ภูเก็ตผงะต่างชาติตกค้าง 3 พันคน เร่งสแกนค้นหาผู้ติดเชื้อ ผู้ว่าฯหนักใจพบปัญหา ปิดบังความจริง

ภูเก็ตระดมกำลังกรมควบคุมโรคค้นหาผู้ป่วยโควิด-19 เป้าหมาย 3พันคน ส่วนนักท่องเที่ยวตกค้าง3พันคนรอบินกลับประเทศ

วันที่ 7 เมษายน 2563 นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า สถานการณ์โรคโควิด-19 ประจำวันที่ 7 เมษายน นี้ มีเสียชีวิต 1 ราย จากอุบัติเหตุแต่มีเชื้อโควิด-19 ในตัวชาวฮังการี ทางจังหวัดภูเก็ตดำเนินการควบคุมป้องกันโรคโควิด -19 ตามแนวทางกระทรวงสาธารณสุข ขอให้เน้นย้ำมาตรการระยะห่างทางสังคม ขอให้ใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา ถ้ามีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ และ ถ่ายเหลว ขอให้ไปพบแพทย์ปฏิบัติตามสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด

ขณะนี้ ทางการแพทย์ได้ดำเนินการเต็มกำลังความสามารถ ทางจังหวัดจะทำการประชุมซักซ้อมกันในการช่วยเหลือทีมสอบสวนโรคเนื่องจากขณะนี้ ปัญหาที่พบ คือ ปิดบังความจริง ดังนั้น จะต้องโฟกัสไปที่กลุ่มที่มีความเสี่ยง จะทำในเชิงรุกดำเนินการตามแนวทางควบคุมโรค

ในส่วนของโรงพยาบาลสนามแห่งที่ 1 ที่หอประชุมศาลากลางแห่งใหม่รับได้ 110 เตียง ปัจจุบันมีผู้ป่วยจำนวนกว่า 20 คน ส่วนโรงพยาบาลสนามแห่งที่ 2 ที่ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์วิทยาเขตภูเก็ต อีก 3-4วันข้างหน้านี้จะเข้าไปปรับปรุงเพื่อเตรียมการรองรับผู้ป่วยที่อาจจะเพิ่มขึ้น “นายภัคพงศ์ กล่าวและว่า

การที่จังหวัดภูเก็ตประกาศมาตรการปิดช่องทางน้ำ ได้ทำการปิดสนิทแล้ว มาตรการปิดช่องทางบก มีมาตรการที่เข้มข้นขึ้น ที่ด่านตรวจท่าฉัตรไชย และการปฏิบัติการในแต่ละพื้นที่ต่างๆในภูเก็ต ได้มีการบูรณาการกำลังตั้งจุดตรวจบริเวณต่างๆตามประกาศของจังหวัดในการล็อกดาวน์พื้นที่ ป่าตอง กะรน ราไวย์ ห้ามเข้าและออกในพื้นที่ดังกล่าว

ด้านมาตรการปิดช่องทางอากาศ นั้น ขณะนี้ ผู้โดยสารที่จะเดินทางมาภูเก็ต ไม่มีแล้ว ประกอบกับ สำนักงานการบินพลเรือนให้งดใช้สนามบินภูเก็ต มีผลในคืนวันที่ 9 เม.ย.นี้ เวลา 00.01น.ต่อเนื่องวันที่ 10 เม.ย.ยกเว้นเครื่องบินทางราชการที่ต้องนำเขื้อผู้ป่วยไปตรวจที่กรุงเทพฯและเลือดที่บริจาค ซึ่งเครื่องบินที่ได้รับการยกเว้นทำการบินเป็นไปตามประกาศของสำนักงานการบินพลเรือน

ส่วนนักท่องเที่ยวตกค้างที่ภูเก็ตตอนนี้มีจำนวน 3,000คน ทางจังหวัดได้ประสานกงสุลแต่ละประเทศแล้ว และในคืนวันนี้จะมีเครื่องบินเปล่ามารับชาวฝรั่งเศสที่ตกค้างบินกลับประเทศฝรั่งเศส

ทางด้าน ดร.นายแพทย์ พิทักษ์พล บุณยมาลิก ผู้ตรวจราชการ กระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 11 กล่าวว่า รับผิดชอบ 7 จังหวัดในภาคใต้ตอนบน รวมทั้งภูเก็ต ซึ่ง ภูเก็ตเป็น พื้นที่ที่มีความยากในการควบคุมโรค มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจำนวนมาก ทำให้การสอบสวนโรค ค่อนข้างยาก รวมทั้งพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวที่มีกิจกรรมอยู่ตลอด ดังนั้นการควบคุมการระบาดโรคในภูเก็ตถือว่ามีความท้าทายอย่างยิ่ง

ดังนั้น เขตสุขภาพที่11ร่วมกับกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขจึงต้องใช้มาตรการในการควบคุมโรคตามที่จังหวัดภูเก็ตดำเนินการในตอนนี้ในการค้นหาผู้ป่วยเชิงรุก การปฏิบัติจะแตกต่างจากพื้นที่อื่นในประเทศไทย การดำเนินการที่ภูเก็ตมีการปิดเมือง ประชาชนนิ่งอยู่กับที่ ทำให้ง่ายขึ้นในการลงค้นหาผู้ป่วยเชิงรุก ค้นหาผู้มีประวัติเสี่ยง ไปเที่ยว และไปทำงานในซอยบางลา ทางผู้เกี่ยวข้องจะทำการค้นหาผู้ติดเชื้อให้ได้เร็วที่สุด โดยระดมสรรพกำลังจากกรมควบคุมโรคลงมาช่วยกัน การระดมการตรวจมีแล็บจากกรุงเทพฯ ลงมาร่วมด้วย ทางสปสช.ช่วยสนับสนุนงบประมาณค่าใช้จ่ายต่างๆในการปฏิบัติงาน

“เป้าหมายการดำเนินการจะทำเป็นเฟสไป ช่วงแรกทำการสแกนสอบสวนเข้มข้นในพื้นที่บางลา ป่าตอง และขยายไปพื้นที่รอบป่าตอง กะทู้ ถลาง ที่เกี่ยวข้อง ในการดำเนินการเริ่มมาตั้งแต่วันที่ 2 เมษายน และในวันที่ 5,6,7 เมษายน นี้ เป้าหมายต้องการสแกนสอบสวนโรคประมาณ 3,000คนตอนนี้ดำเนินการมา ได้จำนวน 2พันคนแล้ว” ดร.นายแพทย์พิทักษ์พล กล่าวและว่า

การตรวจผลแล็บห้องปฏิบัติการ ต้องใช้เวลา 24 ชั่วโมง คนที่พบเชื้อช่วงแรก ประมาณ 3-5% จากการค้นหาผู้ป่วยติดเชื้อ จะทำให้ในช่วงนี้ตัวเลขจำนวนผู้ติดเชื้อในภูเก็ตจะเพิ่มสูงขึ้นสักระยะ จากนั้นตัวเลขผู้ป่วยจะลดลงเรื่อยๆ ผลสัมฤทธิ์ของโครงการรณรงค์ค้นหาผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 จากการใช้มาตรการปิดเมืองร่วมค้นหาเชิงรุกผลจะออกมาประมาณ 1-2 สัปดาห์ ข้างหน้า