ซีพีจัดทัพ 7-11 บุก CLMV ยักษ์ค้าปลีกเปลี่ยนสนามรบ

“ซีพี ออลล์” จัดทัพเดินหน้าบุกรอบทิศ ลุ้นบริษัทแม่ “เซเว่นอีเลฟเว่น อิงก์” ไฟเขียวให้ไลเซนส์สยายปีกเปิดสาขา “ลาว-กัมพูชา” หลังพบกำลังซื้อขยายตัวมหาศาล ด้านกลุ่มทุนยักษ์ค้าปลีก “แม็คโคร-บิ๊กซี-เซ็นทรัล” เปลี่ยนสนามรบเดินหน้าลงทุน-ร่วมทุนรับตลาด CLMV โตไม่หยุด

การสปีดสาขา 10,200 แห่ง ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศในปัจจุบันของ”เซเว่นอีเลฟเว่น” เจ้าตลาดร้านสะดวกซื้อ และเป้าหมาย 13,000 สาขา ในอีก 3 ปีจากนี้ นอกจากจะทำให้จำนวนสาขาทิ้งห่างคู่แข่งหลายเท่าตัวแล้ว อีกด้านหนึ่งก็จะยึดตลาดคอนวีเนี่ยนสโตร์ไว้ได้อย่างเบ็ดเสร็จ ล่าสุด “ซีพี ออลล์” มีความเคลื่อนไหวในการขยายธุรกิจร้านสะดวกซื้อออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ด้วยการยื่นขอไลเซนส์จากบริษัทแม่ เพื่อเข้าไปปักธงร้านเซเว่นอีเลฟเว่นในลาวและกัมพูชา ที่ตลาดร้านสะดวกซื้อยังเปิดกว้างและมีแนวโน้นที่สดใส

ซีพี ออลล์ ลุ้นเปิดสาขา

แหล่งข่าวระดับสูงจากบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้ได้รับสิทธิร้านสะดวกซื้อ “เซเว่นอีเลฟเว่น” ในไทย กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ตลาดค้าปลีกกลุ่มประเทศซีแอลเอ็มวี ทั้งลาว เวียดนาม กัมพูชา และเมียนมา มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องและมีโอกาสเติบโตอีกมาก ล่าสุดบริษัทอยู่ระหว่างขอสิทธิ์บริหารร้านเซเว่นอีเลฟเว่นในกัมพูชาและลาว โดยจะนำร่องใน2 ประเทศนี้ก่อน ซึ่งอยู่ระหว่างการเจรจา ปัจจุบันในลาว เมียนมา กัมพูชา ยังไม่มีร้านสะดวกซื้อในเชนต่างประเทศเข้าไปมากนัก แต่การเติบโตของตลาดขยายตัวสูงมาก

“ที่ผ่านมาบริษัทแม่ คือ เซเว่นอีเลฟเว่น อิงก์ สหรัฐอเมริกา หยุดให้สิทธิ์การขยายตลาดต่างประเทศมาสักระยะ แต่ล่าสุดได้เปิดให้สิทธิ์ในประเทศกัมพูชา ลาว แล้ว ซึ่งซีพี ออลล์ มีความสนใจ และเราหวังว่ามีความเป็นไปได้ จากผลงานและการเติบโตที่เราทำให้เห็นในตลาดเมืองไทย ส่วนข้อสรุปต้องรอบริษัทแม่ประกาศออกมา”

นำร่องส่งออนไลน์ชิมลาง

แหล่งข่าวจากบริษัทซีพี ออลล์รายนี้ยังฉายภาพต่อว่า อย่างไรก็ตาม ระหว่างที่รอให้บริษัทแม่พิจารณาเรื่องไลเซนส์การขยายสาขาในลาวและกัมพูชา ที่ผ่านมาบริษัทได้เริ่มทดลองตลาดด้วยการขายสินค้าออนไลน์ร่วมกับพาร์ตเนอร์ท้องถิ่นผ่านช่องทาง “ช็อปแอตทเวนตี้โฟร์” (Shop at 24) เข้าในลาว ซึ่งพบว่ามีการตอบรับที่ดี คนลาวเริ่มซื้อสินค้าผ่านระบบออนไลน์เพิ่มขึ้น ซึ่งสินค้ากลุ่มหลัก ๆ ที่ได้รับความนิยมก็มีความคล้ายกับคนไทย โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าเสื้อผ้าและเครื่องสำอาง

อย่างไรก็ตาม การทดลองขายสินค้าผ่านออนไลน์เข้าไปในลาว เบื้องต้นยังต้องจัดส่งสินค้าจากไทยเข้าไปที่ลาว ซึ่งบริษัทใช้ศักยภาพของซีพีเอฟในลาวสำหรับเป็นคลังกระจายและรับส่งสินค้าให้กับผู้บริโภคลาว

ขณะที่นายปิยะวัฒน์ ฐิตะสัทธาวรกุล รองประธานกรรมการบริหาร บริษัทซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในช่วง 3 ปีจากนี้ไป 2560-2563 ตลาดค้าปลีกจะสามารถขยายตัวได้มากกว่า 4-6% ขณะที่ช่องทางออนไลน์และอีคอมเมิร์ซจะโตมากกว่า 30-40% ซึ่งทิศทางของธุรกิจร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่นจะเน้นสร้างการเติบโตทั้ง 2 ช่องทางไปพร้อม ๆ กัน โดยเป้าหมายการเปิดสาขาใหม่ในปี 2564 จะครอบคลุม 13,000 สาขา จากปัจจุบันเปิดแล้ว 10,200 สาขา

“ปัจจุบัน ตลาดค้าปลีกมีการแข่งขันค่อนข้างสูง นอกจากผู้ประกอบการรายเดิมแล้วก็ยังมีรายใหม่ที่กระโดดเข้ามาในตลาดอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน การค้าขายในช่องทางออนไลน์และอีคอมเมิร์ซก็มีการขยายตัวสูงมาก และคาดการณ์ว่าปีนี้ตลาดค้าปลีกจะเติบโตได้ 2.8-3% แม้จะไม่มากนัก เมื่อเทียบกับช่องทางออนไลน์ที่เติบโตกว่า 20% แต่ช่องทางค้าปลีกร้านสะดวกซื้อยังมีการขยายตัวมากที่สุด” นายปิยะวัฒน์ระบุ

ยักษ์ค้าปลีกแห่บุก CLMV

ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” รายงานว่า ช่วงกลางเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา นางสุชาดา อิทธิจารุกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) ได้วางศิลาฤกษ์สำหรับเริ่มก่อสร้างแม็คโครสาขาแรกในกัมพูชา สอดคล้องกับก่อนหน้านี้แม็คโครได้เพิ่มทุนจดทะเบียนจำนวน 1,620,000,000 บาท ในบริษัท แม็คโครอาร์โอเอช จำกัด (MROH) เพื่อลงทุนในตลาดต่างประเทศ รวมถึงการตั้งบริษัทย่อยแห่งใหม่ในประเทศกัมพูชา MAKRO (CAMBODIA) COMPANY LIMITED ด้วยโครงสร้างการถือหุ้นบริษัท แม็คโครอาร์โอเอช จำกัด 70% และนักลงทุนท้องถิ่นชาวกัมพูชา 30% เพื่อดำเนินธุรกิจค้าปลีกค้าส่งและกิจการที่เกี่ยวเนื่องด้วยทุนจดทะเบียน 70 ล้านบาท

ด้าน “กลุ่มเซ็นทรัล” นายทศ จิราธิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด กล่าวว่า แผนการลงทุนในอาเซียนช่วง 5 ปีจากนี้ เวียดนามจะเป็นการลงทุนหลักด้วยเม็ดเงินลงทุน 500 ล้านเหรียญ อาทิ ไฮเปอร์มาร์เก็ตบิ๊กซี ที่เซ็นทรัลได้เข้าไปซื้อกิจการ รวมถึง “หลานชิ” ร้านสะดวกซื้อและซูเปอร์มาร์เก็ตที่เข้าไปร่วมทุนกับพาร์ตเนอร์เวียดนาม จะเป็นหัวหอกหลักสำหรับการขยายธุรกิจของกลุ่มเซ็นทรัลในเวียดนาม

บิ๊กซี ปักธงในกัมพูชา ปี”61

นายอัศวิน เตชะเจริญวิกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บิ๊กซีมีเป้าหมายจะขยายธุรกิจกลุ่มประเทศซีแอลเอ็มวีมากขึ้น โดยมีแผนขยายธุรกิจเข้าไปเปิดสาขาในกัมพูชาในปี 2561 นี้ จะเป็นการต่อยอดธุรกิจค้าปลีกของกลุ่มบีเจซีในภูมิภาค จากที่ผ่านมาบริษัทได้เปิดร้านสะดวกซื้อ “เอ็มพอยต์มาร์ต” ในลาว ซึ่งในอนาคตมีแผนจะเปลี่ยนเป็น “มินิ บิ๊กซี” นอกจากนี้ยังมีร้านสะดวกซื้อ “บีสมาร์ต” ในเวียดนามมาแล้ว รวมถึงบริหารร้านไฮเปอร์มาร์เก็ตค้าส่งภายใต้ชื่อ เอ็มเอ็ม เมก้า มาร์เก็ต ในเวียดนาม

นายอัศวินยังระบุด้วยว่า บิ๊กซีจะให้ความสำคัญกับการลงทุนเรื่อง “บิ๊กดาต้า” มากขึ้น เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันให้กับบิ๊กซีและคู่ค้า ผ่านการเก็บข้อมูลจากสมาชิก “บิ๊กการ์ด” ที่ช่วยให้ลงลึกพฤติกรรมการซื้อของผู้บริโภคได้อย่างละเอียด และมีแผนขยายฐานบิ๊กดาต้าไปในประเทศอื่น อย่างเวียดนามและหรือประเทศอื่น ในซีแอลเอ็มวี

“ถ้าเราสามารถเข้าใจพฤติกรรมการซื้อของคน 200 ล้านคนได้ถือว่ามหาศาล เพราะข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้เราเลือกสินค้ามาขายได้ตรงกับความต้องการของลูกค้าในแต่ละพื้นที่ tailor made แคมเปญดึงคนให้กลับมาซื้อซ้ำ ขณะที่ซัพพลายเออร์ที่เป็นคู่ค้ากับเราก็จะมีข้อมูลสำหรับวางแผนการขายได้ดียิ่งขึ้น” นายอัศวินกล่าว