ปตท.-กัลฟ์-ไชน่าฮาร์เบอร์ ปิดดีลแหลมฉบังเฟส 3 สัมปทาน 35 ปี

บอร์ดอีอีซี เคาะผลเจรจาท่าเรือแหลมฉบังเฟส3 หลัง “ปตท.-กัลฟ์-ไชน่าฮาร์เบอร์” อัพผลตอบแทนสัมปทานคงที่ 35 ปี ให้อีก 1,050 ล้าน เป็น 29,050 ล้าน รอครม.ไฟเขียว คาดอีก 3 เดือนเซ็นปิดดีล

รายงานข่าวเปิดเผยว่า วันที่ 1 มี.ค. 2564 ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) ครั้งที่ 5/2563 มีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ได้อนุมัติผลการเจรจาโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 ระยะที่ 1 ท่าเทียบเรือ F วงเงิน 84,361 ล้านบาท ซึ่งกลุ่มกิจการร่วมค้า GPC ประกอบด้วย บจ.พีทีที แทงค์ เทอร์มินัล, บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ และ บจ.ไชน่า ฮาร์เบอร์ เอ็นจิเนียริ่ง จากประเทศจีน ผู้ชนะประมูลรับสัมปทาน

โดยเอกชนเสนอผลประโยชน์ให้รัฐเป็นค่าสัมทานคงที่ 35 ปี คิดเป็นมูลค่าปัจจุบัน 29,050 ล้านบาท ยังต่ำกว่ากรอบคณะรัฐมนตรี(ครม.) อนุมัติ 32,225 ล้านบาท แต่เมื่อคิดเป็นมูลค่าตอบแทนตลอด 35 ปี จะอยู่ที่ 87,400 ล้านบาท ต่ำกว่าที่คาดไว้ 300 กว่าล้านบาท

“การท่าเรือแห่งประเทศไทยได้เจรจากับเอกชนได้เพิ่มขึ้นจากเดิม 1,050 ล้านบาท ที่เคยเสนออยู่ที่ 28,000 ล้านบาท และยังมีผลตอบแทนเป็นค่าผันแปรอีก 4,554 ล้านบาท เมื่อรวม2 วงเงินนี้ รัฐจะได้ผลตอบแทนจากโครงการนี้ 33,604 ล้านบาท ต่ำกว่ากรอบที่ครม.อนุมัติ 36,600 ล้านบาทไม่มาก หลังจากนี้จะเสนอครม.อนุมัติและเซ็นสัญญาคาดว่าภายใน3เดือนนี้“