ผลวิจัย “รถมือสอง” ในไทย “อีโคคาร์ – ฮอนด้า” ขายดีสุด

สำรวจรถมือสองยอดฮิต อีโคคาร์ยังนำโด่ง ครองยอดขาย 36% ด้วยราคาที่เข้าถึงง่าย ประหยัดน้ำมันเหมาะกับการขับระยะสั้นในเมือง ตามมาด้วยแฮตช์แบ็ก 5 ประตู ส่วนแบรนด์ “ฮอนด้า” ขายดีสุด

นายอรรณพ เกษตระทัต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คาร์โร (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า คาร์โรวิเคราะห์ฐานข้อมูลการซื้อขายรถยนต์มือสองบนแพลตฟอร์มของคาร์โร ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา (พ.ย. 2564 – เม.ย 2565) พบว่า อีโคคาร์ยังเป็นที่นิยมในหมู่ผู้บริโภคในประเทศไทย โดยครองยอดขายอันดับ 1 คิดเป็น 36% ด้วยราคาที่เข้าถึงได้ง่าย อัตราการประหยัดน้ำมันและขนาดกะทัดรัดเหมาะกับการขับระยะสั้นในเมือง รถประเภทนี้จึงเป็นทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับผู้บริโภคส่วนใหญ่ในสถานการณ์ปัจจุบันที่ราคาน้ำมันปรับเพิ่มขึ้น

อรรณพ เกษตระทัต คาร์โร
อรรณพ เกษตระทัต

ตามมาด้วย รถสไตล์แฮตช์แบ็ก 5 ประตู คิดเป็น 23% ด้วยพื้นที่ใช้สอยที่มากกว่ารถเก๋ง ทั้งพื้นที่เก็บของที่กว้างขวางและสมรรถนะที่การขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ที่มีขนาดใหญ่มากกว่า จึงเหมาะกับการเดินทางทั้งในเมืองและทางไกล ส่วนอันดับที่ 3 ได้แก่ กลุ่มรถไฮบริด คิดเป็น 19% ซึ่งเป็นอีกหนึ่งกลุ่มที่ได้รับความนิยมมากขึ้นอย่างต่อเนื่องในประเทศไทย ส่วนอันดับที่ 4 และ 5 ได้แก่ รถเก๋งขนาดใหญ่ คิดเป็น 10% และรถเก๋งขนาดกลาง คิดเป็น 7% ตามลำดับ

ส่วนในด้านแบรนด์รถยนต์มือสองที่มีการซื้อขายมากที่สุด 5 อันดับแรก จากข้อมูลพบว่าเป็นแบรนด์จากประเทศญี่ปุ่นยังคงได้รับความนิยมมากที่สุดในตลาดประเทศไทย โดยประกอบด้วย อันดับ 1 โตโยต้า คิดเป็น 27% ตามด้วย ฮอนด้า คิดเป็น 23% นิสสัน คิดเป็น 14% มาสด้า คิดเป็น 9% และมิตซูบิชิ คิดเป็น 8%

โดยรถยนต์มือสองที่ลูกค้าสนใจซื้อ ส่วนใหญ่จะจดทะเบียนในช่วงระหว่างปี พ.ศ. 2561 ถึง 2562 โดยรถกลุ่มนี้มีเลขไมล์เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 60,000 กิโลเมตรเท่านั้น สอดคล้องกับความต้องการของกลุ่มลูกค้าชาวไทยที่ต้องการรถยนต์มือสองที่มีฟังก์ชั่นการใช้งานที่ยังคงทันสมัย เพียงพอต่อการใช้งานในปัจจุบัน ในขณะที่สภาพรถยนต์ยังคงเหมือนรถใหม่ในราคาที่ย่อมเยามากกว่า ทั้งนี้ ยังพบอีกว่า 2 ใน 5 ของลูกค้าของคาร์โรตัดสินใจซื้อรถยนต์มือสองจากบริษัทด้วยการจ่ายเงินสด