว ภูเขาหินปูน ที่ชัน ต้องปรับหน้าดินจำนวนมาก โดยพื้นที่ตั้งอาคารที่จะใช้ทำพิธีการทางศุลกากร มีทั้งหมด 12 ช่องตรวจ งบประมาณ 169 ล้านบาท เป็นช่องเอกซเรย์ 6 ช่อง อาคารตรวจสินค้าและลานตรวจสินค้าอีก 6 ช่องตรวจ โดยในการก่อสร้างนั้น จะแบ่งเป็นอาคารตรวจสอบสินค้า อาคารตรวจสอบผู้โดยสารและตรวจคนเข้าเมือง โดยอยู่ภายใต้หน่วยควบคุมโรคอาหารและยา (Customs Immigration Quarantine : CIQ) ซึ่งเมื่อมีการแยกสินค้ากับคนออกจากกันจะทำให้กระบวนการในการตรวจผ่านแดนรวดเร็วยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังมีอาคารที่ทำการและอาคารที่พักของเจ้าหน้าที่ศุลกากร

 

ไม่พลาดข่าวสารเศรษฐกิจ เจาะลึกทุกประเด็นทั้งภาครัฐ-เอกชน เพิ่มเราเป็นเพื่อนที่ Line ได้เลย พิมพ์ @prachachat หรือ คลิกลิงก์ https://line.me/R/ti/p/@prachachat

หรือจะสแกน QR Code ในรูป เราพร้อมเสิร์ฟข่าวเศรษฐกิจ-ธุรกิจถึงมือผู้อ่านทันที!