รสนา เปิด 7 ข้อสงสัยจัดซื้อ ATK ขององค์การเภสัชฯ ผิดกฎหมาย

atk

รสนาตั้งข้อสงสัย 7 ประเด็นการทำสัญญาจัดซื้อ ATK ของ อภ.ผิดก.มจัดซื้อจัดจ้าง หากมีการรับของและจ่ายเงิน ทั้งอภ.และสปสช.จะมีความผิดทางอาญาและทางแพ่ง จี้กรมบัญชีกลาง และสตง.เร่งตรวจสอบ

วันที่ 4 กันยายน 3564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เฟซบุ๊กของ “รสนา โตสิตระกูล” ได้ออกมาโพสต์ตั้งข้อสงสัย ถึงสัญญาการจัดซื้อ ATK ขององค์การเภสัชกรรมอีกครั้ง ระบุว่า ข่าวสื่อมวลชนวันที่ 3 กันยายน 2564 ที่บริษัทเวิลด์ เมดิคอล อัลไลแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ออกมาชี้แจงข้อกล่าวหา เซ็นสัญญาจัดซื้อ ATK ส่อทุจริตนั้o ดิฉันมีข้อพิจารณาต่อข้อมูลที่ปรากฎในข่าวดังนี้

1. เอกสารที่เวิลด์ เมดิคอลฯนำมาแสดงเป็นเพียงหนังสือรับรองว่าเวิลด์ เมดิคอลฯเป็นผู้แทนจำหน่าย ATKของ ออสแลนด์ แคปปิตอล จำกัด ทำให้เวิลด์ เมดิคอลฯมีสิทธิที่จะขาย ATK ได้ แต่การขายให้อภ.ต้องปฏิบัติตามระเบียบการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ เมื่อตามระเบียบการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ บริษัทที่ได้รับหนังสือเชิญเสนอราคาเท่านั้นที่มีสิทธิยื่นซองเสนอราคา ออสแลนด์ฯเป็นบริษัทที่ได้รับหนังสือเชิญเสนอราคา

ดังนั้นออสแลนด์ฯเท่านั้นที่มีสิทธิยื่นซองเสนอราคา ซึ่ง ออสแลนด์ฯก็ได้ยื่นซองเสนอราคาและชนะการคัดเลือกตามภาพถ่ายการนับคะแนน

เมื่อออสแลนด์ฯชนะการคัดเลือก อภ.ต้องทำสัญญากับออสแลนด์ฯ การทำสัญญากับเวิลด์ เมดิคอลฯถือเป็นการทำสัญญากับบริษัทที่ไม่มีสิทธิเข้ารับการคัดเลือก และไม่ได้รับการคัดเลือก เป็นการทำสัญญาผิดตัวซึ่งไม่มีผลให้เกิดสัญญาระหว่าง อภ.กับเวิลด์ เมดิคอลฯ อภ.จะรับมอบ ATK และสปสช.จะจ่ายเงินไม่ได้ ขืนจ่ายไปน่าจะมีความผิดทางอาญาและต้องรับผิดทางแพ่ง ใช่หรือไม่

2. การที่เวิลด์ เมดิคอลฯอ้างว่าได้รับมอบอำนาจจากออสแลนด์ฯให้ยื่นซองเสนอราคาและนำหนังสือมอบอำนาจลงวันที่6 ส.ค.64มาแสดงนั้น หนังสือมอบอำนาจที่นำมาแสดงนั้นเป็นหนังสือที่เวิลด์ เมดิคอลฯ มอบอำนาจให้ผู้แทนบริษัท มีอำนาจเสนอราคา ไม่ใช่หนังสือแสดงว่าออสแลนด์มอบอำนาจให้เวิลด์ เมดิคอล ยื่นซองเสนอราคาแทนตน

3. แต่ถ้าออสแลนด์ฯได้มอบอำนาจให้เวิลด์ เมดิคอลฯยื่นซองเสนอราคาแทนตนจริงตามคำแถลงข่าวของเวิลด์ เมดิคอลฯ ก็ยิ่งเป็นพยานหลักฐานแสดงให้เห็นอย่างชัดแจ้งว่าผู้ยื่นซองเสนอราคาที่แท้จริงคือออสแลนด์ฯโดยมอบอำนาจให้เวิลด์ เมดิคอลฯ เป็นตัวแทน เมื่อเป็นเช่นนี้อภ.ต้องทำสัญญากับออสแลนด์ฯ ซึ่งเป็นตัวการตามหลักกฎหมายตัวการตัวแทนในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ผู้เป็นคู่สัญญาต้องเป็นออสแลนด์ฯ มิใช่เวิลด์ เมดิคอลฯ

การให้เวิลด์ เมดิคอลฯเป็นคู่สัญญาจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย เป็นการทำสัญญาผิดตัวเช่นเดียวกัน ซึ่งไม่มีผลให้เวิลด์ เมดิคอลฯ เป็นคู่สัญญา   อภ.จะรับมอบ ATK และสปสช.จะจ่ายเงินไม่ได้ ขืนจ่ายไปน่าจะมีความผิดอาญาและต้องรับผิดทางแพ่งใช่หรือไม่

4. ที่เวิลด์ เมดิคอลฯ อ้างว่าเป็นJoint Ventureกับ ออสแลนด์ฯนั้น ถ้าเป็นความจริงเหตุใดจึงไม่นำ Joint Venture Agreement และบัตรประจำตัวผู้เสียภาษีที่ออกให้โดยกรมสรรพากรในฐานะกิจการร่วมค้า (Joint Venture)มาแสดง และเหตุใด อภ.จึงไม่ทำหนังสือเชิญเข้ารับการคัดเลือกในการจัดซื้อ ATK ส่งถึงJoint Venture

ออสแลนด์ฯและเวิลด์ เมดิคอลฯ ซึ่งเป็นกิจการร่วมค้า เหตุใดมีหนังสือเชิญเข้ารับการคัดเลือกส่งถึงออสแลนด์ฯ ซึ่งเป็นคนละหน่วยภาษี (Tax Entity) แยกต่างหากจากกันกับกิจการร่วมค้า ดังนั้น ที่ เวิลด์ เมดิคอลฯอ้างว่าเป็นJoint Venture กับ ออสแลนด์ฯจึงไม่น่าจะเป็นความจริง และขัดกับ Certification of Autourized Distributor ที่ระบุว่าเวิลด์ เมดิคอลฯเป็นเพียงผู้แทนจำหน่าย (Distributor) ของออสแลนด์ฯเท่านั้น มิได้มีฐานะเป็นJoint Venture กับออสแลนด์ฯแต่อย่างใด

5. สรุปแล้วความจริงน่าจะเป็นกรณีออสแลนด์ฯได้รับหนังสือเชิญให้เข้ารับคัดเลือกเพื่อเสนอขาย ATK ให้แก่องค์การเภสัชกรรม และออสแลนด์ฯได้ยื่นซองเสนอราคาตามหนังสือเชิญและเป็นผู้ได้รับการคัดเลือก แต่องค์การเภสัชกรรมทำสัญญากับเวิลด์ เมดิคอลฯ ซึ่งเป็นการทำสัญญาผิดตัว ไม่มีผลตามกฎหมาย ไม่อาจรับมอบสินค้าและจ่ายเงินค่าสินค้าได้

6. องค์การเภสัชกรรมและเวิลด์ เมดิคอลฯยิ่งแก้ตัว ยิ่งมีหลักฐานมัดตัวเอง ยิ่งแสดงให้เห็นว่าความจริงบริษัทที่ได้รับหนังสือเชิญจากองค์การเภสัชกรรมเข้าเสนอราคาขายATK คือออสแลนด์ฯ และบริษัทที่ยื่นซองเสนอราคาคือออสแลนด์ฯและบริษัทที่ได้รับการคัดเลือกโดยมีคะแนนสูงสุดก็คือออสแลนด์ฯเช่นเดียวกัน มิใช่เวิลด์เมดิคอลฯ

แต่มีการทำสัญญากับเวิลด์ เมดิคอลฯ ซึ่งมิได้เป็นบริษัทที่ได้รับหนังสือเชิญ และมิได้เป็นบริษัทที่ยื่นซองเสนอราคา ทั้งมิได้เป็นบริษัทที่ปรากฎชื่อในการการเปิดซองและตรวจนับคะแนนของคณะกรรมการคัดเลือกการซื้อ ATK ขององค์การเภสัชกรรม

เวิลด์ เมดิคอลฯจึงไม่อาจเป็นคู่สัญญากับองค์การเภสัชกรรมได้ การเป็นคู่สัญญาระหว่างองค์การเภสัชกรรมกับเวิลด์ เมดิคอลฯ จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่มีผลให้องค์การเภสัชกรรมต้องรับมอบ ATK จากเวิลด์เมดิคอลฯและไม่อาจจ่ายเงินให้เวิลด์ เมดิคอลฯหรือออสแลนด์ฯ ได้ ขืนจ่ายไปน่าจะมีความผิดทางอาญาและต้องรับผิดทางแพ่งใช่หรือไม่

7. กรณีที่เกิดขึ้นไม่ต้องเป็นห่วงว่าเวิลด์ เมดิคอลฯหรือออสแลนด์ฯจะฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากองค์การเภสัชกรรมและรัฐต้องเสียค่าโง่เหมือนกรณีอื่นๆ เพราะตามข้อเท็จจริงมีการกระทำที่ไม่สุจริตเกิดขึ้น โดยเจ้าหน้าที่สมรู้ร่วมคิดด้วย เป็นกรณีทำนองเดียวกับคดีค่าโง่คลองด่านที่ในที่สุด รัฐไม่ต้องจ่ายเงินค่าโง่ประมาณ 10,000 ล้านบาทและผู้บริหารของคู่สัญญากับกรมควบคุมมลพิษต้องติดคุกเช่นเดียวกับอธิบดีกรมควบคุมมลพิษและพวก

จึงขอเรียกร้องให้หน่วยงานตรวจสอบภายในกรมบัญชีกลาง และสตง.ซึ่งเป็นองค์กรตรวจสอบตามรัฐธรรมนูญได้ตรวจสอบเรื่องนี้อย่างเร่งด่วนเพื่อป้องกันความเสียหายต่อเงินแผ่นดิน และทำความชัดเจนต่อสาธารณชนด้วย