หมอใต้หนุน “พืชกระท่อม” ยาสมุนไพรสร้างรายได้

หมอใต้หนุนรัฐบาลออกกฎหมาย “พืชกระท่อม” เป็นยาสมุนไพรรักษาโรคเบาหวาน ความดัน รักษาบรรเทาแทนมอร์ฟีน สร้างรายได้ให้ประเทศอย่างมหาศาล

นพ.เกรียงศักดิ์ หลิวจันทร์พัฒนา ผู้อำนวยการคลินิก นพ.เกรียงศักดิ์-พญ.พิพิธพร อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และอดีตอาจารย์คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (มอ.) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า พืชกระท่อมอยู่ระหว่างขั้นตอนการพิจารณาออกเป็นกฎหมาย

โดยทางรัฐบาล สภาผู้แทนราษฎร คาดว่าขั้นตอนต่าง ๆ จะแล้วเสร็จในปี 2564 จะสามารถนำมาแปรรูปเป็นยาสมุนไพรได้ เนื่องจากมีคุณภาพที่โดดเด่น คือสามารถรักษาโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ใช้แทนมอร์ฟีนได้ และเป็นสมุนไพรชูกำลัง จะสร้างผลประโยชน์มหาศาล

“เฉพาะกลุ่มผู้ป่วยโรคเบาหวาน ความดัน ทั่วโลกที่มีอยู่ประมาณ 500 ล้านคน และในประเทศไทย มีประมาณ 5 ล้านคน พืชกระท่อมแปรรูปเป็นยาสมุนไพร เพียงมีส่วนแบ่งตลาดประมาณ 5 เปอร์เซ็นต์ ก็สามารถทำเงินได้มหาศาล/ปี

ทั้งนี้ พืชกระท่อมมีผลงานการวิจัยจากต่างประเทศมาตลอด แต่ประเทศไทยไม่สามารถดำเนินการวิจัยทางการแพทย์ได้ เพราะที่ผ่านมาพืชกระท่อมถูกล็อกให้เป็นสิ่งผิดกฎหมาย แต่ทั่วโลกไม่ใช่เป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย แม้กระทั่งองค์การสหประชาชาติ ฯลฯ”

ปัจจุบันพืชกระท่อมในประเทศเพื่อนบ้าน มาเลเซีย อินโดนีเซีย ถือเป็นพืชถูกต้องตามกฎหมาย ราคาประมาณ 200 บาท/กก. และส่งออกราคาขายประมาณ 400-700 บาท/กก.

ทั้งนี้ พืชกระท่อมจะมีปลูกในกลุ่มประเทศอาเซียนคือ ไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ เป็นหลัก โดยพืชกระท่อมมีหลายสายพันธุ์ แต่ที่มีคุณภาพสูงสุดคือของประเทศไทย สายพันธุ์ก้านแดง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัจจุบันพืชกระท่อมถูกโค่นทิ้งไปเป็นจำนวนมากในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ เช่น จ.พัทลุง สงขลา สตูล ฯลฯ จากเดิมส่วนใหญ่จะมีการปลูกแซมไว้บริเวณบ้าน 1-2 ต้น

เพื่อไว้ขบเคี้ยวบริโภคเป็นยาสมุนไพร และเป็นสมุนไพรชูกำลัง ปัจจุบันกลายเป็นพืชหายาก และมีราคาที่สูงขึ้น

ผู้บริโภคกระท่อมรายหนึ่ง เปิดเผยว่า ใบกระท่อมขณะนี้ราคาขายปลีก ประมาณ 1,000 บาท/กก. สำหรับในบางพื้นที่ของจังหวัดภาคใต้ ซึ่งเดิมไม่ต้องหาซื้อ แต่สำหรับแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย

ฝั่งประเทศมาเลเซีย กระท่อมมีการปลูกจำนวนมาก และมีการแปรรูปเป็นน้ำแพ็กถุง หรือบรรจุขวด และจะวางจำหน่ายตามร้านค้า

ที่ผ่านมาคณะกรรมาธิการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ ได้พิจารณาตัดพืชกระท่อมออกจากบัญชียาเสพติด และจะมีการออกกฎหมายเฉพาะเป็น พ.ร.บ.พืชกระท่อม ออกมารองรับ และคาดว่าเร็ว ๆ นี้น่าจะแล้วเสร็จ