อุทยานวิทย์ฯเหนือเปิดตัว Basecamp 24 คาดปี70 สตาร์ทอัพโต 1.8 หมื่นล้าน

อุทยานวิทย์ฯภาคเหนือเปิดตัว “Basecamp24” คาดปี 70 มูลค่าธุรกิจสตาร์ทอัพโต 1.8 หมื่นล้านเกิดการจ้างงาน กระจายรายได้สู่ทัองถิ่น

วันที่ 31 มีนาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อุทยานวิทยาศาสตร์ภาคเหนือ (จ.เชียงใหม่) จัดพิธีเปิดตัวสตาร์ทอัพแพลตฟอร์ม “Basecamp24” ณ NSP Rice Grain Auditorium อาคารอำนวยการอุทยานวิทยาศาสตร์ภาคเหนือ (จ.เชียงใหม่)

แสดงความพร้อมในการเป็นแหล่งบ่มเพาะสตาร์ทอัพสมบูรณ์แบบที่สุดในภาคเหนือ โดยมีอุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (STeP) เป็นหัวหอกสำคัญในการขับเคลื่อนในฐานะมหาวิทยาลัยแม่ข่ายดำเนินงานอุทยานวิทยาศาสตร์ภาคเหนือ

ศ.คลินิก นพ.นิเวศน์ นันทจิต อธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เปิดเผยว่า มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ในฐานะแม่ข่ายดำเนินงานอุทยานวิทยาศาสตร์ภาคเหนือได้รับการสนับสนุนจากกองส่งเสริมและประสานเพื่อประโยชน์ทางวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (กปว.) โดยกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ในการส่งเสริมการนำทรัพยากรและองค์ความรู้ที่มีอยู่ในมหาวิทยาลัยออกมาต่อยอดสู่เชิงพาณิชย์

โดยมหาวิทยาลัยมียุทธศาสตร์การบริหารมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ในระยะ 4 ปี (พ.ศ. 2562 – 2565) ซึ่ง Basecamp24 จะสามารถตอบโจทย์ยุทธศาสตร์ที่ 5 ของมหาวิทยาลัย ในการเป็นยุทธศาสตร์ที่นำทรัพยากรที่มีอยู่ของมหาวิทยาลัย ไม่ว่าจะเป็น บุคลากร นักศึกษา รวมถึงงานวิจัย มาบูรณาการร่วมกันโดยประยุกต์สร้างนวัตกรรมสู่การใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์และสังคม

ทั้งนี้ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่พร้อมผลักดันให้นักศึกษาของมหาวิทยาลัยได้เรียนรู้การเริ่มต้นเป็นผู้ประกอบการ รวมถึงการทำธุรกิจ Startup ให้ประสบผลสำเร็จ ตลอดจนจะร่วมกันแก้ปัญหาและพัฒนาทั้งในเชิงเศรษฐกิจและสังคมของภาคเหนือได้อย่างยั่งยืน

ผศ.ดร.ธัญญานุภาพ อานันทนะ ผู้อำนวยการอุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (STeP) กล่าวว่า Basecamp24 คือการสร้างผู้ประกอบการที่มีศักยภาพและพร้อมผลักดันผู้ประกอบการให้เติบโตอย่างยั่งยืน โดยมีอุทยานฯ คอยเป็นพี่เลี้ยงนำทางในทุกเส้นทางการเติบโตแบบ 24 ชั่วโมง เพื่อไปสู่เป้าหมายสูงสุดอย่างรวดเร็ว ด้วยกระบวนการบ่มเพาะ พัฒนาศักยภาพ

ซึ่งนับเป็นการจุดประกายไอเดียต่าง ๆ ให้เหล่านักธุรกิจกระทั่งได้ลงมือทำจริง ผ่านการอบรมสร้างองค์ความรู้ ให้คำปรึกษาโดยผู้เชี่ยวชาญ การจับคู่กับแหล่งทุน สร้างเครือข่ายธุรกิจ นอกจากนี้ ยังแวดล้อมด้วยระบบนิเวศที่เอื้อต่อการสร้างสตาร์ทอัพอย่างพื้นที่ทำงาน (Startup Space) อย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่สร้างสรรค์ไอเดีย (The Brick Series) พื้นที่สร้างสรรค์ตัวอย่าง การขึ้นรูปชิ้นงาน (The Brick FABLAB) พื้นที่สำนักงาน (Office Space) ซึ่งรองรับสตาร์ทอัพในทุกระดับการเติบโต ฯลฯ

โดยจัดแบ่ง Basecamp ดังนี้ Ground camp: Wonderer จะเน้นเรื่องการสร้างแรงจูงใจและสร้างความตระหนักในการเป็นผู้ประกอบการ โดย Camp 1: Bootstrapper เน้นให้องค์ความรู้เพื่อสร้างความเป็นผู้ประกอบการ (Entrepreneurship) Camp 2: Explorer เน้นกระบวนการลงมือทำเพื่อเรียนรู้การทำธุรกิจตามวิถีของ Startup เพื่อนำข้อมูลที่ได้มาวิจัยและพัฒนาสินค้าหรือบริการให้สามารถขายได้จริง Camp 3: Challenger เน้นเรื่องการขยายตลาด (Scale up) หลังจากพิสูจน์แล้วใน Camp 2

โดยจะเน้นกระบวนการวางแผนธุรกิจ กลยุทธ์ เพื่อให้พร้อมก่อนที่จะเข้าสู่ Camp 4: Survivor ซึ่งจะเน้นในเรื่องของการลงทุน ไม่ว่าจะเป็นการหานักลงทุน การเจรจาร่วมลงทุน (Partner) กับบริษัทหรือองค์กรต่างๆ ที่จะสามารถสนับสนุนธุรกิจให้เติบโตได้อย่างก้าวกระโดดและเป็นธุรกิจที่ยั่งยืนต่อไป

ผศ.ดร.ธัญญานุภาพ กล่าวอีกว่า STeP ตั้งเป้าเป็นหน่วยบ่มเพาะแนวหน้ามีศักยภาพในการสร้างผู้ประกอบการ Startup ผ่านกระบวนการ กลไกการเชื่อมโยงโอกาสต่างๆ ไปพร้อมกับการสร้างระบบนิเวศ (Startup Ecosystem) ที่เอื้อให้ผู้ประกอบการ Startup ในพื้นที่ภาคเหนือที่อยู่ในระบบการฟูมฟักของอุทยานฯ ได้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างมีศักยภาพและยั่งยืน โดยนำองค์ความรู้จากรั้วมหาวิทยาลัยสู่การสร้างผู้ประกอบการที่สามารถสร้างมูลค่าทางธุรกิจให้เติบโตอย่างก้าวกระโดด

โดยคาดว่าภายในปี 2570 จะสามารถสร้างมูลค่าธุรกิจของผู้ประกอบการ Startup ได้ถึง 18,000 ล้านบาท พร้อมสร้างผลกระทบทางเศรษฐกิจ เกิดการจ้างงานในท้องถิ่น กระจายรายได้สู่พื้นที่ภาคเหนือรวมถึง 26,640 ล้านบาท