กมธ.ความมั่นคง หารือ “รมว.กลาโหม” ย้ำกวดขันเรื่องไอโอ ปมเรือดำน้ำจีน และยกเลิกเกณฑ์ทหาร
วันที่ 30 ตุลาคม 2566 ที่สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ถนนศรีสมาน นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม พร้อมด้วย นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคง แห่งรัฐ กิจการชายแดน ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูป สภาผู้แทนราษฎร และคณะ แถลงข่าวร่วมกันภายหลังหารืองานด้านความมั่นคง
- ด่วน! โปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ครม.เศรษฐา 1/1 รัฐมนตรีใหม่ 13 ตำแหน่ง
- ล้งกระหน่ำทุบราคามังคุด จากโลละ 200 เหลือ 60 บาท
- ทูลเกล้า 11 รายชื่อคณะรัฐมนตรี เศรษฐา 1/1 ออก 4 เข้าใหม่ 6 ตำแหน่ง
นายสุทินกล่าวว่า เป็นโอกาสดี กมธ.ความมั่นคง สภาผู้แทนราษฎร ได้มาพบปะแลกเปลี่ยนข้อมูล วันนี้มีผู้แทนของเหล่าทัพมาด้วย โดยการพูดคุยเป็นไปด้วยบรรยากาศที่ดี ซึ่งทางคณะกรรมการได้มาสอบถามภาร กิจในหลายเรื่อง โดยเฉพาะที่มีผลกระทบกับประชาชน
ทั้งนี้ กระทรวงกลาโหมได้ชี้แจงไปหลายประเด็นรวมถึงเรื่องที่อยู่ในความสนใจของประชาชน โดย กมธ.ความมั่นคง ให้ข้อเสนอแนะว่ากระทรวงกลาโหมและเหล่าทัพควรจะปรับอะไร ซึ่งเราก็รับได้ และถือว่าเป็นประโยชน์ และจะหาแนวทางในการปฏิบัติต่อไป
ด้าน นายรังสิมันต์กล่าวว่า ต้องขอบคุณ รมว.กลาโหม ซึ่งเราได้ประโยชน์และมีหลายคำถามทั้งเรื่องที่ดินของกองทัพ และได้รับคำอธิบายที่ดีและ รมว.กลาโหม ก็ให้ทิศทางที่ชัดเจน สุดท้ายก็ต้องไปใช้วันแมปเพื่อแก้ไขปัญหาที่ดินทับซ้อน ซึ่งชาวบ้านที่อยู่มาก่อนจะได้เอกสารสิทธิที่จะมีโอกาสดำเนินชีวิตต่อไป ส่วนใครที่ไม่ได้อยู่มาก่อน ได้สิทธิการเช่าที่เป็นช่องทาง ในการทำมาหากิน ก็เห็นทิศทางที่ดี
ส่วนปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ยังมีความคิดเห็นในเรื่องของการใช้กฎหมายพิเศษ ซึ่งเราก็เข้าใจมากขึ้น ซึ่งกองทัพอาจจะมีความรู้สึกว่ายังจำเป็นต้องใช้กฎหมายพิเศษอยู่ แต่อย่างน้อยคำสัญญาในปี 2570 ในทุก ๆ อำเภอต้องยกเลิกการใช้กฎหมายพิเศษถือเป็นเรื่องที่เรารอคอย ส่วนปฏิบัติการไอโอนั้น ทางกองทัพก็ให้คำสัญญาโดย นายสุทินได้พูดเองว่าจะกวดขัน จะไม่ให้มีปฏิบัติการไอโอ ตนคิดว่าเป็นสัญญาณเชิงบวก
“ผมได้ฝากเรื่องไอโอไว้เป็นพิเศษ ที่ไม่อยากให้มีผลกระทบเป็นวงกว้าง ซึ่งทางคณะกรรมาธิการของเราหลายคน ที่มีประสบการณ์ของไอโอ เราก็พยายามที่จะอธิบายว่ามีผลกระทบอย่างไร ก็คงต้องติดตามกันต่อไป ว่าสุดท้ายการแก้ปัญหาจริง ๆ แล้ว จะได้ประมาณไหน ทางคณะกรรมาธิการเรา ก็ไม่ได้กำหนดระยะเวลา แต่ก็ให้ช่วงระยะเวลาหนึ่ง ซึ่งเราก็ไม่ได้หยิบยกขึ้นมาเป็นประเด็น ว่าจะต้องใช้ระยะเวลาโดยทันทีหรือไม่ด้วยบรรยากาศ คงไม่ขนาดนั้น แต่เมื่อผ่านไปสักระยะหนึ่ง เราก็คงไปติดตามในการทำงาน” นายรังสิมันต์กล่าว
ทั้งนี้ ตนไม่อยากจะพูดว่าการทำไอโอหนักขึ้นหรือเบาลง เพียงแต่ว่าเราเห็นการหยิบยกการพรีเซนต์ของผู้บัญชาการทหารเรือ ซึ่งก็ได้รับคำชี้แจงมาว่าไม่ได้ด้อยค่าใคร ซึ่งเราก็คาดหวังว่าน่าจะเป็นอย่างนั้น ถ้าจะเป็นในลักษณะการประชาสัมพันธ์เราเข้าใจ แต่ถ้าเป็นในลักษณะที่เป็นไอโอดำหรือไอโอเทา คือเป็นการด้อยค่าสร้างมลทินให้กับศัตรูทางการเมือง สิ่งนี้เป็นสิ่งที่เราไม่อาจยอมรับได้ เราก็เลยฝากกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมโดยท่าน ก็เลยรับปากกับเรา ว่าจะคุยกันในเรื่องนี้
ส่วนปัญหาเรือดำน้ำยังอยู่ในกระบวนการและมีข้อแลกเปลี่ยนและตนเข้าใจว่าทางกองทัพ เข้าใจความกังวลใจของสังคมต่อเรื่องนี้และวันนี้เราเห็นทิศทาง ที่ยังอยู่ในกระบวนการเจรจา ซึ่งตนในฐานะประธาน กมธ.ความมั่นคงได้เสนอว่าภาคส่วนสังคมเข้าใจสุดท้ายในเรื่องของเรือดำน้ำ หากไม่ได้เครื่องยนต์ของเยอรมัน เราก็อาจจะใช้รูปแบบ หาอาวุธประเภทอื่นที่ไม่เกินกรอบวงเงินทดแทน
นายรังสิมันต์กล่าวอีกว่า ทางกระทรวงกลาโหมยังยืนยันถึงความจำเป็นต้องมีเรือดำน้ำ ถือเป็นภารกิจที่สำคัญและมีความจำเป็นที่จะต้องมีในอนาคต ก็ต้องมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลเพิ่มเติมในเรื่องนี้เพื่อ กมธ.ความมั่นคงได้เข้าใจมากขึ้น
“ผมยอมรับอีกว่า เรื่องเรือดำน้ำที่ได้มาพูดคุยดังกล่าวนี้ เข้าใจว่าเป็นเรื่องยาก ซึ่งอาจจะเป็นความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่เข้ามา แต่เราก็ได้เสนอแนะไปแล้ว โดยทางนายสุทินกล่าวว่า จะให้มีผลกระทบน้อยที่สุด ซึ่งทั้งนี้ทั้งนั้นยังอยู่ในกระบวนการเจรจา” นายรังสิมันต์กล่าว
สำหรับการเกณฑ์ทหาร ได้เห็นทิศทางเชิงบวกว่ากองทัพต้องการที่จะลดจำนวนทหารเกณฑ์ ซึ่งในอนาคตเราคาดหวัง จะไม่มีการเกณฑ์ทหารอีกต่อไป แต่ความท้าทายสำคัญก็คือเรื่องความยั่งยืน ซึ่งต้องฝาก รมว.กลาโหมซึ่งเชื่อว่า “ผมเชื่อว่าพี่สุทินทำได้แน่นอน ซึ่งเราน่าจะมีความใกล้ชิดกันในเรื่องของทิศทางความมั่นคง ส่วนปัญหาอื่น ๆ เช่น ป่า ปัญหาเสียงดังของการซ้อมยิงของทหารเรือก็ฝากไว้กับพี่สุทินและกองทัพ เพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหาต่อไป
โดยภาพรวมทั้งหมดเราได้รับเกียรติจากกระทรวงกลาโหม โดยทางพี่สุทินเชิญผู้บริหารของเหล่าทัพต่าง ๆ ถือเป็นนิมิตหมายอันดีที่เราได้มีการพูดคุยกันต่อไป และในอนาคตข้างหน้าปัญหาชายแดนการค้ามนุษย์ต่าง ๆ ต้องหวังว่าวันนี้เป็นการเริ่มต้นจะนำไปสู่การสร้างช่องทางการสื่อสารรวดเร็วเพื่อที่จะแก้ปัญหาที่จะเกิดขึ้นให้ประชาชน
“ผมต้องขออนุญาตใช้บริการกองทัพโทร.หารวดเร็วเพื่อแก้ไขปัญหาให้ประชาชนต่อไปถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีต่อไปแน่นอน เพราะผมมีเบอร์โทร.ส่วนตัวของพี่สุทินอยู่แล้ว” นายรังสิมันต์กล่าว
ในขณะที่นายสุทินย้ำว่าได้สั่งให้รวบรวมเบอร์ของผู้แทนเหล่าทัพเกี่ยวข้องกับงานด้านต่าง ๆ ให้กับ กมธ. ความมั่นคง เพื่อใช้เป็นอีกช่องทางในการประสานงาน