เจาะไลฟ์สไตล์ เมียนมา ทำยังไง…ตรงใจมิลเลนเนียล

คอลัมน์ จับกระแสตลาด

ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาตลาดซีแอลเอ็มวี ประกอบด้วย กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม ถือเป็นตลาดใหม่ที่แบรนด์สินค้าจากไทยให้ความสำคัญมากขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากเป็นตลาดที่กำลังเติบโตทั้งด้านเศรษฐกิจและกำลังซื้อ ขณะที่ผู้ประกอบการแบรนด์ไทยและต่างประเทศก็ต้องการเข้าไปเจาะตลาดเมียนมาซึ่งเป็นตลาดที่กำลังโต

“เกรียงไกร กาญจนะโภคิน” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ขณะนี้พฤติกรรมคนเมียนมาเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว จากการขยายตัวของเศรษฐกิจ พื้นที่ค้าปลีกที่เติบโตขึ้นวันนี้คนเมียนมาก็ใช้ชีวิตนอกบ้านมากขึ้น สอดรับกับพฤติกรรมการใช้สื่อออนไลน์ที่โตขึ้นเรื่อย ๆ จากอัตราการครอบครองสมาร์ทโฟนที่คิดเป็น 93% ของประชากรทั่วประเทศ และมีผู้ใช้อินเทอร์เน็ตมากถึง 14 ล้านคน ซึ่งทั้งหมดใช้เฟซบุ๊กเป็นช่องทางการติดต่อสื่อสารหลัก โดยคนกลุ่มนี้มีอายุ 18-34 ปี เป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อ และจะกลายเป็นกลุ่มที่เป็นฐานใหญ่ในอนาคต

ขณะเดียวกันคนเมียนมาก็ยังรับสื่ออื่น ๆ อีก โดยทีวีสามารถเข้าถึงคนเมียนมาเป็นอันดับต้น ๆ หรือคิดเป็นสัดส่วน 32% วิทยุ 17% และสื่อสิ่งพิมพ์ทั้งหนังสือพิมพ์และแมกาซีนก็ยังโตได้ดีในตลาดนี้ โดยอัตราการเข้าถึงสื่อนี้คิดเป็น 8% แต่มีอัตราการเติบโตถึง 20% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

“การใช้สื่อออนไลน์ของคนเมียนมาโตอย่างรวดเร็ว และเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ ทำให้บริษัทต้องเปิดตัวบริการใหม่ในการสื่อสาร เข้าถึงผู้บริโภคออนไลน์ในเมียนมา”

เป้าหมายอนาคตจะขยายบริการต่อไปยังตลาดอื่น ๆ ในอาเซียนด้วยในแง่ของลูกค้า (สินค้า) ปัจจุบันทั้งแบรนด์ไทยและอินเตอร์แบรนด์ก็เข้ามาทำตลาดในเมียนมาเพิ่มขึ้น ซึ่งการสื่อสารกับผู้บริโภคเมียนมาก็ค่อนข้างที่จะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

ยกตัวอย่าง การสื่อสารผ่านสื่อออนไลน์ แม้คนเมียนมาจะใช้โซเชียลมีเดีย แต่คนส่วนใหญ่ใช้เฟซบุ๊กเป็นช่องทางหลัก ขณะที่บริการเสิร์ชอื่น ๆ เช่น กูเกิล เป็นต้น ก็ไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควร ดังนั้นการสื่อสารกับผ่านสื่อออนไลน์ก็ต้องสื่อสารผ่านเฟซบุ๊กเป็นหลัก ๆ และต้องสื่อสารด้วยภาษาท้องถิ่น ถึงจะได้รับความสนใจจากผู้บริโภคเมียนมา

แม้วัฒนธรรมและวิถีชีวิตของคนเมียนมาจะใกล้เคียงกับไทย แต่รูปแบบและวิธีการสื่อสารกลับแตกต่าง ดังนั้นการเจาะเข้าไปตลาดเมียนมาของแบรนด์ต่าง ๆ ก็อาจจะไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ต้องเข้าใจและศึกษาพฤติกรรมของผู้บริโภคเมียนมาให้ดี