ประยุทธ์ คำสุดท้าย ยุทธศาสตร์ชาติไม่ได้ร่างไว้เพื่อสืบทอดอำนาจ ชีวิตหายไป 9 ปี

ประยุทธ์ คำสุดท้าย ยุทธศาสตร์ชาติไม่ได้ร่างไว้เพื่อสืบทอดอำนาจ ชีวิตหายไป 9 ปี

ประยุทธ์ส่งท้ายเข้าทำเนียบวันสุดท้าย เปิดใจกลางวงข้าวกลางวัน ไม่ได้ตั้งใจอยู่มาถึงขนาดนี้ ไม่คิดว่ามีอำนาจ แต่อำนาจมาพร้อมกับความรับผิดชอบ ให้คะแนน 9 ปีทำได้เกินครึ่ง

วันที่ 31 สิงหาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศ การสนทนาและการสัมภาษณ์ครั้งสุดท้าย ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เป็นจ้าภาพเลี้ยงอาหารกลางวันนักข่าวประจำทำเนียบรัฐบาล โดยได้ฝากให้นักข่าวถึงการทำงานกับรัฐบาลใหม่ ว่า “วันหน้าก็ทำงานกับรัฐบาลให้ดี ๆ แล้วกัน”

พล.อ.ประยุทธ์ยังตอบคำถามถึงอนาคตหลังจากพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีว่า “คงสักระยะ ให้มันนิ่ง ๆ เงียบ ๆ เรียบร้อยก่อนนะ จะไปถูก (เที่ยว) หรือเปล่ายังไม่รู้เลย ก็นั่งรถจากบ้านมาทำเนียบทุกวัน ก็อยู่กับครอบครัว เหมือนชีวิตหายไป 9 ปี”

“วันนี้สงบเรียบร้อยระดับที่น่าพอใจ ถ้าช่วยกันรักษาก็ไปได้ บางอย่างตั้งหลักไว้แล้ว จะปรับเปลี่ยนอะไรก็ต้องทำให้ต่อเนื่องบ้าง ซึ่งมาในวันนี้จะเอาหนังสือไปเซ็นที่บ้าน ให้เกียรติรัฐบาลใหม่ คาดว่าจะเร็ว พร้อมเมื่อไหร่ ตรวจสอบประวัติเสร็จเมื่อไหร่ก็คงทูลเกล้าฯ ขึ้นไป นายกรัฐมนตรีคนใหม่จะได้จัดเตรียมสถานที่ห้องทำงาน”

 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า หลังจากนี้จะเขียนหนังสือหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ “ขอพักสมอง” ส่วนงานอดิเรก คือ “อ่านหนังสือ เลี้ยงหมา”

“ไม่คิดว่าจะมาถึงวันนี้หรอก เข้ามายังไง สถานการณ์ยังไง ถ้ามันเรียบร้อยฉันก็ไปนานแล้ว ไม่ได้ตั้งใจอยู่มาถึงขนาดนี้หรอก” พล.อ.ประยุทธ์ อดีตหัวหน้า คสช. ที่อยู่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีทั้ง 2 สมัย ตั้งแต่ปี 2557-2566 รวม 9 ปีกล่าว

“อย่าลืมว่า 4 ปีแรกกับ 4 ปีหลังเข้ามาเพราะอะไร ทำไมไม่พูดว่า 4 ปีแรกเกิดอะไรขึ้นบ้างล่ะ เราไม่เกี่ยวกับการเมือง เราดูบ้านเมืองให้เรียบร้อย ไม่มีการใช้ความรุนแรงต่อกัน เป้าหมายมีแค่นั้นเอง” พล.อ.ประยุทธ์ตอบเมื่อผู้สื่อข่าวกระเซ้าถึงเพลงฮิตของ คสช.อย่างเพลง “คืนความสุขให้ประเทศไทย” ซึ่งเนื้อเพลงที่มีท่อนฮุก สะเทือนใจจนร้องกันติดหูทั่วบ้านทั่วเมือง

ก่อนจะตอบคำถามถึงทิศทางทางการเมืองที่มาพร้อมกับวาทกรรม “รัฐบาลพิเศษ-รัฐบาลปรองดอง” ว่า “ทุกคนต้องมีส่วนร่วมในการปรองดอง จะไปสั่งใครปรองดองได้ไหม นายกฯคนเดียวทำได้เหรอ”

 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

“ทุกอย่างจะผ่านพ้นไปด้วยดี ถ้ามันผ่านเราก็ไม่ต้องรับผิดชอบ เราก็ไปเร็ว แต่ในเมื่อกลไกการเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญทำมาก็ต้องอยู่ เป็นเรื่องของกระบวนการ”

“ทุกคนก็มองว่า อำนาจ ๆ อำนาจต้องทำในสิ่งที่ถูกต้อง ทุกคนอยากจะมีอำนาจ อำนาจต้องมาพร้อมกับความรับผิดชอบ ถ้าไม่ถูกก็มีปัญหา ผมพยายามระวังมา 9 ปี บ้านเมืองสำคัญกว่าอย่างอื่น”

“เราไม่เคยคิดว่ามีอำนาจ ทุกอย่างอำนาจมาพร้อมกับความรับผิดชอบ ทุกอย่างมาตามขั้นตอน มาด้วยระเบียบ ข้อบังคับ กฎหมาย ใช้อำนาจมากเกินไปก็อันตราย”

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า สมมุติในอนาคตถ้าชาติต้องการให้กลับมาอีกครั้งพร้อมหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ไม่สมมุติ สมมุติในสิ่งที่ดี ต้องสมมุติว่ามันไปได้ด้วยดี

เมื่อถามว่า ประทับใจอะไรกับเรือลำนี้ ที่พายมาถึงวันนี้ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ความรัก ความสามัคคี ความเข้าใจว่าเราทำหน้าที่เพื่อใคร เพื่อประเทศชาติ เพื่อประชาชน

เมื่อถามว่า หลังจากนี้ไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว หวังอะไรกับเรือลำใหม่ พล.อ.ประยุทธ์ย้อนถามว่า แล้วพวกเราหวังอะไร สื่อหวังว่าอะไร ประชาชนหวังว่าอย่างไร ก็หวังแบบเดียวกัน ไม่อยากให้เกิดความขัดแย้ง ไม่อยากให้กลับมาแบบเดิม ไม่เรียนรู้ประวัติศาสตร์จะอยู่กัน           อย่างไร

“ยุทธศาสตร์ชาติไม่ได้ร่างไว้เพื่อสืบทอดอำนาจ” พล.อ.ประยุทธ์พูดความใน-ในหัวที่เก็บงำไว้ก่อนเปิดให้ผู้สื่อข่าว-ช่างภาพเกือบร้อยชีวิตที่มาร่วมเลี้ยงส่ง และอำลาชีวิตในทำเนียบรัฐบาลเป็นวันสุดท้าย

“9 ปีคิดว่าทำได้เกินครึ่ง บางอย่างยาก บางอย่างติดกฎหมาย อย่างน้อยบางอย่างก็เกิน 50/60 บางอย่าง 80 90 เช่น โครงสร้างพื้นฐาน การแพทย์สาธารณสุข ก็เดินหน้าไปเยอะ 80%” พล.อ.ประยุทธ์ส่งท้ายด้วยการให้คะแนนรัฐบาลตัวเองกับผลงานที่สร้างสรรค์ออกมาตลอด 9 ปีเต็ม

เป็น 9 ปีที่บางคนก็ว่านาน บางคนก็ว่ากะพริบตาครั้งเดียว 9 ปีแล้วจริง ๆ

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา