เวนดิ้งพลัสกร้าวลั่นขึ้นเบอร์1 เพิ่มตู้/งัดระบบบัตรแตะหนุน

“เติมสบาย” เพิ่มสปีดขยายเวนดิ้งแมชีนรอบทิศ ลั่นปีหน้าขอขึ้นแท่นเบอร์ 1 เดินปั้นระบบชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ “สบายมันนี่” ใช้ได้หลายรูปแบบ ทั้งแอปพลิเคชั่นบนมือถือและบัตรสมาร์ทการ์ด หวังอำนวยความสะดวกลูกค้า เตรียมผนึกกำลังแพลตฟอร์มดีลิเวอรี่ หนุนร้านอาหารรับออร์เดอร์ได้จากทุกแพลตฟอร์ม เพิ่มโอกาสขาย

นายชูเกียรติ รุจนพรพจี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและบริหารตู้ขายสินค้าอัตโนมัติแบรนด์เวนดิ้งพลัส และ 6.11 รวมถึงระบบฟู้ดคอร์ต เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ปี 2563 นี้ตลาดตู้เวนดิ้งแมชีนหรือตู้ขายสินค้าอัตโนมัติยังมีแนวโน้มเติบโต 10-15% เป็นประมาณ 30,000 ตู้ สูงกว่าที่ผ่าน ๆ มา

โดยแบรนด์สินค้าให้ความสนใจนำสินค้ามาวางขายในตู้มากขึ้น เนื่องจากเป็นช่องทางค้าปลีกและโฆษณาแทนหน้าร้านในห้างสรรพสินค้า ในช่วงที่สภาพเศรษฐกิจทำให้หลายรายไม่สามารถแบกรับค่าใช้จ่ายอย่างค่าเช่า ค่าตกแต่ง และค่าพนักงานได้

จากแนวโน้มการเติบโตนี้บริษัทจึงวางแผนเพิ่มสัดส่วนรายได้จากธุรกิจเวนดิ้งแมชีนให้สูงขึ้น จากปัจจุบันที่มีสัดส่วนประมาณ 37-40% โดยอาศัยความสะดวกในการชำระเงินซึ่งเป็นปัจจัยที่ทวีความสำคัญขึ้นมาก เนื่องจากปัจจุบันผู้บริโภคจำนวนมาก เริ่มคุ้นเคยกับเทรนด์สังคมไร้เงินสดที่แพร่หลายตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา รวมถึงทำเลที่ตั้งตู้ที่ดี และการมีสินค้าหลากหลายในราคาจับต้องง่าย มาเป็นเครื่องมือชิงความได้เปรียบในธุรกิจเวนดิ้งแมชีน

นายชูเกียรติกล่าวต่อไปว่า ล่าสุด บริษัทเตรียมจะนำระบบชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ “สบายมันนี่” (SABUY Money) ซึ่งครอบคลุมการชำระเงินหลายรูปแบบ ทั้งแอปพลิเคชั่นบนมือถือ และบัตรสมาร์ทการ์ดคล้ายบัตรรถไฟฟ้า รวมไปถึงบัตรเครดิต, QR Prompt Pay, In-app Promotion และ loyalty program และ

นอกจากจะสามารถใช้ชำระค่าสินค้าที่ตู้เวนดิ้งแล้ว ยังสามารถใช้กับตู้เติมเงินมือถือ และใช้ในศูนย์อาหารที่ใช้ระบบของบริษัทรวมถึงร้านค้าพันธมิตร อาทิ ร้านโชห่วย โดยมีกำหนดเริ่มใช้บัตรแตะในปี 2564

“การรองรับบัตรแตะช่วยสร้างความได้เปรียบ เช่น ทำเป็นบัตรพนักงานโรงงาน-บริษัท เพิ่มโอกาสการรุกเข้าชิงพื้นที่ทำเลโรงงานซึ่งเป็นเป้าหมายที่วางไว้หลังช่วงโควิด-19”

นายชูเกียรติกล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ยังจับมือแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ ช้อปปี้ นำสินค้าในตู้เข้าไปวางขายบนออนไลน์ โดยลูกค้าจะได้โควตสำหรับมาใส่ที่ตู้เมื่อรับสินค้า เพิ่มโอกาสขายสินค้าในตู้ ขณะเดียวกันเดินหน้าเพิ่มจำนวน-ศักยภาพของพนักงานเติมสินค้า เพื่อรองรับการขยายจำนวนตู้

โดยนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยด้านบริหารจัดการให้พนักงานแต่ละคนสามารถรองรับตู้ได้เพิ่มอีก 20-30% ซึ่งจะทำให้พนักงานมีรายได้เพิ่มมากขึ้น รวมทั้งช่วยกระตุ้นการทำงานของพนักงานปัจจุบันและดึงดูดพนักงานใหม่ได้ง่ายขึ้น

เพื่อสร้างความได้เปรียบในเชิงธุรกิจ บริษัทมีแผนขยายตู้เพิ่มต่อเนื่องในหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการนำตู้มือหนึ่งซึ่งมีจุดเด่นด้านประหยัดไฟรุกเข้าทำเลโรงงาน ตอบโจทย์การลดค่าใช้จ่ายของโรงงานต่าง ๆ หรือจับมือแบรนด์สินค้าทำตู้เอาต์เลตเพื่อเร่งระบายสต๊อกสินค้า ไปจนถึงการนำสินค้าใหม่ ๆ มาวางจำหน่าย

หลังจากก่อนหน้านี้จับมือกับแกรมมี่นำซีดีและทัมบ์ไดรฟ์ MP3 มาวางขายในตู้ โดยบริษัทตั้งเป้าจะขึ้นเป็นเบอร์ 1 ในธุรกิจตู้เวนดิ้งแมชีนในปี 2564 ซึ่งปัจจุบันตู้เวนดิ้งแมชีนเป็นช่องทางค้าปลีกที่สำคัญช่องทางหนึ่งที่ไม่ต่างจากห้างสรรพสินค้า

นายชูเกียรติกล่าวว่า ส่วนด้านธุรกิจระบบศูนย์อาหารนั้น บริษัทเตรียมจับมือกับแพลตฟอร์มดีลิเวอรี่ค่ายต่าง ๆ รวมถึงโรบินฮู้ดของกลุ่มเอสซีบี เพื่อให้ร้านอาหารในศูนย์สามารถรับออร์เดอร์ได้จากทุกแพลตฟอร์ม ตอบโจทย์ที่ปัจจุบันแต่ละร้านต้องติดต่อแพลตฟอร์มเอง

ส่วนธุรกิจตู้เต็มเงินมือถือที่มีอยู่ 5.3-5.4 หมื่นตู้นั้น จะเพิ่มฟังก์ชั่นใหม่ ๆ เช่น การเติมเงินในบัตรแตะของสบายมันนี่ และอื่น ๆ ในช่วงต้นปี 2564 เพื่อเพิ่มโอกาสการใช้งาน หลังปัจจุบันการใช้งานเติมเงินมือถือลดลง

“เชื่อว่าด้วยกลยุทธ์ใหม่เหล่านี้ ร่วมกับการรัดเข็มขัดค่าใช้จ่ายด้านต่าง ๆ ยกเว้นการลดพนักงาน จะช่วยให้รายได้ปีนี้เติบโตมากกว่าปี 2562” นายชูเกียรติกล่าว