การตลาด

แอมเวย์ ดึง “โซเชียลคอมเมิร์ซ” ขยายฐานลูกค้า

กิจธวัช ฤทธีราวี
กิจธวัช ฤทธีราวี

แอมเวย์ประเทศไทย กางแผนยุทธศาสตร์ 10 ปี ปรับโฉมธุรกิจสู่โมเดลโซเชียลคอมเมิร์ซ เชื่อมออนไลน์-ออฟไลน์ หวังขยายฐานผู้ใช้สินค้าใหม่ พร้อมเผยปี 2563 ปิดยอดขายที่ 20,800 ล้านบาท เติบโต 3%

นายกิจธวัช ฤทธีราวี กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอมเวย์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยถึง ทิศทางการดำเนินงานในปี 2564 แอมเวย์ชู 2 กลยุทธ์สำคัญที่จะเป็นแรงผลักดันสร้างความเชื่อมั่นของคุณภาพสินค้าและเครื่องมือสนับสนุนนักธุรกิจ ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์นวัตกรรมแห่งอนาคต เน้นการดูแลสุขภาพในรูปแบบที่ทันสมัย เข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่แตกต่าง ในราคาที่จับต้องได้

ควบคู่กับการพัฒนาดิจิทัลแพลตฟอร์มใหม่ ที่สร้างประสบการณ์ช้อปปิ้งออนไลน์ ด้วยการเปิดตัวแอปพลิเคชัน Amway Click เพิ่มทางเลือกการดำเนินธุรกิจรูปแบบใหม่ให้กับนักธุรกิจแอมเวย์ เพียงคลิกแชร์ลิงก์แนะนำสินค้าที่ต้องการผ่านไปยังแพลตฟอร์มต่างๆ ทั้งไลน์ เฟซบุ๊ก และซูม ให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงข้อมูลสินค้าได้อย่างสะดวกรวดเร็ว สมัครสมาชิกและสั่งซื้อได้ง่าย และถือว่าเป็นการเชื่อมจุดเด่นของแอมเวย์ในเรื่องของความ Hi-Touch ไว้กับความ Hi-Tech ให้ทุกคนสามารถเข้าถึงได้

รวมถึงการพัฒนาสิ่งใหม่ๆ เพื่อสนับสนุนนักธุรกิจแอมเวย์และผู้บริโภค ทั้งในด้านผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์เทรนด์ต่างๆ และแผนการจ่ายผลตอบแทนเพิ่มเติม คือ กลยุทธ์การจ่ายผลตอบแทนพิเศษโปรแกรมคอร์พลัส (Core Plus+) ทำให้ปีที่ผ่านมามีอัตราการจ่ายโบนัสทั้งหมดให้กับนักธุรกิจแอมเวย์เพิ่มขึ้นกว่า 20% เมื่อเทียบจากปีก่อน ผนวกกับการปรับแผนการตลาดนำเสนอสินค้าที่สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภค

นอกจากนี้ ยังได้ ประกาศความสำเร็จดังกล่าวรวมทั้งแถลงทิศทางของบริษัทในปีนี้ ในการประชุมระดับชาติ 2021 (National Convention 2021) ซึ่งเป็นอีกหนึ่งงานสำคัญที่แสดงให้เห็นศักยภาพความเป็นผู้นำในการปรับตัวไปสู่ยุคดิจิทัล ด้วยการเป็นแบรนด์แรกๆ ในไทยที่จัดประชุมขนาดใหญ่ในรูปแบบ Virtual Event ผ่านเทคนิค XR Extended Reality ที่สร้างโลกเสมือนจริงอย่างตระการตา ถ่ายทอดสดครอบคลุมทั่วประเทศ

พร้อมเปิดโอกาสให้ผู้ชมได้ถามตอบแบบเรียลไทม์ ทดแทนการจัดประชุมในรูปแบบ Physical event ที่ทำเป็นประจำทุกปี พลิกมิติใหม่แบรนด์ขายตรงในวิถี Next Normal

อย่างไรก็ตาม สำหรับผลประกอบการในปี 2563 แอมเวย์มียอดขาย 20,800 ล้านบาท เติบโตขึ้น 3 % ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้