
เศรษฐกิจ-แก้ปัญหาปากท้องถูก “ตีปี๊บ” จากรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในสภาวะ “ขาขึ้น”
ภายหลังการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.บิ๊กตู่ 5) รัฐบาล-คสช.โกยแต้มจากการลงพื้นที่ต่างจังหวัดสัปดาห์ละ 2 ครั้ง ออกนโยบายประชานิยมเต็มสูบ ขณะที่พรรคการเมืองถูกคำสั่งพิเศษ ห้ามทำกิจกรรมทางการเมือง
ขณะที่มรสุมการเมืองแหวนของแม่-นาฬิกาของเพื่อนพุ่งเป้า พี่ใหญ่-พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ-รมว.กลาโหม ทว่า ด้วยบารมีของ พล.อ.ประวิตร ตลอด 3 ปี ของรัฐบาล-คสช. ได้สยายปีกปกคลุมองค์กรตรวจสอบ-อิสระยกแผง
อย่างไรตาม “สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” แม่ทัพเศรษฐกิจ มองทะลุปี 2561 ว่า ถนนทุกสายกำลังเดินหน้าเข้าสู่โหมดการเมืองเต็มตัว พรรคการเมือง-นักเลือกตั้งกำลังตีปีก นับตั้งแต่ พล.อ.ประยุทธ์ ประกาศวันเลือกตั้ง
จึงสั่งขันนอต “ทีม พี.อาร์.” ใหม่ ดึงสื่อทีวี-วิทยุของรัฐ อาทิ อสมท กรมประชาสัมพันธ์ พื้นที่กระจายข่าวเชิงรุก-ตอบโต้สื่อโซเชียลมีเดีย “อยากให้ประชาชนรู้ว่า รัฐบาลกำลังทำอะไรให้ เช่น โครงการเพื่อคนจน หรือมาตรการช่วยเหลือ SMEs”
“กอบศักดิ์ ภูตระกูล” แม้จะเลื่อนชั้นไปเป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ไม่ได้ออกแรงโหมโรงนโยบายสำคัญของรัฐบาลเหมือนช่วงเป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี-โฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี-สมคิดแล้ว ได้รับบัญชาจาก พล.อ.ประยุทธ์ ให้มาเร่งเรตติ้งให้กับรัฐบาลอีกครั้ง
เพื่อไม่ให้ตกมาเป็น “ภาระ” ของ “ณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์” โฆษกประจำตัวแม่ทัพเศรษฐกิจ-ทีมสมคิด ที่ต้องแถลง-ชี้แจงนโยบายเศรษฐกิจสำคัญที่ผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุม ครม.แต่เพียงลำพัง กลายเป็น “ข่าวสั้นทันโลก”
ขณะที่ “เสธ.ไก่อู”-พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกรัฐบาลตัวจริง-เสียงจริง กลับตาลปัตรกลายเป็น “กองหนุน” เคยเสริม-เติม บางช่วง-บางตอนหลังการให้สัมภาษณ์ของ พล.อ.ประยุทธ์ ทุกครั้งหลังการประชุม ครม.และส่งข่าวแจกผ่านไลน์นักข่าวเท่านั้น
นอกจากนี้ยังต้อง “แบ่งร่าง” ไปทำหน้าที่ “รักษาการอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์” อีกตำแหน่งหนึ่ง ทำให้งาน “พี.อาร์.” ในทำเนียบ “โหลด” เป็นเท่าตัว แม้ “เสธ.ไก่อู” จะกระจายข่าว-ความคิดของ พล.อ.ประยุทธ์ ทุกวัน วันละหลาย ๆ ข่าวก็ตาม
ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ พูดทีเล่นทีจริงระหว่างพบปะประชาชนเพื่อมอบถุงยังชีพให้กับผู้ประสบภัยที่ จ.ตรัง ว่า “โฆษกไก่อู โดนด่าทุกวัน ยิ่งพูดยิ่งโดน วันนี้พูดอะไรไม่ได้ผิดไปหมด จึงต้องมาทบทวนกันใหม่ว่าเราจะทำงานกันอย่างไร” ก่อนจะกระทบชิ่งทีมโฆษกรัฐบาล-ทาบทาม “น้องมารีญา”-มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2017 ให้มาร่วมทีมงานโฆษกรัฐบาล
สำหรับ “ตัวหลัก” ที่คอยแถลง “ข้อสั่งการ” ของ พล.อ.ประยุทธ์ จึงตกเป็นของ “ลิซ่า”-พ.อ.หญิง ทักษดา สังขจันทร์ ผู้ช่วยโฆษก และกำลังเสริมแถลงมติ ครม. เป็นหน้าที่ “เสธ.ก้อง” พ.อ.อธิสิทธิ์ ไชยนุวัติ ผู้ช่วยโฆษกอีกคน
ด้าน “เสธ.โหน่ง”-พล.ต.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษก ที่คอยชี้แจงมติ ครม.เกี่ยวกับสนธิสัญญา-ความร่วมมือ-ข้อตกลงระว่างประเทศ กลับ “หายหน้า-ห่างเหิน” ไปจากหน้าสื่อกระแสหลัก
ขณะที่ทหาร-พลเรือน ที่แต่งตั้งขึ้นมาเป็นโฆษกประจำตัวรองนายกฯ หลายอัตรา มีเพียง พล.อ.อ.มณฑล สัชฌุกร โฆษกประจำตัว-พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกฯ-รมว.ยุติธรรมเท่านั้น ที่ขะมักเขม้นส่งข่าว พี.อาร์.ให้ พล.อ.อ.ประจิน
ยิ่งก่อนหน้านี้ ครม.เคยมีการแต่งตั้งโฆษกประจำกระทรวง-หน่วยงาน ทำให้การตีปี๊บผลงานรัฐบาลของทีมโฆษกรัฐบาล ไม่แรงพอที่จะสื่อสาร-ทำความเข้าใจให้ถึงประชาชนได้อย่างสิ้นความสงสัย
บางครั้งบางคราว ต้องให้ “เจ้ากระทรวง” มาแถลงที่ทำเนียบรัฐบาล โดยเฉพาะเรื่องร้อน ๆ ที่คาบเกี่ยวกับปัญหาปากท้อง-ราคาสินค้าเกษตรกับวาทกรรมทางการเมือง จนถูกกลบข่าวดีของรัฐบาลให้ “ตกขอบ” จากหน้าสื่อกระแสหลัก
ประกอบกับ “วันแมนโชว์” ของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ยังคงสร้างสีสันไม่เว้นวัน จนทำให้ผลงานรัฐบาลถูกจม-กลบไปกับกระแสการเมืองรูทีน
ช่วงโค้งสุดท้ายรัฐบาล-คสช.จึงต้องเร่งกระจายข่าว-ตีปี๊บผลงาน โต้กลับวาทกรรมทางการเมืองว่าเป็นช่วงขาลง