ครม.ไฟเขียว เสนอ “อุทยานธรณีขอนแก่น” เป็นอุทยานธรณีโลกของยูเนสโก ชูแหล่งค้นพบซากไดโนเสาร์ 5 สายพันธุ์ใหม่ของโลก
วันที่ 21 มิถุนายน 2565 ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบเสนออุทยานธรณีขอนแก่นเป็นอุทยานธรณีโลก ขององค์การเพื่อการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ UNESCO ซึ่งอุทยานธรณีขอนแก่น มีเนื้อที่ประมาณ 1,038 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ 3 อำเภอในจังหวัดขอนแก่น คือ อำเภอภูเวียง อำเภอเวียงเก่า และอำเภอมัญจาคีรี ซึ่งอำเภอมัญจาคีรี เป็นอำเภอที่ ครม.เห็นชอบให้เพิ่มรวมอยู่ในพื้นที่อุทยานธรณีขอนแก่น เนื่องจากเป็นแห่งค้นพบซากไดโนเสาร์เช่นกัน ลักษณะโดดเด่นของอุทยานธรณีขอนแก่นนี้ เป็นแหล่งค้นพบซากไดโนเสาร์ดึกดำบรรพ์สายพันธุ์ใหม่ของโลก 5 สายพันธุ์
ได้แก่ 1.สยามโมซอรัส สุธีธรนี 2.ภูเวียงโกซอรัส สิรินธรเน 3.สยามโมไท-รันนัสอีสานเอนซิส 4.กินรีมิมัส ขอนแก่นเอนซิส และ 5.ภูเวียงเวเนเตอร์ แย้มนิยมมิ และยังพบรอยเท้าสัตว์ร่วมยุคกับไดโนเสาร์ เช่น จระเข้และปลาโบราณ
นอกจากนี้ ยังมีแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ เชิงธรณีวิทยาที่สำคัญหลายแห่ง เช่น ศูนย์ศึกษาวิจัยและพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ หลุมขุดค้นไดโนเสาร์ อุทยานแห่งชาติภูเวียง น้ำตกดาดฟ้า เป็นต้น
น.ส.รัชดากล่าวว่า สำหรับขั้นตอนจากนี้ ทางกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจะยื่นความประสงค์ต่อยูเนสโกภายในวันที่ 1 กรกฎาคม 2565 หากอุทยานธรณีขอนแก่นได้รับการรับรองเป็นอุทยานธรณีโลกของยูเนสโกแล้ว จะทำให้อุทยานธรณีขอนแก่นเป็นที่รู้จักและยอมรับจากนานาประเทศ ซึ่งส่งผลดีต่อภาคการท่องเที่ยวของประเทศ สร้างรายได้ให้แก่ท้องถิ่นและสร้างความตระหนักรู้และการอนุรักษ์ทรัพยากรของประชาชนในพื้นที่ด้วย
น.ส.รัชดากล่าวว่า อุทยานธรณีโลกของยูเนสโก (UNESCO Global Geoparks) เป็นขอบเขตพื้นที่ที่มีคุณค่าทั้งด้านธรณีวิทยา โบราณคดี นิเวศวิทยา และวัฒนธรรม โดยมีความสมดุลระหว่างการอนุรักษ์ การศึกษาวิจัย และการพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน ภายใต้การจัดการอย่างมีส่วนร่วมทั้งจากภาครัฐ ท้องถิ่น และชุมชน ปัจจุบันไทยมีอุทยานธรณีโลกที่ได้รับการรับรองแล้ว 1 แห่ง คือ อุทยานธรณีสตูล เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2562 ที่ผ่านมา ส่วนการเสนออุทยานธรณีโคราชเป็นอุทยานธรณีโลกนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของยูเนสโก