ขอนแก่นยัน “ผีน้อย” 461 คนกักตัวครบ 14 วัน ปลอดเชื้อโควิด-19 แล้ว รอลุ้นผลอีก 2 คน

วันที่ 11 มีนาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ศาลากลาง จ.ขอนแก่น ยังคงกำหนดมาตรการตรวจคัดกรองและเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างเข้มงวด โดยมีการปิดประตูทางเข้าและออก บริเวณศาลากลางจังหวัดขอนแก่นทั้ง 2 จุดและให้รถทุกคันนั้นใช้บริเวณประตูทางเข้าและทางออก บริเวณศาลกลางจังหวัดขอนแก่น หลังใหม่เท่านั้น โดยมีเจ้าหน้าที่อส.ใช้เครื่องเทอร์โมสแกนและเครื่องวัดไข้ ตรวจสอบบุคคลที่เข้ามาในตัวอาคารทุกคน ซึ่งหาพบว่ามีไข้ก็จะถูกส่งตัวเข้ารับการตรวจสอบซ้ำอีกรอบในห้องเฉพาะที่ทางจังวัดและเจ้าหน้าที่สาธารณสุขได้จัดเตรียมเอาไว้


นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า ยังคงยืนยันว่าขอนแก่น เป็นพื้นที่ที่ปลอดภัยจากเชื้อโควิด-19 เต็ม 100% แต่เพื่อความไม่ประมาท คณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อระดับจังหวัดนั้น ได้มีการกำหนดมาตรการสากลและบังคับใช้ระเบียบและข้อบังคับต่างๆ ทุกขั้นตอนอย่างเข้มงวดเพื่อความปลอดภัยสูงสุด ขณะเดียวกันจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ผ่านมานั้น ภาพรวมของขอนแก่นนั้นมีประชาชนที่เดินทางกลับมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยงตั้งแต่เดือนม.ค.จนถึงวันที่ 7 มี.ค.ทั้งหมด 400 คน ซึ่งทุกคนได้เข้ารับการกักกันโรค ตามระเบียบ 14 วันแล้วทั้งหมด ไม่พบอาการ หรือพบเชื้อไวรัสโคโรนา ดังนั้น ยืนยันได้ว่าชุดแรก 400 คนนั้นปลอดภัย และหลังจากประกาศบังคับใช้กฎหมายและตรวจคัดกรองอย่างละเอียด

สำหรับผู้ที่คนเดินทางกลับมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยงทั้งเดินทางไปท่องเที่ยว ทำงานหรือเดินทางผ่าน มีทั้งหมด 63 คน ในจำนวนนี้ 61 คนผลตรวจร่างกายไม่พบเชื้อไวรัสโควิด-19 และเข้ารับการกักกันตัวเองที่บ้านและจุดที่ทางจังหวัดกำหนดไว้อย่างรัดกุมแล้ว เหลือเพียง 2 คนเท่านั้นที่รอผลการตรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง

“ทั้ง 63 คนที่เข้ารับการตรวจเลือดและตรวจหาเชื้อไวรัสโควิท -19 นั้น ทุกคนให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่อย่างดีและเข้าใจในกระบวนการทำงานของเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายในภาพรวม ซึ่งจากการสอบประวัติและเฝ้าสังเกตุอาการวมทั้งเมื่อผลตรวจออกมาแล้วไม่พบ จึงให้กลับไปกักกันตัวเองตามระเบียบที่บ้านพักเพื่อความปลอดภัย ซึ่งทุกคนไม่มีไข้หรืออาการที่บ่งชี้ต่อการติดโรคดังกล่าวแต่อย่างใด” นายสมศักดิ์ กล่าว

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ในช่วงเช้าที่ผ่านมาจังหวัดได้รับการส่งต่อผู้ต้องเข้ารับการควบคุมโรคที่ศูนย์เฝ้าระวังสุขภาพ ที่กองร้อยอาสาสมัครรักษาดินแดนที่ 1 เพิ่มเติมอีก 2 ราย ตามรอบการนำส่งต่อจากกระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงคมนาคม ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการสอบประวัติและตรวจร่างกายอย่างละเอียด อย่างไรก็ตาม ยังคงยืนยันในมาตรการควบคุมโรค ซึ่งหากทางจังหวัดได้รับการประสานงานจากกระทรวงสาธารณสุขว่าขอส่งต่อบุคลที่เดินทางกลับมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง ตามขั้นตอนที่รัฐบาลกำหนด โดยรถขนส่งของกระทรวงคมนาคม โดยทันทีที่เดินทางมาถึงศูนย์เฝ้าระวังสุขภาพที่เราจัดตั้งขึ้นก็จะเข้าสู่ขั้นตอนต่างๆทันที ซึ่งทุกคนจะได้รับการตรวจร่างกายซ้ำอีกรอบและการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิท-19 และหากการซักประวัติพบว่าไม่มีอาการบ่งชี้ หรืออยู่ในสถานการณ์ที่เสี่ยวตามการประเมินก็จะอนุญาตให้ญาติมารับตัวไปกักกันที่บ้านแต่หกพบว่ามีอาการบ่งชี้ก็จะเข้าสู่ขั้นตอนของการควบคุมโรคอย่างเข้มงวดของทางจังหวัดทันที

 

 

 

ที่มา มติชนออนไลน์