เวนคืนอัพเดต
ส่งท้ายปี 2563 คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติร่าง พ.ร.ฎ.กำหนดเขตที่ดินที่จะเวนคืน ในท้องที่ ต.บางบ่อ และ ต.เปร็ง อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ พ.ศ. …. ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ เพื่อให้กรมทางหลวงชนบท (ทช.) เดินหน้าโครงการต่อไป
โดยเป็นการเวนคืนเพื่อก่อสร้างทางหลวงชนบทสายเชื่อมระหว่างทางหลวงชนบท สป.2003 กับทางหลวงชนบท ฉช.3001 ซึ่งมีการออก พ.ร.ฎ.เวนคืนไปแล้ว เมื่อวันที่ 4 ก.พ. 2555-วันที่ 3 ก.พ. 2559 และหมดอายุไปแล้ว ทำให้การเวนคืนยังดำเนินการไม่แล้วเสร็จภายในระยะเวลาที่กำหนด
- ร้านธงฟ้า 1.4 แสนแห่ง พร้อมรับดิจิทัลวอลเลต เช็กจังหวัดไหนร้านธงฟ้ามาก-น้อยสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
ประกอบกับรัฐบาลมีนโยบายเร่งด่วนต้องดำเนินโครงการในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) และพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษชายแดน (SEZ) จึงได้ชะลอการดำเนินโครงการไว้ก่อน
ปัจจุบันกรมทางหลวงชนบทมีความพร้อมที่จะดำเนินโครงการก่อสร้างถนนสายดังกล่าว จึงขออนุมัติเพื่อดำเนินการต่อไป
อย่างไรก็ตาม ได้มีการสำรวจและออกแบบรายละเอียดใหม่ เพื่อรองรับปริมาณการจราจรที่เพิ่มขึ้น ตลอดจนเป็นการเชื่อมโยงโครงข่ายถนนโลจิสติกส์ และการขนส่งในพื้นที่เพื่อให้สอดรับกับสนามบินสุวรรณภูมิ
ขณะที่พื้นที่สองข้างทางของถนนดังกล่าวมีการพัฒนาและเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว เป็นที่ตั้งของสถานศึกษาขนาดใหญ่ มีหอพักจำนวนมาก และมีหมู่บ้านจัดสรรขนาดใหญ่หลายโครงการ จึงต้องมีการพัฒนาโครงข่ายถนนที่มีอยู่แล้วให้มีความสมบูรณ์มากขึ้น
รูปแบบของโครงการ เป็นการก่อสร้างถนนสายใหม่ ขนาด 4 ช่องจราจร พร้อมทางต่างระดับข้ามมอเตอร์เวย์สาย 7 กรุงเทพฯ-ชลบุรีสายใหม่ พร้อมเกาะกลาง รวมเป็นระยะทางทั้งสิ้น 4.864 กม. เพื่อเป็นโครงข่ายเชื่อมโยงระหว่างถนนสาย 34 กับสาย ฉช.3001 ถนนหลวงแพ่ง หรือถนนเทพราช-ลาดกระบัง ใช้งบประมาณดำเนินการ 2,625 ล้านบาท
ตลอดเส้นทาง มีที่ดินที่ถูกเวนคืนประมาณ 122 ไร่ มีอาคารและสิ่งปลูกสร้างที่ถูกเวนคืนประมาณ 65 รายการ โดยเขตทางที่จะเวนคืนมีส่วนแคบที่สุด 200 เมตร และส่วนกว้างที่สุด 1,600 เมตร
ตามแผนการดำเนินการ จะกำหนดราคาและจ่ายเงินค่าทดแทนอสังหาริมทรัพย์ ในปี 2565-2566 เริ่มก่อสร้างในปี 2567-2569
โดยโครงการนี้ได้จัดประชาพิจารณ์ประชาชนในพื้นที่แล้วเมื่อปี 2548 โดยมีผู้เห็นด้วยกับโครงการ 68.97% และจากผลศึกษาวิเคราะห์ความเหมาะสมทางด้านเศรษฐกิจในการดำเนินโครงการ พบว่า มูลค่าปัจจุบันสุทธิ (NPV) มีค่า 816.19 ล้านบาท อัตราผลตอบแทนทางด้านเศรษฐกิจ (EIRR) มีค่า 17.51% จึงมีความเหมาะสมที่จะลงทุน