ตลาดเครื่องดื่มชูกำลังเป็นหนึ่งในเป้าหมายของ โคคา-โคลา โดยยักษ์น้ำดำรายนี้พยายามรุกเข้าสู่ตลาดด้วยวิธีการต่างๆ หนึ่งในนั้นคือการทุ่มเม็ดเงิน 2.15 พันล้านเหรียญสหรัฐซื้อหุ้น 16.7% ใน “มอนสเตอร์ เบฟเวอร์เรจ” (Monster Beverage Corp.) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มสัญชาติสหรัฐ และเจ้าของเครื่องดื่มชูกำลังแบรนด์ “มอนสเตอร์” เมื่อปี 2558
เพื่อก้าวสู่ตำแหน่ง “บริษัทเครื่องดื่มครบวงจร” ตามวิสัยทัศน์ของ “เจมส์ ควินซีย์” ซีอีโอ บริษัท โคคา-โคลา
- ร้านธงฟ้า 1.4 แสนแห่ง พร้อมรับดิจิทัลวอลเลต เช็กจังหวัดไหนร้านธงฟ้ามาก-น้อยสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
แต่ในการถือหุ้นในครั้งนั้นมาพร้อมกับข้อตกลงที่ห้ามโคคา-โคล่าจัดจำหน่ายเครื่องดื่มชูกำลังยี่ห้ออื่นๆ ยกเว้นแบรนด์ “โค้ก” (Coke)
ในเวลาต่อมา โค้กก็ทำเครื่องดื่มชูกำลังของตัวเองออกมาจริงๆ ภายใต้ชื่อแบรนด์ “โคคา-โคลา เอเนอยี่” (Coca-Cola Energy) เปิดตัวไปเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา และวางขายแล้วในสเปน และฮังการี่
ส่งผลให้ทางมอนสเตอร์ฯ ออกมาคัดการการออกสินค้าตัวใหม่นี้ ด้วยเหตุผลว่าทางโค้กได้ละเมิดสัญญาที่ทำไว้ในปี 2558 นำไปสู่การพิพาทกันในชั้นศาล จนต้องส่งเรื่องดังกล่าวให้อนุญาโตตุลาการของสหรัฐพิจารณา
ล่าสุดสำนักข่าว รอยเตอร์ รายงานว่า อนุญาโตตุลาการมีมติให้การผลิตและวางขายเครื่องดื่มชูกำลัง “โคคา-โคลา เอเนอยี่” เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมานั้น ไม่เป็นการละเมิดข้อตกลงที่ทั้งคู่ได้ตกลงกันเอาไว้ อีกทั้งโคคา-โคลา ยังมีสิทธิ์ในการวางขายในตลาดต่างๆ ทั่วโลกได้อีกด้วย เท่ากับเป็นการปลดล็อกให้ยักษ์น้ำดำสามารถลุยตลาดเครื่องดื่มชูกำลังได้อย่างเต็มที่
สำหรับเรื่องความสัมพันธ์ของทั้ง 2 แบรนด์นั้น ด้านโคคา-โคลา ระบุ จะยังคงเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับมอนสเตอร์ซึ่งปัจจุบันบริษัทถือหุ้น 19% ต่อไป