ฉลาดเกมส์โกง

คอลัมน์ Market-Think

โดย สรกล อดุลยานนท์

ถ้าถามว่าในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา สินค้าไทยตัวไหนที่ขายดีที่สุดในเมืองจีน

หลายคนคงทายไม่ถูก

คำตอบ คือ สินค้ายี่ห้อ GDH ครับ

ชื่อว่า “ฉลาดเกมส์โกง”

หนังไทยที่ตีตลาดเมืองจีนกระจุยกระจาย

“ฉลาดเกมส์โกง” เข้าฉายที่เมืองจีนเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม

7,000 โรงทั่วประเทศ

ทำรายได้เกิน 700 ล้านบาท ภายในเวลา 5 วัน

และคาดว่าจะทะลุ 1,000 ล้านบาทอย่างแน่นอน

รายได้ของ “ฉลาดเกมส์โกง” ในเมืองจีน เมื่อสัปดาห์ที่แล้วเป็นอันดับที่ 2

แต่ถ้าดูรายได้ของหนังทั่วโลก

เชื่อไหมครับว่า หนังเรื่องนี้ทำ

รายได้เป็นอันดับ 6 ของโลก

นี่คือ ปรากฏการณ์ครั้งสำคัญของหนังไทย

ในอดีตหนังไทยที่ทำรายได้ทั่วโลกสูงที่สุด คือ “องค์บาก”

“องค์บาก” ทำรายได้ทั่วโลกประมาณ 500 ล้านบาท

และทำให้ “จา พนม” กลายเป็นซูเปอร์สตาร์ระดับโลก

รองลงมาน่าจะเป็น “ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ”

แต่วันนี้ “ฉลาดเกมส์โกง” แซงทั้ง 2 เรื่องไปแบบกระจุยกระจาย

ก่อนหน้านี้ “ฉลาดเกมส์โกง” ทำรายได้ในเมืองไทย 112 ล้านบาท

ที่ฮ่องกง 101 ล้านบาท

ไต้หวัน 131 ล้านบาท

เมื่อรวมกับรายได้ในเมืองจีน ตัวเลขรวมน่าจะเกิน 1,000 ล้านบาทแล้ว

ความโด่งดังในเมืองจีนนั้นถึงขั้นที่

วัยรุ่นจีนถ่ายภาพเลียนแบบโปสเตอร์หนัง

มีการปั้นรูป “ลิน” นางเอกในเรื่องเป็น

เทพเจ้าบูชาก่อนสอบ

ไม่ว่าจะเล่นหรือจริง แต่ก็สร้างกระแสในโซเชียลมีเดียในเมืองจีน

และทำให้ “ฉลาดเกมส์โกง” ไปต่อ

…ไกลกว่าที่ใครจะคาดคิด

ในแง่รางวัล หนังเรื่องนี้ก็กวาดรางวัลในเทศกาลหนังต่าง ๆ มากมาย

ผมเคยคุยกับ “พี่เก้ง” จิระ มะลิกุล

ตอนที่หนังเรื่องนี้ฉายในเมืองไทย

“พี่เก้ง” บอกว่า คุณไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม อยากให้ GDH ทำหนังแอ็กชั่นมานานแล้ว

อาจเป็นเพราะเห็นความสำเร็จของ “จา พนม”

แต่ “พี่เก้ง” มองว่า ถ้าหานักแสดงระดับ “จา พนม” ไม่ได้ หรือทุนหนาไม่พอที่จะเผาเงินทิ้งแบบหนังแอ็กชั่นระดับโลก

“เราไม่มีทางทำหนังแอ็กชั่นไประดับโลกได้”

จนวันหนึ่ง เขาเกิดไอเดียใหม่ขึ้นมา

ที่ผ่านมา “พี่เก้ง” ติดกรอบความคิด

เดิมว่า “หนังแอ็กชั่น” ต้องชกกันหรือยิงกันเท่านั้น

แต่จริง ๆ หัวใจของหนังแอ็กชั่น คือ ทำให้คนตื่นเต้นลุ้นตามไปกับหนัง

“เราจะทำหนังแอ็กชั่นด้วยบท”

ทำให้คนดูตื่นเต้นกับภาพบนจอ โดยที่ไม่มีกระสุนสักนัด เลือดออกสักหยด

นี่คือที่มาของ “ฉลาดเกมส์โกง”

หนังแอ็กชั่นด้วยบท

เขาดึง “บาส” นัฐวุฒิ พูนวิริยะ ที่เคย

กำกับหนังเรื่อง “เคาท์ดาวน์” ที่ไม่ประสบความสำเร็จเรื่องรายได้

แต่ “พี่เก้ง” เห็นแววเรื่องวิธีการตัดสลับเรื่องของ “บาส” จากหนังเรื่องนี้

เขาจึงชวน “บาส” มาเขียนบทและกำกับ “ฉลาดเกมส์โกง”

บทเรื่องนี้ดีมาก

“แต่ผู้กำกับคือคนที่พาหนังไปไกลกว่าบท”

ผมเชื่อว่า “พี่เก้ง” และ “บาส” คงไม่คิดว่าหนังเรื่องนี้จะสร้างสถิติใหม่ให้กับหนังไทย

และช่วยเปิดตลาดหนังไทยในเมืองจีน

โดยเฉพาะกับ GDH

ไม่ใช่เพียงแค่หนังใหม่ แต่หนังเก่า

จากค่ายนี้ก็น่าจะมีค่ายหนังเมืองจีนสนใจเช่นกัน

“ฉลาดเกมส์โกง” ไม่ได้ขายขาดนะครับ

GDH ได้ส่วนแบ่งรายได้ในเมืองจีนด้วย แต่เป็นส่วนแบ่งที่น้อยมาก

เพราะเป็นหนังต่างประเทศ

ไม่มีคนจีนร่วมลงทุนด้วย

ครับ อย่าแปลกใจหากหนังเรื่อง

ต่อไปของ GDH มีคนจีนร่วมลงทุนด้วย

และบางที “ฉลาดเกมส์โกง” อาจมีภาค 2