“เลอตอโกลด์” ท่าสองยาง ลุย “คั่วขาย” เพิ่มมูลค่า

การทำกาแฟพิเศษนั้นถือได้ว่ากระจายรายได้ในทุกระดับ และเอื้อให้เกษตรกรพัฒนาจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ของตน ดังที่ นายธนกฤต เปลา ประธานวิสาหกิจชุมชน หมู่ 9 บ้านเลอตอโกลด์ ตำบลแม่อุสุ อำเภอท่าสองยาง จังหวัดตาก ผู้ปลูก แปรรูปและจัดจำหน่ายกาแฟอราบิก้าภายใต้แบรนด์ “กาแฟเลอตอโกลด์” เล่าว่า ตนรับซื้อกาแฟกะลาจากเกษตรกร 6-7 คนในพื้นที่จังหวัดตาก รอยต่ออำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อแปรรูปเป็นกาแฟสาร รวมถึงเป็นผลผลิตจากไร่กาแฟของตน จำนวน 50-60 ไร่ ทำให้มีผลผลิตเฉลี่ยปีละ 12 ตัน เป็นรายได้ประมาณ 3.6 ล้านบาท/ปี และสมาชิกเกษตรกรมีรายได้สูงสุด 300,000 บาท/ปี/ราย

การทำตลาดแบ่งขายเป็นกาแฟสารเพื่อให้เลือกไปคั่วต่อประมาณ 90% ของผลผลิตทั้งหมด ส่วนอีก 10% เป็นการคั่วขาย ซึ่งในปีนี้มีแนวทางในการกักตุนกาแฟสารไว้สำหรับกลุ่มลูกค้าที่ต้องการกาแฟคั่วมากขึ้น แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นเท่าใด ขึ้นอยู่กับความพร้อมของกลุ่มและตัวเกษตรกร

“เลอตอโกลด์มักขายกาแฟสารหมดก่อนที่กาแฟฤดูกาลใหม่ในปีถัดไปจะออก ช่วงปีที่ผ่านมาจึงมีการเก็บบางส่วนไว้คั่วขาย เพื่อทำการตลาดให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น เพราะที่ผ่านมาขายกาแฟสารจนหมดไม่เหลือสต๊อกให้ลูกค้ารายใหม่ ได้ลองชิม” นายธนกฤตกล่าว

ทั้งนี้ เลอตอโกลด์เริ่มดำเนินงานมาตั้งแต่ปี 2559 และเปิดตัวส่งประกวดในงาน Thailand Coffee Festival 2016 ได้รางวัลที่ 1 ในการประกวดและประมูลสุดยอดเมล็ดกาแฟไทย ในงานดังกล่าว ทำให้ได้กลุ่มลูกค้าผู้สนใจในกาแฟพิเศษเป็นจำนวนมาก นอกจากงาน Coffee Festival ที่มีเป็นประจำทุกปีแล้ว มีการไปออกบูทของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ที่สวนลุมพินี ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา มีเอกลักษณ์ของแบรนด์ คือ การแปรรูปกาแฟสารให้ดึงประสิทธิภาพออกมาได้มากที่สุดผ่านการแปรรูปในสวน เนื่องจากการแปรรูปกาแฟนั้น ตัวเมล็ดกาแฟจะดูดซับกลิ่นจากรอบตัวเข้ามาด้วย

สำหรับการสนับสนุนจากหน่วยงานต่าง ๆ นั้นยังอยู่ที่ภาคเอกชนเป็นหลัก เช่น อีเวนต์ Thailand Coffee Festival ที่เป็นทั้งการยืนยันคุณภาพ และโฆษณาไปในตัว ส่งผลให้เกิดกลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ ในขณะที่ในส่วนของหน่วยงานภาครัฐนั้นยังไม่มีเข้ามาสนับสนุนชัดเจนนัก