TKN โชว์ผลงานงวด 9 เดือนแรกโตแกร่ง กวาดรายได้ 3.9 พันล้านบาท

เถ้าแก่น้อย
นายอิทธิพัทธ์ พีระเดชาพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน)

เถ้าแก่น้อย (TKN) โชว์ผลงานงวด 9 เดือนแรกปี 2566 โตแกร่ง กวาดรายได้จากการขาย 3,983.8 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 575.8 ล้านบาท พร้อมประกาศเดินหน้ารุกหนักขยายช่องทางตลาดต่างประเทศ

วันที่ 10 พฤศจิกายน 2566 นายอิทธิพัทธ์ พีระเดชาพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ TKN ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสาหร่ายทะเลแปรรูปทั้งในและต่างประเทศภายใต้ตราสินค้า “เถ้าแก่น้อย” เปิดเผยถึงภาพรวมผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/2566 (กรกฎาคม-กันยายน) ว่าบริษัทมีรายได้จากการขาย 1,436.0 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.8% และมีกำไรสุทธิ 214.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

ซึ่งมีปัจจัยมาจากการขายผลิตภัณฑ์ให้มีความหลากหลาย (Product Mix) ด้วยการเพิ่มยอดขายสาหร่ายแบบอบมากขึ้น ทำให้มีมาร์จิ้นสูงขึ้น ซึ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างมากทั้งตลาดในและต่างประเทศ รวมทั้งเพิ่มช่องทางจำหน่ายในตลาดต่างประเทศ

โดยเฉพาะตลาดสหรัฐอเมริกา อินโดนีเซีย และมาเลเซีย พร้อมวางแผนขยายตลาดไปในประเทศแถบยุโรปเพิ่มเติม ซึ่งจะใช้โมเดลธุรกิจคล้ายกับในสหรัฐเพื่อขยายตลาด

เถ้าแก่น้อย

ขณะที่ผลการดำเนินงานในงวด 9 เดือนแรกของปี 2566 (มกราคม-กันยายน) มีรายได้จากการขาย 3,983.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้จากการขาย 3,135.1 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 575.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 83.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 313.6 ล้านบาท และสามารถรักษาระดับการทำอัตรากำไรสุทธิที่ 15% ใกล้เคียงกับที่ผ่านมา

โดยบริษัทยึดมั่นการดำเนินกลยุทธ์ 3 Go (Go Firm-Go Brand-Go Global) ส่งผลให้การดำเนินงานเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลยุทธ์ Go Firm ในการ Lean องค์กรให้มีความคล่องตัว พร้อมรับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ เช่น ต้นทุนราคาสาหร่ายที่ปรับเพิ่มขึ้นมา โดยบริษัทยังให้ความสำคัญกับการเพิ่มขีดความสามารถในการทำกำไร และรักษาอัตราการทำกำไรให้ดีขึ้น

ทั้งนี้ สัดส่วนรายได้จากตลาดในประเทศคิดเป็น 35% และต่างประเทศ 65% ซึ่งทุกกลุ่มประเทศที่ส่งออกสินค้ามีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะประเทศจีนมียอดคำสั่งซื้อฟื้นตัวต่อเนื่อง เฉลี่ย 150 ตู้คอนเทนเนอร์ต่อเดือน

เถ้าแก่น้อย

ขณะที่ตลาดในอินโดนีเซีย คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ หลังมีดิสทริบิวเตอร์รายใหม่เข้ามาช่วยขยายช่องทางจำหน่ายหลากหลายกลุ่ม ทั้งร้านค้าแบบดั้งเดิม หรือ Traditional Trade (TT) รวมถึงร้านค้าท้องถิ่น Local Modern Trade (MT)

นอกจากนี้ ด้านบริษัทในเครือที่ประเทศสหรัฐอเมริกา สามารถปรับปรุงผลประกอบการกลับมาเกินกว่าจุดคุ้มทุน (Break Even) ได้แล้ว หลังจาก 2-3 ปีที่ผ่านมามีผลงานขาดทุน