ประชาธิปัตย์ แบไต๋ โหวตแก้รัฐธรรมนูญ “บัตรสองใบ” วาระสาม

นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.)
นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.)

ประชาธิปัตย์ นัดประชุม ส.ส. ลงมติแก้ไขรัฐธรรมนูญ บัตรสองใบ วาระสาม ปัดแก้กติกาเลือกตั้งเพื่อนักการเมือง-พรรคใหญ่ได้เปรียบ ลั่น รัฐธรรมนูญจะเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น

วันที่ 6 กันยายน 2564 นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) และประธาน ส.ส. ปชป. กล่าวถึงการพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า ตนได้นัด ส.ส. ของพรรครวมทั้งรัฐมนตรีและผู้เกี่ยวข้องเข้าประชุมร่วมกันในวันอังคารที่ 7 กันยายน 2564 เวลา 13.30 น. เพื่อเตรียมความพร้อมในการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ..) พุทธศักราช …. (แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 83 และมาตรา 91) ซึ่งเป็นการพิจารณาเพื่อลงมติในวาระที่สาม

นายองอาจกล่าวว่า ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ เราได้พิจารณาให้ความเห็นชอบตั้งแต่วาระรับหลักการ จนถึงการพิจารณาในวาระที่สอง ไม่ใช่เพราะเป็นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่พรรคเป็นผู้เสนอ และผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภาในวาระรับหลักการเท่านั้น แต่เป็นเพราะการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญครั้งนี้จะช่วยทำให้รัฐธรรมนูญมีความเป็นประชาธิปไตยมากยิ่งขึ้น

“ถึงแม้การแก้ไขครั้งนี้จะเกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง ส.ส. ซึ่งมองโดยทั่วไปแล้วดูเหมือนว่า ส.ส. แก้รัฐธรรมนูญเพื่อประโยชน์ของตัวเอง แต่เมื่อมองอย่างถี่ถ้วนแล้วจะเห็นว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้เป็นการแก้ไขเพื่อประโยชน์ของประชาชนเพราะการเลือกตั้งแบบเดิมจะใช้บัตรเลือกตั้งใบเดียว เลือกทั้ง ส.ส. เขต และ ส.ส. บัญชีรายชื่อไปพร้อมกัน”

“แต่เมื่อแก้ไขแล้วจะใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ คือ เลือก ส.ส. เขต 1 ใบ เลือก ส.ส.บัญชีรายชื่อหรือเลือกพรรคอีก 1 ใบ เท่ากับเปิดโอกาสให้ประชาชนสามารถแสดงเจตจำนงในการเลือกตั้งได้อย่างเต็มที่โดยไม่มีข้อจำกัด”

นายองอาจกล่าวว่า นอกจากนั้นยังเป็นการเปิดโอกาสให้ประชาชนมีสิทธิเสรีภาพเพิ่มมากขึ้น และทำให้พรรคการเมืองเข้มแข็ง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเสริมสร้างให้ประชาธิปไตยเข้มแข็งตามไปด้วย

“ส่วนที่บางฝ่ายวิตกว่าการใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ จะทำให้พรรคการเมืองขนาดใหญ่ได้เปรียบเราว่าไม่ควรมองการได้เปรียบเสียเปรียบเฉพาะการเลือกตั้งแต่ละครั้ง แต่เราควรมองเรื่องของหลักการพื้นฐานเพื่อสร้างความเข้มแข็งทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตยระยะยาวมากกว่าการคิดถึงประโยชน์จากการเลือกตั้งเฉพาะหน้าเท่านั้น”

นายองอาจทิ้งท้ายว่า สำหรับการที่พรรคการเมืองบางพรรคจะยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความวินิจฉัยว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ทำได้หรือไม่ ก็เป็นสิทธิที่จะยื่นเรื่องให้วินิจฉัย แต่ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ ขอยืนยันว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ไม่มีอะไรขัดรัฐธรรมนูญแต่อย่างใด