“เผ่าภูมิ” ชี้ มาตรการเยียวยารัฐบาล ไม่ช่วยรักษาการจ้างงาน

เผ่าภูมิ โรจนสกุล
เผ่าภูมิ โรจนสกุล

รองเลขาฯเพื่อไทย สวนนโยบายรัฐบาล ไม่มีเงื่อนไขรักษาการจ้างงาน นายจ้างปลดคนงานได้เหมือนเดิม

วันที่ 14 กรกฎาคม 2564 นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย และผู้อำนวยการศูนย์นโยบายพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงมาตรการเยียวยาของรัฐบาลว่า ตนเข้าใจความพยายามรัฐบาลที่จะเยียวยาในลักษณะ มาตรการคงการจ้างงาน เพื่อรักษาระดับการจ้างงาน ไม่ให้คนตกงานไปมากกว่านี้ แต่วิธีการที่เลือกทำ มันไม่ได้นำไปสู่จุดนั้น

ทั้งนี้ มาตรการคงการจ้างงาน ที่ต้องทำคือ รัฐบาลช่วยจ่ายค่าจ้าง 50% โดยต้องจ่ายตรงไปที่ นายจ้าง และนายจ้างต้องเอาไปจ่าย ลูกจ้าง ห้ามเอาไปใช้อย่างอื่น และนายจ้างต้องรักษาระดับการจ้างงาน ให้อยู่ที่ 90% ของระดับเดิม จึงจะได้รับเงินช่วยเหลือ และต้องจ่ายเป็นก้อนเดียวไม่แยกจ่ายนายจ้างกับลูกจ้าง จำนวนเงินและระยะเวลาต้องมากพอให้นายจ้างยอมที่จะไม่ปลดคนงาน

รัฐบาลช่วยจ่ายค่าจ้างให้นายจ้างในช่วงที่ไม่มีรายได้ ทำให้นายจ้างไม่ต้องไล่ลูกจ้างออกไป และลูกจ้างก็ไม่ตกงาน ยังได้รับเงินเดือน ยังมีงานทำอยู่ ประเทศสามารถรักษาระดับการจ้างงานได้ win-win ทุกฝ่าย แต่กลับมาดูสิ่งที่รัฐบาลทำ 1.รัฐจ่ายตรงไปที่ลูกจ้าง 50% (ไม่เกิน 7,500 บาท) + 2,500 บาท เป็นเวลา 1 เดือน (แบบให้เปล่า) 2.รัฐจ่ายตรงไปที่นายจ้าง 3,000 บาท ต่อลูกจ้าง 1 คน เป็นเวลา 1 เดือน (แบบให้เปล่า ปลดคนงานได้ตามใจชอบ)

“นั่นหมายถึง ลูกจ้างได้รับเงินก้อนหนึ่ง นายจ้างได้รับอีกก้อนหนึ่ง โดยที่ทั้งคู่ไม่ได้ผูกกัน ต่างคนต่างได้รับเงิน และทั้งคู่ก็ไม่ได้ผูกกับการจ้างงาน นั่นคือ แจกเงินให้เปล่าตามปกติ แค่นั้นจบ ไม่ได้ช่วยรักษาระดับการจ้างงานตามที่ตั้งใจเลย

สิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไป คือ รับเงินเสร็จ ปลดคนงาน ตกงานกันเหมือนเดิม ถ้าคิดแค่การแจกเงิน ก็คงบรรลุเป้าหมาย แต่เงินจำนวนเดียวกันนี้ เราสามารถใช้รักษาระดับการจ้างงานของประเทศไปด้วยได้นะครับ ถ้าเราเข้าใจกลไกของมัน” นายเผ่าภูมิกล่าว