อบต.ทุ่งเบญจาจันทบุรีระดมความร่วมมือรับแล้ง

แฟ้มภาพ

นายสมชาย ลินจง นายกองค์การบริหารส่วนตำบลทุ่งเบญจา อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ปี 2563 คาดว่าจะเกิดปัญหาแล้งมากกว่าปี 2562 ขณะเดียวกันในพื้นที่ต้องใช้น้ำปริมาณเพิ่มขึ้น เนื่องจากพื้นที่ทำการเกษตรประมาณ 80% เป็นพื้นที่ปลูกพืชเศรษฐกิจสำคัญ คือ ทุเรียน เงาะ มังคุด ลองกอง ทำรายได้ปีละประมาณ 1,000 ล้านบาท ทั้งนี้ แหล่งน้ำสำคัญที่ใช้มาจากอ่างเก็บน้ำประแกด เพิ่งได้ใช้เป็นปีที่ 2 หลังก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2561 และลุ่มแม่น้ำวังโตนด

ขณะเดียวกันปลายปี 2562 ได้เตรียมรองรับโดยการขุดลอกสระ คลอง แต่ไม่มีน้ำเพราะยังไม่มีฝน ตอนนี้ปล่อยน้ำจากอ่างเก็บน้ำคลองประแกดมาให้คลองวังโตนดแล้ว 3 ครั้ง และวางแผนบริหารจัดการน้ำ โดยต่อท่อน้ำดิบ (HDPE) ส่งมาให้เกษตรกรแต่ละรายนำไปลงสระ ซึ่งต้องขอเครื่องสูบน้ำจากชลประทาน และสำนักงานป้องกันบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดจันทบุรี ส่วนท่อน้ำดิบองค์การบริหารส่วนจังหวัดจันทบุรีให้การสนับสนุน จากนั้นมีแนวทางแก้ไขร่วมกับกรมชลประทานและกรมทรัพยากรน้ำโดยสำรวจวางท่อ3 เส้นทาง เพื่อให้น้ำจากคลองวังโตนด ซึ่งได้รับน้ำจากอ่างเก็บน้ำคลองประแกดที่ปล่อยมา โดยมีแผนขุดสระสาธารณะให้กระจายทั่วตำบลและทำโครงการสูบน้ำไปใส่สระสาธารณะและสระเกษตรกรให้ครอบคลุมทั้งตำบล คาดว่าอนาคต ปี 2564-2565 อ่างเก็บน้ำคลองพะวาใหญ่และอ่างเก็บน้ำคลองแก่งหางแมวจะก่อสร้างแล้วเสร็จ การแก้ปัญหาภัยแล้งในตำบลทุ่งเบญจาจะยั่งยืน

“ปกติองค์กรปกครองท้องถิ่นส่วนใหญ่ได้รับงบประมาณในการพัฒนาน้อยมาก แม้ว่าข้อบัญญัติจะให้นำเงินสำรองไปช่วยเหลือกรณีฉุกเฉินภัยแล้งได้ แต่ อบต.มีงบประมาณปี 2563 เพียง 23 ล้านบาทเศษ เป็นงบฯกลางรายจ่ายประจำ 63% งบฯลงทุน 37% แต่ถ้าเกิดเหตุฉุกเฉินสามารถใช้งบฯสำรองมาใช้จ่ายช่วยบรรเทาความเดือดร้อนได้ เช่น อาจดึงงบฯค่าน้ำมันเชื้อเพลิงมาใช้ไปก่อน หรือกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นจะมีเงินอุดหนุนทั่วไปใช้ได้ แต่มีจำนวนน้อยเช่นกัน ส่วนงบประมาณประกาศภัยแล้งของจังหวัดอาจจะล่าช้าใช้ได้เมื่อเกิดวิกฤตภัยแล้ง ขณะที่ อบต.ต้องเตรียมจัดหาแหล่งน้ำกระจายให้ทั่วถึงเพียงพอ จึงประสานขอสนับสนุนงบประมาณจากหน่วยงานอื่น ๆ ซึ่งได้รับความร่วมมือด้วยดี คือ ชลประทานจังหวัดจันทบุรี สถานีพัฒนาที่ดินจันทบุรี กรมทรัพยากรน้ำ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดจันทบุรี องค์การบริหารส่วนจังหวัดจันทบุรี รวมทั้งได้รับสนับสนุนงบฯยุทธศาสตร์ของจังหวัดด้วย”