“ดูคาติ” ยึดไทยฮับผลิตอาเซียน เปิดโรงงานใหม่เพิ่มกำลังผลิตเท่าตัว

คอลัมน์ : สัมภาษณ์พิเศษ

ถือเป็นโอกาสพิเศษ ที่ “ประชาชาติธุรกิจ” ได้มีโอกาสสัมภาษณ์ และร่วมพูดคุยถึงแผนธุรกิจในการขับเคลื่อนธุรกิจของแบรนด์รถจักรยานยนต์ลักเซอรี่ระดับโลก สัญชาติอิตาเลียน อย่าง “ดูคาติ” ที่เข้ามาลงหลักปักฐาน ใช้ประเทศไทยเป็นโรงงานประกอบแห่งที่สองของโลก ต่อจากอิตาลีในฐานะประเทศมาตุภูมิ มาเป็นระยะเวลากว่า 30 ปี

โดยล่าสุดปีนี้ “ดูคาติ” ตัดสินใจปักหมุดตอกเสาเข็ม ด้วยการลงทุนซื้อที่ดิน และตั้งโรงงานแห่งใหม่ในประเทศไทย ด้วยเหตุผลใด วันนี้ไปฟังจากปาก “เคลาดิโอ โดเมนิคาลี” (Claudio Domenicali) ประธานกรรมการบริหารดูคาติ

Q : แผนการลงทุนและเป้าหมาย

บางอย่างอาจจะเป็นความลับ เราบอกได้เพียงว่า เราใช้เงินลงทุนมูลค่าหลายสิบล้านยูโร แต่ไม่ถึง 50 ล้านยูโร หรือคิดเป็นเงินไทยกว่า 400 ล้านบาท ซึ่งโรงงานแห่งใหม่นี้ได้มีการขยายเพิ่มพื้นที่ให้ใหญ่กว่าเดิมเป็น “เท่าตัว” และรองรับการผลิตได้มากขึ้น สำหรับโรงงานดูคาติแห่งเดิมในไทยนั้นเป็นการเช่าพื้นที่ แต่สำหรับโรงงานแห่งใหม่บริษัทได้ลงทุนซื้อที่ดิน ก่อสร้างโรงงานใหม่ เนื่องจากบริษัทเล็งเห็นโอกาสและศักยภาพในการเติบโตตลาดประเทศไทย

Q : กำลังผลิตจะขยายไปเท่าไหร่

เพื่อรับตลาดที่เติบโต แน่นอนว่าการลงทุนครั้งนี้โรงงานผลิตของเรามีขนาดเพิ่มขึ้นสองเท่า กำลังผลิตเพิ่มขึ้นด้วยจากเดิมผลิตได้ 10,000 คันต่อปี ก็จะเพิ่มเป็น 20,000 คันต่อปี และด้วยขีดความสามารถในการผลิต โรงงานดูคาติประเทศไทยยังสามารถเพิ่มกำลังผลิตขึ้นไปได้อีกมาก เพื่อรองรับดีมานด์ที่เพิ่มขึ้น โดยในอนาคต ดูคาติ มีแผนจะซื้อที่ดินเพิ่มขยายกำลังการผลิตอีก นอกจากนี้ยังจะมุ่งเน้นการเพิ่มศักยภาพในการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ที่ใช้ในประเทศไทยให้มากขึ้นเพื่อเป็นการตอกย้ำความแข็งแกร่ง

Q : มองความต้องการในตลาดยังมีอยู่

แน่นอนว่า ดีมานด์ยังคงมีอยู่ ประเทศไทยถือเป็นฐานผลิตที่สำคัญ เรามีการส่งออกรถจักรยานยนต์ดูคาติ ออกไปยังประเทศต่าง ๆ ทั้งตลาดเอเชีย ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย รวมทั้งตลาดอเมริกา อิตาลี เยอรมนี ฝรั่งเศส อังกฤษ ฯลฯ ประเทศไทยนอกจากเป็นฐานการผลิตแล้ว โรงงานแห่งใหม่นี้ยังเป็นที่ตั้งของฝ่ายขาย ฝ่ายการตลาดและฝ่ายบริการหลังการขาย เสริมความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์ดูคาติทั่วทั้งภูมิภาค

Q : ความสำเร็จในปีที่ผ่าน

เราโฟกัสเรื่องสมรรถนะในการขับขี่ และมีจำนวนรุ่นของรถจักรยานยนต์สมรรถนะที่หลากหลายให้เลือกมากขึ้น รวมทั้งประสิทธิภาพ โดยเน้นไปที่ความเป็นรถจักรยานยนต์พรีเมี่ยมมากขึ้น ส่วนยอดขายนั้นก็เป็นเรื่องหนึ่งที่ดูคาติเน้น แต่เราก็โฟกัสความไฮเอนด์ เป็นสินค้าที่ดี สำหรับปีที่ผ่านมาเรามียอดผลิตส่งมอบทั่วโลกที่ 58,000 คัน โดยสามารถเพิ่มกำลังผลิตไปถึง 65,000 คัน

ทั้งนี้ ดูคาติโฟกัสที่คุณภาพมากกว่าปริมาณ และนอกจากนี้ ดูคาติยังมุ่งเน้นการสร้างความสำคัญกับเครือข่ายรวมทั้งสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าโดยการเติบโตคู่ขนาน ทั้งคุณภาพสินค้าและประสบการณ์พิเศษให้กับลูกค้า

Q : BOI มีแผนให้ทำมอเตอร์ไซค์ EV ด้วยหรือไม่

จากการได้พูดคุยกับ BOI ก็ทำให้ดูคาติมีแนวโน้มจะตัดสินใจลงทุนเรื่องการผลิตรถจักรยานยนต์ EV ในประเทศไทย แต่ทั้งนี้คงไม่ใช่เรื่องเร็ว ๆ นี้เพราะการผลิตรถจักรยานยนต์ EV นั้น ยังมีรายละเอียดและต้องพัฒนาอีกค่อนข้างเยอะโดยเฉพาะเทคโนโลยีแบตเตอรี่ ประสิทธิภาพการขับขี่ที่จะต้องให้แน่ใจที่สุดสำหรับซูเปอร์โปรดักต์ของดูคาติ

Q : ให้คะแนนตัวแทนขายในปัจจุบันเท่าไหร่

ถือเป็นการทำงานและความสัมพันธ์ที่เป็นแนวโน้มที่ดี จากนี้ดูคาติจะช่วยพัฒนาเรื่องของงานบริการหลังการขายให้ดีขึ้น สุดท้าย “โดเมนิคาลี” ยังได้ย้ำว่า “เครื่องยนต์ทรงพลัง ดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ เทคโนโลยีอันล้ำสมัย และความหลงใหลอันแรงกล้า” (Powerful engines, distinctive design, innovative technologies and a lot of passion) หัวใจสำคัญที่ดูคาติยึดมั่นมาตั้งแต่ปี 1926 จนถึงปัจจุบัน