5 หน่วยงานภาครัฐและเอกชนชั้นนำ MOU ศึกษาพัฒนาการใช้ประโยชน์จากพลาสติกเหลือใช้
เพื่อนำมาเป็นส่วนผสมในแอสฟัลต์คอนกรีตสำหรับงานทาง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 7 ต.ค.2563 กรมทางหลวงชนบท (ทช.) กรมทางหลวง (ทล.) มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCG และกลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ “โครงการศึกษาพัฒนาการใช้ประโยชน์จากพลาสติกเหลือใช้ เพื่อนำมาเป็นส่วนผสมในแอสฟัลต์คอนกรีตสำหรับงานทาง” (MOU SIGNING EVENT PROPOSAL)
- ร้านธงฟ้า 1.4 แสนแห่ง พร้อมรับดิจิทัลวอลเลต เช็กจังหวัดไหนร้านธงฟ้ามาก-น้อยสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
โดยมี นายปฐม เฉลยวาเรศ อธิบดีกรมทางหลวงชนบท นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง ศาสตราจารย์คลินิก นพ.นิเวศน์ นันทจิต อธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ SCG และนายฉัตรชัย เลื่อนผลเจริญชัย ประธานบริหาร กลุ่มบริษัทดาวฯ ร่วมในพิธี
สำหรับโครงการดังกล่าวเป็นความร่วมมือด้านวิชาการ ทรัพยากร และการบริหารจัดการที่ภาคเอกชน โดย SCG และกลุ่มบริษัท ดาว จะนำประสบการณ์และองค์ความรู้จากการวิจัยและพัฒนาการทำถนนพลาสติกรีไซเคิลที่ได้ริเริ่มมาตั้งแต่ปี 2561 ผ่านกระบวนการทดสอบตามมาตรฐานในห้องปฏิบัติการ และใช้งานจริงในพื้นที่ของภาคเอกชนต่าง ๆ เช่น นิคมอุตสาหกรรมอาร์ ไอ แอล จ.ระยอง และนิคมอุตสาหกรรม อมตะซิตี้ ชลบุรี เป็นต้น มาใช้ศึกษาและพัฒนาโครงการนี้
โดยมีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้เข้าร่วมศึกษางานวิชาการ รวมถึงผลกระทบเชิงสิ่งแวดล้อม ตลอดจนกรมทางหลวง และกรมทางหลวงชนบท ได้เข้ามาร่วมศึกษาและสนับสนุนการจัดทำมาตรฐานการนำพลาสติกเหลือใช้มาเป็นส่วนผสมในแอสฟัลต์คอนกรีต
หากโครงการฯ สำเร็จ จะสามารถขยายผลไปสู่การทำถนนในพื้นที่ต่าง ๆ ของประเทศไทยได้จริง ช่วยส่งเสริมการบริหารจัดการขยะ โดยเฉพาะพลาสติกได้อย่างยั่งยืนตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน และช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนได้อย่างเป็นรูปธรรม
ทั้งนี้ ถนนจากพลาสติกรีไซเคิลความยาว 1 กม.ที่มีหน้ากว้างถนน 6 เมตร จะสามารถนำขยะพลาสติกไปใช้ประโยชน์ได้ถึงประมาณ 3 ตัน หรือเท่ากับถุงพลาสติกเกือบ 900,000 ใบ ปัจจุบัน SCG และกลุ่มบริษัท ดาว ได้ร่วมกับภาคเอกชนทำถนนแอสฟัลต์คอนกรีตต้นแบบที่มีพลาสติกเหลือใช้เป็นส่วนผสม รวมความยาวถนน 7.7 ก,” สามารถนำพลาสติกเหลือใช้หมุนเวียนกลับมาสร้างคุณค่าได้ รวม 23 ตัน
นายสราวุธกล่าวว่า กรมทางหลวงเป็นหน่วยงานที่ก่อสร้าง และบำรุงรักษาทางหลวงทั่วประเทศกว่า 70,000 กม. ต่อ 2 ช่องจราจร ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ และหนึ่งในประเด็นยุทธศาสตร์ของกรมคือ การพัฒนาและส่งเสริมการวิจัยพัฒนา การสร้างนวัตกรรม การใช้เทคโนโลยี การสร้างระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ และการผสานเทคโนโลยีดิจิทัลด้านการพัฒนาระบบทางหลวง
“กรมมีองค์ความรู้ทั้งด้านงานวิจัย งานวิเคราะห์และตรวจสอบ และมีมาตรฐานต่าง ๆ ด้านงานทางมามากกว่า 108 ปี การที่ได้ร่วมมือกับกรมทางหลวงชนบท เอสซีจี กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย และมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ในการร่วมกันวิจัยและพัฒนาเพื่อสร้างมาตรฐานทางใหม่ ๆ ในครั้งนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญอีกครั้งหนึ่งในอนาคต จะนำพลาสติกเหลือใช้มาใช้ในงานก่อสร้าง และบำรุงรักษาเส้นทาง จะช่วยลดต้นทุน เพิ่มความแข็งแรงของถนนและลดมลพิษสิ่งแวดล้อม สามารถยืดอายุการใช้งานจาก 7 ปี เป็น 9 ปี”
ทั้งนี้โครงการดังกล่าวเป็นนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการให้มีการศึกษาและพัฒนาการนำพลาสติกเหลือใช้ มาใช้ประโยชน์ ซึ่งในต่างประเทศ เช่น ประเทศอินโดนีเซีย อินเดีย ได้มีการทำแล้วเห็นผล
สำหรับการนำมาใช้ส่วนผสมจะสามารถลดปริมาณยางมะตอยลงได้ถึง 6-10% ซึ่งยืนยันความปลอดภัย ร่วมถึงจะสามารถลดงบประมาณการซ่อมบำรุงถนนได้กว่าปีละ 5% หรือ 1,500 ล้านบาทต่อปี
ตามแผนดำเนินการคาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ภายในปี 2564 จะเป็นการทดลองในระยะทาง 1 กม. โดยจะดำเนินเป็นลักษณะถนนพลาสติก และถนนยางมะตอยปกติ ในเส้นทางเดียวกันแต่คนละทาง ทั้งนี้ เพื่อจะนำข้อมูลการใช้งานจริงในเส้นทางเดียวกัน กับการใช้ผิวทาง 2 แบบ มาวิเคราะห์และเปรียบเทียบอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม เส้นทางนำร่องคาดว่าจะเป็นถนนในพื้นที่จังหวัดภาคกลาง
นายปฐมกล่าวว่า กรมได้ทำการทดลองนำขยะประเภทพลาสติกที่ใช้แล้วมาผสมในแอสฟัลต์คอนกรีตในอัตราส่วนเหมาะสม 8% และ 10% ของน้ำหนักแอสฟัลต์ซีเมนต์ในห้องปฏิบัติการ ซึ่งมีผลเป็นที่น่าพอใจ จึงได้นำร่องทดลองปูผิวถนนพลาสติกแอสฟัลต์ ในพื้นที่จริงบนถนนทางหลวงชนบทสาย สบ.1004 อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี
เพื่อศึกษาคุณสมบัติในการต้านทานต่อการเกิดร่องล้อหรือการต้านทานต่อการยุบตัวของผิวถนนพลาสติกแอสฟัลต์ ภายใต้สภาวะแวดล้อมจริงที่มีน้ำหนักรถบรรทุกหรือแรงกระทำซ้ำๆ กันของปริมาณการจราจรการใช้งานจริงของรถยนต์ขนาดต่างๆ โดยเฉพาะรถบรรทุกขนาดใหญ่ และมีการติดตามผลเป็นระยะๆ
“ผลทดสอบในเบื้องต้น พบว่าผิวถนนพลาสติกแอสฟัลต์มีความแข็งแรง ทนต่อสภาวะแวดล้อมได้ดีและเป็นไปตามมาตรฐานสากล”
นายรุ่งโรจน์กล่าวว่า เอสซีจีมุ่งนำหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน มาประยุกต์ใช้ทั้งในองค์กรและสร้างความร่วมมือกับทุกภาคส่วนมากว่า 2 ปี ด้วยเห็นถึงความสำคัญของการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าสูงสุด เพื่อแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมที่โลกกำลังเผชิญ
โดยเฉพาะปัญหาขยะพลาสติกที่ยังขาดการจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ หนึ่งในนั้นคือการร่วมกับกลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย เพื่อทำต้นแบบถนนที่มีส่วนผสมของพลาสติกที่เหมาะสมต่อการใช้งานถนนในประเทศไทย อีกทั้งยังเป็นส่วนสำคัญในการสนับสนุนการคัดแยกขยะอย่างถูกวิธี เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและสังคมให้ดีขึ้นได้อีกด้วย
“เอสซีจี จึงยินดีที่กรมทางหลวง และกรมทางหลวงชนบท เห็นถึงประโยชน์ในการนำประสบการณ์และองค์ความรู้จากการทำถนนจากพลาสติกรีไซเคิลของเอสซีจี และกลุ่มบริษัท ดาว มาต่อยอดพัฒนาโครงการนี้ร่วมกันกับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ “
โดยเอสซีจีจะให้คำปรึกษาด้านเทคนิคเกี่ยวกับการจัดหาเศษพลาสติกเหลือใช้ อาทิ ชนิดและคุณภาพ รวมทั้งวิธีการแปรรูป อาทิ การล้าง บดย่อย และบรรจุ เพื่อให้พร้อมต่อการใช้งาน และยังจะเดินหน้ารณรงค์ส่งเสริมให้เกิดการคัดแยกขยะอย่างถูกวิธี
เพื่อให้สามารถนำขยะพลาสติกจากองค์กรและชุมชนมาใช้ประโยชน์ในโครงนี้ได้ โดยมุ่งหวังว่าจะสามารถผลักดันโครงการดังกล่าวไปสู่การเป็นมาตรฐานการทำถนนของภาครัฐ เพื่อใช้งานจริงในพื้นที่อื่นๆ ทั่วประเทศได้ต่อไป
นายฉัตรชัยกล่าวว่า กลุ่มบริษัทดาว ได้ริเริ่มโครงการถนนพลาสติกรีไซเคิลมาแล้วในหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐอเมริกา อินโดนีเซีย อินเดีย เวียดนาม และฟิลิปปินส์
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นทางออกให้กับขยะพลาสติกที่รีไซเคิลได้ยาก ให้เกิดการนำกลับมาใช้ประโยชน์ รวมทั้งยังสร้างความตระหนักในด้านการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าตามแนวทางเศรษฐกิจหมุนเวียน ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาได้ช่วยลดขยะเทียบเท่ากับบรรจุภัณฑ์พลาสติกกว่า 50 ล้านถุงแล้ว
“โครงการถนนพลาสติกนี้เป็นประโยชน์อย่างมากต่อการก่อสร้างถนน ซึ่งช่วยให้มีความแข็งแรงทนทานมากขึ้นกว่าการใช้ยางมะตอยตามปกติ และยังเป็นประโยชน์ต่อการจัดการขยะ เพราะช่วยนำพลาสติกเหลือใช้กลับมาใช้ประโยชน์และสร้างมูลค่า ช่วยลดปริมาณพลาสติกที่จะต้องถูกทิ้งเป็นขยะ เป้าการทำงานด้านความยั่งยืนของ ดาว คือ หยุดขยะพลาสติก”